บทที่ 1547 แข่งเดินหมากจนอารมณ์ร้อน
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นที่กำลังดื่มชาอยู่กับผู้นำตระกูลเสิ่นได้ยินเสียงเป่ยโต่ว ก็รีบหันไปมองทางนายแห่งอาชูร่ากับจี้ซิวหร่าน
สองคนนั้น…กำลังแข่งเดินหมากกันงั้นเหรอ?
แข่งเดินหมากกันจนอารมณ์ร้อนขึ้นมาเลยจะตีกัน?!
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า หน้าตาเหมือนไม่อยากเชื่อ ถ้าเป็นเป่ยโต่วแข่งเดินหมากแพ้แล้วอารมณ์ร้อนขึ้นมา เยี่ยหวันหวั่นจะไม่แปลกใจเลยซักนิด แต่ถ้าเป็นคนระดับจี้ซิวหร่านกับนายแห่งอาชูร่าล่ะก็ ไม่มีทางเป็นไปได้แน่
สองคนนี้เดินหมากกันอยู่ดีๆ เมื่อกี้ยังสนิทกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน พริบตาเดียวทำไมถึงตีกันขึ้นมาได้ล่ะ…
เจียงเหยียนรีบก้าวเข้ามายืนขวางด้านหน้าซือเยี่ยหาน จ้องจี้ซิวหร่านด้วยสายตาเย็นชา
แต่เจียงเหยียนยังไม่ทันทำอะไรมากกว่านั้น คูกู่กลับเดินออกมาจากกลุ่มคน แล้วเผชิญหน้ากับเจียงเหยียน
“คูกู่ ถอยไป” จี้ซิวหร่านมองคูกู่ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ
คูกู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่พูด ทำได้เพียงถอยออกไปทำตามคำสั่งของจี้ซิวหร่าน
“เจียงเหยียน” นายแห่งอาชูร่ากล่าวเสียงเรียบ
“นายท่าน…” เจียงเหยียนรีบกล่าว “อาการบาดเจ็บของนายท่าน…”
“หายดีแล้ว” นายแห่งอาชูร่ากล่าว
“แต่…”
เจียงเหยียนยังอยากจะพูดอะไร แต่ยังพูดไม่ทันจบ นายแห่งอาชูร่าก็ตัดบท “ถอยไป”
เจียงเหยียนกัดฟัน เขาย่อมไม่กล้าขัดคำสั่งของนายแห่งอาชูร่า จึงทำได้เพียงถอยออกไปอย่างไม่มีทางเลือก
เมื่อคู่กู่กับเจียงเหยียนถอยออกไป จี้ซิวหร่านก็เคลื่อนไหวทันที ขายาวก้าวออกไป พริบตาเดียวก็มายืนอยู่หน้าซือเยี่ยหาน จากนั้นง้างฝ่ามือขวาขึ้น แล้วสับลงมา
พลังฝ่ามือเหมือนผิวน้ำที่กระเพื่อม ราวกับมีระลอกคลื่นปรากฏเป็นริ้ว ฝ่ามือยังไม่ทันถึง ลมแรงปะทะเข้ามาก่อน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทว่านายแห่งอาชูร่ายังคงหน้าไม่เปลี่ยนสี เขากลับตวัดฝ่ามือออกไป
ฝ่ามือของนายแห่งอาชูร่ากับจี้ซิวหร่านปะทะกัน ราวกับอุกาบาตที่หลุดจากวงโคจรสองลูกพุ่งชนกัน
วินาทีต่อมา เสียงปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหวจนชวนให้คนหูอื้อ
จี้ซิวหร่านเคลื่อนไหวสง่างามดุจเทพเซียน นายแห่งอาชูร่าราวกับเหยียบอยู่บนยอดเขาหิมะ ทุกกระบวนท่าชวนให้ผู้ชมอกสั่นขวัญแขวน
พอเห็นนายแห่งอาชูร่ากับจี้ซิวหร่านสู้กันขึ้นมา เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ทำหน้างง การต่อสู้ของสองคนนี้เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ…แต่ถ้าพูดตามหลักแล้ว เธอก็ควรอยู่เฉยๆ ไม่เข้าไปยุ่งรึเปล่านะ…
