บทที่ 1751 ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1751 ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใด

 

ฟางหยวนมองวิญญาณอมตะขโมยชีวิตอย่างใกล้ชิด

 

วิญญาณอมตะดวงนี้คล้ายผึ้งขนาดเท่ากําปั้นมนุษย์ ร่างกายของมันมีแถบสีทองและสีดําสลับกัน นอกจากนั้นมันยังเรืองแสงสีแดงออกมาตลอดเวลา

 

ส่วนที่สะดุดตาที่สุดคือเหล็กในของผึ้ง มันบางและแหลมคมมาก ความยากของเหล็กในยังมากกว่าตัวของมันเอง

 

ตามข่าวลือ วิญญาณอมตะขโมยชีวิตเป็นวิญญาณอมตะดวงแรกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ มันมีต้นกําเนิดที่ไม่ธรรมดา

 

ฟางหยวนมองวิญญาณอมตะขโมยชีวิตและคิดเกี่ยวกับมัน แม้เทพปีศาจปล้นสวรรค์จะถูกเรียกว่าเทพปีศาจ แต่ธรรมชาติของเขากลับอ่อนโยนและไม่กระหายเลือด เขาแตกต่างจากเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างสิ้นเชิง

 

ฟางหยวนมีความรู้มากมายเกี่ยวกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์เป็นปีศาจต่างโลก เขาต้องการกลับโลกใบเดิมที่เขาจากมา ธรรมชาติของเขาอ่อนโยและไม่ชอบการเข่นฆ่า เขาเพียงต้องการรวบรวมทรัพยากรและบ่มเพาะเพื่อหาวิธีกลับบ้านเท่านั้น

 

เส้นทางแห่งการโจรกรรมจึงเป็นคําตอบของเขา

 

ผู้อมตะระดับเก้าทั้งสิบคนล้วนเป็นตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์

 

หลังจากฟางหยวนกําเนิดใหม่ เขายิ่งให้ความสนใจและความสําคัญกับคนกลุ่มนี้มากขึ้น

 

นี่เป็นเพราะการจัดเตรียมของเทพอมตะและเทพปีศาจมีบทบาทสําคัญ ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถเปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้ในชีวิตก่อนหน้า

 

ความแข็งแกร่ง แผนการ และการมองการณ์ไกลของพวกเขาทําให้ฟางหยวนรู้สึกประทับใจ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่แรงบันดาลใจพุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน

 

“เทพปีศาจไร้ขอบเขต เทพอมตะกลุ่มดาว เทพอมตะแรกกําเนิด เทพอมตะบัวสวรรค์ เทพอมตะตะวันเดือด เทพปีศาจบัวแดง และเทพอมตะสวรรค์พิภพ พวกเขาใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อเข้าร่วมในสงครามห้าภูมิภาค

 

“มีเพียงเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เทพปีศาจคลั่ง และเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ไม่เคลื่อนไหว

 

“ไม่ เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับเป็นเชลยและเหลือเพียงดวงวิญญาณ เขาจะมีพลังพอที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างไร? ข้าเป็นผู้นํานิกายเงา การเข้าร่วมในการต่อสู้ของข้าคือการเคลื่อนไหวของเขา”

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณกล้าหาญและรักการเข่นฆ่า หลังจากความตาย เขายังสะสมกองกําลังและบรรลุความสําเร็จที่น่าสะพรึงกลัว เขาเป็นปรมาจารย์เอกในทุกเส้นทาง พิจารณาเพียงระดับความสําเร็จ เขาถือเป็นตัวตนที่อันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์และเหนือกว่าผู้อมตะระดับเก้าคนอื่นๆไปแล้ว”

 

“แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังต้องทําตามกฎพื้นฐานที่สุด โดยปราศจากพลังงานอมตะและวิญญาณอมตะ เขาก็ไม่มีเครื่องมือที่จะทําสิ่งใด

 

“สําหรับเทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพปีศาจคลั่ง ทั้งสองสามารถทํานายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่?

 

“พวกเขาควรจะสามารถทํานายได้ หลังจากทั้งหมดกระทั่งเทพอมตะแรกกําเนิดและเทพปีศาจไร้ขอบเขตยังทิ้งการจัดเตรียมของพวกเอาไว้ เทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพปีศาจคลั่งที่มาในภายหลังย่อมสังเกตเห็นและสามารถอนุมานบางสิ่ง

 

“หากพวกเขาสามารถทําลายการต่อสู้ครั้งนี้ แล้วพวกเขาจะทิ้งบางสิ่งไว้เพื่อแทรกแซงมันหรือไม่?”

 

“มีความเป็นไปได้ที่เทพปีศาจปล้นวิญญาณจะสนใจเพียงการกลับบ้าน แต่เทพปีศาจคลั่งจะไม่ทําสิ่งใดเลยงั้นหรือ? เขาป็นหนึ่งในเทพปีศาจที่บุกโจมตีวังสวรรค์ เขาย่อมต้องทิ้งบางสิ่งเอาไว้

 

“พวกเขาไม่เคลื่อนไหวในชีวิตก่อนหน้าของข้า แต่ข้าจะพบการจัดเตรียมของพวกเขาในชีวิตนี้หรือไม่?

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น หากเขาต้องการเอาชนะวังสวรรค์ เขาต้องหยิบยืมพลังอํานาจของผู้อมตะระดับเก้าเหล่านี้

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขัดจังหวะความคิดของฟางหยวน เขา กล่าว “ฟางหยวน ตอนนี้เจ้าได้รับวิญญาณอมตะขโมยชีวิตระดับแปดไปแล้ว นั่นหมายความว่าเจ้ามีวิญญาณอมตะระดับแปดถึงห้าดวงอยู่ในมือ ฮ่าฮ่า เจ้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดแต่กลับมีวิญญาณอมตะระดับแปดถึงห้าดวง สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ นอกจากวิญญาณอมตะขโมยชีวิตระดับแปด ฟางหยวนยังมีวิญญาณทัศนคติ วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ วิญญาณดาบแห่งปัญญา และวิญญาณป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณ

 

นี่ยังไม่รวมวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาให้ความสนใจฟางหยวนมาตลอดและค่อนข้างเข้าใจสถานการณ์ของเขา

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนัก

 

เขาจะบอกจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้อย่างไรว่าเขาจะได้รับวิญญาณอมตะระดับเพิ่มขึ้นในอนาคตเช่นวิญญาณฤดูใบไม้ผลิ วิญญาณฤดูร้อน วิญญาณปราณใหญ่ และวิญญาณความเสียใจ

 

หากเขากล่าวออกไป มันจะไม่ทําให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหวาดกลัวงั้นหรือ?

 

“วิญญาณขโมยชีวิตมีข้อบกพร่อง ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจปล้นวิญญาณทิ้งมันไว้เบื้องหลัง เขากังวลว่าวิญญาณดวงนี้จะนําภัยพิบัติมาสู่ผู้คน ดังนั้นเขาจึงดัดแปลงมันและทําให้มันใช้งานได้เพียงสามครั้ง การต่อสู้เพื่อปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาในชีวิตก่อนหน้า มันถูกใช้สังหารจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า จากนั้นมันก็ถูกทําลายโดยต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมของเฉินอี้

 

“นี่ไม่ใช่ข้อบกพร่องเดียวของมัน การใช้วิญญาณขโมยชีวิตเพียงลําพังไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรู นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่าอึดอัดใจ”

 

ดังนั้นตอนนี้ข้าต้องคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเพื่อลบข้อบกพร่องนี้

 

“หากเป็นไปได้ มันจะดีกว่าหากข้าสามารถหาวิธีใช้วิญญาณขโมยชีวิตได้มากกว่าสามครั้ง”

 

ความคิดต่างๆพุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวน

 

อย่างไรก็ตามเขารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขข้อบกพร่องของวิญญาณขโมยชีวิตที่ถูกดัดแปลงโดยเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มและกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ดูเหมือนวิญญาณขโมยชีวิตจะใช้งานได้เพียงสามครั้งถูกต้องหรือไม่?”

 

หัวใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางสั่นสะท้านขึ้น ฟางหยวนรู้เรื่องนี้จริงๆ!

 

นี่เป็นไปได้อย่างไร? หากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่รู้มาก่อน เขาจะไม่สามารถค้นพบเบาะแสใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนเพียงชําเลืองมองแต่กลับตระหนักถึงเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน!

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอุทานด้วยความตกใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

 

ขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวถ้อยคําเหล่านี้ออกมา การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเพราะคํากล่าวของเขาก็คือการยืนยันข้อสงสัยของฟางหยวน

 

เขาปรับอารมณ์และกล่าวด้วยท่าทางเขินอายย “ไม่ใช่ว่าข้าจงใจซ่อนมันจากเจ้า ข้าตั้งใจจะบอกเจ้าหลังจากนี้”

 

แม้จิตวิญญาณแผ่นดินจะไม่สามารถโกหก แต่พวกเขาสามารถคิดและวางแผน

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวว่าเขาตั้งใจจะบอกความจริงหลังจากนี้ แต่ความคิดของเขาคือเขาจะบอกความจริงหลังจากฟางหยวนค้นพบข้อบกพร่องนี้ นี่ไม่ถือเป็นการโกหก

 

ฟางหยวนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและเผยรอยยิ้มบาง “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ข้าต้องการแลกความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวกับวิญญาณอมตะ แต่วิญญาณอมตะขโมยชีวิตอยู่ในสภาพนี้ ดังนั้นท่านควรเพิ่มส่วนต่างให้ข้า”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลอกตาและพึมพํา “ข้ารู้เรื่องนี้ พูดมา เจ้าต้องการสิ่งใดอีก” 

 

ฟางหยวนยิ้ม “ข้ามีข้อเสนอ”

 

เขากล่าวข้อเสนอออกมา มันเป็นแนวคิดทั่วไป นั่นคือการกระชับความร่วมมือกับอีกสามเผ่าพันธุ์ด้วยการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกประหลาดใจ “เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ? เจ้ากําลังคิดที่จะยกระดับเส้นทางแห่งกาลเวลางั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนพยักหน้า