ผู้นำตระกูลเสิ่นหันไปมองทางนายแห่งอาชูร่ากับจี้ซิวหร่านแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่ในฐานะผู้นำตระกูลที่เป็นเจ้าภาพ เขากลับนิ่งเฉยไม่ทำอะไร เหมือนไม่มีความคิดจะเข้าไปยุ่ง
วินาทีนี้ ผู้คนในงานเลี้ยงของตระกูลเสิ่นต่างทำหน้าประหลาดใจ ตามหลักแล้วคนระดับนายแห่งอาชูร่ากับจี้หวง ถึงจะมีความแค้นอะไรกัน ก็ไม่น่าจะสู้กันในสถานการณ์อย่างนี้ กว่าพวกเขาจะมาอยู่จุดนี้ได้ มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนฉลาดรอบคอบ ไม่มีทางที่จะแยกแยะสถานการณ์ไม่ออก
ถึงจะสู้กันจริงๆ ก็ควรจะสู้กันหลังงานเลี้ยงเลิกถึงจะถูก…
“น่าแปลก เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จี้หวงกับนายแห่งอาชูร่าถึงได้สู้กันในงานเลี้ยงของตระกูลเสิ่นอย่างงี้…”
แขกคนหนึ่งพูดด้วยความประหลาดใจ
“เมื่อกี้เป่ยโต่วจากพันธมิตรอู๋เว่ย…เหมือนจะบอกว่าเป็นเพราะจี้หวงกับนายแห่งอาชูร่าแข่งเดินหมากกัน…แล้วอารมณ์ร้อนขึ้นมา…ก็เลยสู้กัน…”
“แข่งเดินหมาก…จนอารมณ์ร้อน?”
แขกในงานหลายคนอึ้ง นี่กำลังล้อเล่นอะไรกันอยู่…จี้หวงกับนายแห่งอาชูร่าเป็นคนระดับไหน จะสู้กันเพราะเรื่องแข่งเดินหมากได้ยังไง…
คนที่พูดเรื่องแบบนี้ต่างหากที่โง่
ชีซิงที่ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในงาน แอบถอยหลังเงียบๆ เพื่อยืนให้ห่างจากเป่ยโต่ว
————————————————————————————-
บทที่ 1548 ควรช่วยใคร
เวลานี้ บนที่นั่งวีไอพี เยี่ยหวันหวั่นทำหน้างง ตามสถานการณ์ตอนนี้ เธอควรจะ…ไปช่วยจี้ซิวหร่านรึเปล่านะ?
ในนามแล้ว เธอเป็นคู่หมั้นของจี้ซิวหร่าน…ไม่ว่าจะแบบลับๆ หรือแบบเปิดเผยก็ไม่เกี่ยวกับเธอ มันเป็นเรื่องของแบดเจอร์ แต่ตอนนี้เธอก็คือแบดเจอร์ไม่ใช่เหรอ…
ถ้าเธอไม่ไปช่วยจี้ซิวหร่าน ก็เหมือนจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่…
แต่คนเก่งระดับจี้ซิวหร่านกับนายแห่งอาชูร่าดวลฝีมือกัน ถ้าเธอเข้าไปยุ่งก็มีแต่จะทำให้เรื่องยิ่งวุ่นวายเข้าไปอีก ถ้าจะห้ามทัพ ก็เหมือนจะเป็นไปได้ยาก เธออยู่เฉยๆ น่าจะดีกว่า…
ท่ามกลางกลุ่มคน เนี่ยหลิงหลงใบหน้าไร้อารมณ์ นัยน์ตาเรียบเฉยกวาดมองฝูงชน
งานเลี้ยงของตระกูลเสิ่นในคืนนี้เหนือความคาดหมายจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจี้หวงกับนายแห่งอาชูร่า ผู้นำของหนึ่งในสามกลุ่มอำนาจของคุกแห่งบาปจะปะทะกัน…
“หลิงหลง…ถ้าเธออยากครองรัฐอิสระ ยัยเยี่ยหวันหวั่นนั่นก็ต้องตาย”
เวลานี้ ‘เนี่ยอู๋โยว’ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเนี่ยหลิงหลงพูดเสียงเบา
เนี่ยหลิงหลงเหลือบมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’”เธอคิดว่าคนไร้ค่าอย่างยัยนั่นจะขวางฉันได้เหรอ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ครุ่นคิดเหมือนเห็นด้วย
ความทะเยอทะยานของเนี่ยหลิงหลง ‘เนี่ยอู๋โยว’รู้ดี เธอต้องการครอบครองรัฐอิสระ และเหยียบทุกสิ่งทุกอย่างไว้ใต้เท้าตัวเอง!
“จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเนี่ยอู๋โยวที่สูญเสียความจำไปใช้ชีวิตได้น่าสมเพชมาก ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้เหมือนตัวตลก ส่วนพวกเราเวลาเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำ ก็ดูตัวตลกตัวนั้นแสดงละครแย่ๆ ก็ถือว่าแก้เบื่อได้ดีเหมือนกันนะ” จู่ๆ เนี่ยหลิงหลงก็แค่นหัวเราะ “เธอไม่คิดว่ามองดูยัยนั่นใช้ชีวิตโดยสูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป แล้วใช้ชีวิตเป็นคนอื่น น่าสนุกกว่าเห็นเธอตายเหรอ”
“หลิงหลง เธออยากให้ยัยนั่นตายไม่ใช่เหรอ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ถาม
เนี่ยหลิงหลงแค่นเสียงเย็นชา “เนี่ยอู๋โยว…ยัยนั่นมีอะไรดีให้ฉันสนใจเหรอ…หรือมีอะไรดีพอที่จะให้ฉันทำอะไรด้วยงั้นเหรอ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ยังไม่ทันพูดอะไร เนี่ยหลิงหลงก็พูดต่อว่า “อย่าว่าแต่ตอนนี้เธอจำอะไรไม่ได้เลย ถึงความจำจะกลับมาแล้ว สำหรับฉัน…เนี่ยอู๋โยวก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลย”
“หึ…แน่อยู่แล้ว เนี่ยอู๋โยวไม่มีค่าอะไรเลย ไม่มีค่าพอให้เธอสนใจซักนิด”
‘เนี่ยหลิงหลง’แค่นหัวเราะ
เนี่ยหลิงหลงในตอนนี้น่ากลัวขนาดไหน ตระกูลเนี่ยไม่รู้ รัฐอิสระไม่รู้ แต่เธอรู้ดีที่สุด
แต่ทว่า เนี่ยหลิงหลงคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นคนนั้นไม่มีค่าพอให้ใส่ใจ แต่ ‘เนี่ยอู๋โยว’กลับอยากให้เยี่ยหวันหวั่นตายไปซะ
ตัวตนของเธอในตอนนี้ก็คือ เนี่ยอู๋โยว แล้วทุกอย่างของเนี่ยอู๋โยวก็เป็นของเธอ รวมถึง…จี้ซิวหร่าน!
เยี่ยหวันหวั่นคนนั้นไม่มีสิทธิ์ได้รับความรักจากจี้ซิวหร่าน ยิ่งไม่มีสิทธิ์ใกล้ชิดจี้ซิวหร่าน ไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งก้าวเข้ามาในตระกูลเนี่ยด้วยซ้ำ!
“หึ…”
‘เนี่ยอู๋โยว’จ้องเยี่ยหวันหวั่นที่นั่งอยู่โซนวีไอพี มุมปากหยักยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มชั่วร้าย นี่เธอคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยจริงๆ เหรอไง…
ปล่อยให้ยัยนั่นเริงร่าอีกหน่อยก็คงไม่มีปัญหาอะไร
หลังงานเลี้ยงเลิก เธอจะส่งคนไปที่พันธมิตรอู๋เว่ยเพื่อเปิดโปงความลับของเยี่ยหวันหวั่น พอถึงตอนนั้น เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยซักนิด เธอแค่รอดูว่ายัยเยี่ยหวันหวั่นจะตายอย่างน่าอนาถแค่ไหน!
‘เนี่ยอู๋โยว’ยังไม่ทันคิดอะไรมาก ข้างหน้าก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นมาก่อน
เห็นเพียงด้านหน้า การต่อสู้ของจี้หวงกับนายแห่งอาชูร่ายังคงดำเนินต่อไป