 

นี่เป็นสิ่งจําเป็น

 

ปัจจุบันเขายังไม่ได้สังหารเซี่ยชา เขาไม่มีวิญญาณฤดูใบไม้ผลิ วิญญาณฤดูร้อน วิญญาณฤดูใบไม้ร่วง และวิญญาณฤดูหนาว เขายังไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา

 

วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนส่วนใหญ่ได้มากจากไห่ฟานและคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโหลาหล

 

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของฟางหยวนอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด เส้นทางแห่งกาลเวลาก็เช่นกัน

 

นอกจากนี้มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงก็อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา ฟางหยวนต้องไปที่นั้น

 

ดังนั้นเขาจึงต้องยกระดับพลัน

 

ในทางแห่งกาลเวลา

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะพูดคุยกับอีกสามเผ่า ฟางหยวน สิ่งสําคัญในเวลานี้ยังเป็นวังสวรรค์ เราต้องกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เป็นอันตรายต่อแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างรวดเร็วที่สุด”

 

ฟางหยวนปลอบจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใดอยู่ อย่ากังวล ข้ากําลังรวบรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อจัดการวงสวรรค์ ข้ามีแผนสําหรับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านั้น ข้าจะปรับเปลี่ยนค่ายกลวิญญาณอมตะของเราเช่นกัน”

 

“ดีแล้ว” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตบไหล่ฟางหยวนและจากไป

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงไม่นานเขาก็นําวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลามามอบให้กับฟางหยวน

 

ท่ามกลางวิญญาณอมตะเหล่านี้มีวิญญาณอมตะระดับหกจํานวนสามดวงและวิญญาณอมตะระดับเจ็ดสองดวง

 

สําหรับฟางหยวน สิ่งที่มีประโยชน์กับเขามากที่สุดคือวิญญาณอมตะซ่อนเวลา มันมีความสามารถในการปกปิดตัวตนของผู้อมตะ

 

ต่อมาก็เป็นวิญญาณอมตะเข็มกาลเวลา วิญญาณอมตะดวงนี้เป็นวิญญาณสายโจมตี

 

อีกสามดวงเป็นวิญญาณอมตะระดับหกสายสนับสนุน

 

สองวันต่อมา

 

ทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนมากถูกโยนเข้าไปในวังวนแสงหลากสี

 

วิญญาณสติปัญญาพุ่งเข้าสู่วังวนแสงดังกล่าวราวกับแมวที่ได้กลิ่นปลา

 

ฟางหยวนเปิดมิติช่องว่างและเก็บวังวนแสงหลากสีไว้ภายใน

 

ย้อนกลับไปจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้วิธีนี้เพื่อย้ายวิญญาณสติปัญญาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไปหูมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

วิธีนี้ฟางหยวนเคยใช้ในชีวิตก่อนหน้ามาแล้วเช่นกัน

 

คราวนี้แม้เขาจะคุ้นเคยแต่เขาต้องแสร้งทําเป็นไม่เคยรู้จักมันมาก่อนและกล่าวยกย่องจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอย่างไม่รู้จบสิ้น

 

เพื่อซ่อนความลับของการกําเนิดใหม่ เขาต้องเริ่มจากการปกปิดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีความสุขกับคําสรรเสริญแต่เขาก็รู้สึกผิดหวังที่ความลับของเขาถูกเปิดเผย

 

“เห้อ…หัวใจของข้ารู้สึกว่างเปล่าเหลือเกิน” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ เขาต้องการครอบครองวิญญาณสติปัญญามาตลอด แต่เขาไม่คาดหวังว่ามันจะยังตกอยู่ในมือของฟางหยวนในที่สุด หลังจากทั้งหมดจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้วิญญาณอายุยืนจํานวนมากเพื่อเลี้ยงดูมัน

 

แต่เขาไม่สามารถทําสิ่งใด ภัยคุกคามจากวังสวรรค์ทําให้เขาต้องยอมรับสิ่งนี้ มิฉะนั้นวิญญาณสติปัญญาอาจจบลงในมือของวังสวรรค์

 

“ดูเคล็ดลับการหลอมรวมนี้ เราจะหลอมรวมมัน” หลังจากเก็บวิญญาณสติปัญญา ฟางหยวนส่งเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองมันอย่างระมัดระวัง “วิญญาณอมตะหมื่นตัวตน?”

 

“ถูกต้อง วิญญาณอมตะดวงนี้จะเพิ่มพลังการต่อสู้ของข้าได้มาก มันจะเป็นประโยชน์ในการต่อต้านวังสวรรค์” ฟางหยวนกล่าว “เริ่มเตรียมการได้เลย ข้าจะออกไปรวบรวมทรัพยากรอมตะระดับแปดทั้งหมด”

 

“โอ้ เดี่ยว เจ้าจะไม่แก้ไขค่ายวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนโบกมือโดยไม่หันหลังกลับ “อย่ากังวล ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใดอยู่”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “…”