คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1161

เมื่อรู้ว่าจักรพรรดิมีเมามากจนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นวิญญาณของจักรพรรดิผู้ล่วงลับไปแล้ว แดร์ริลก็รู้สึกโล่งใจ

แดร์ริลกลืนน้ำลายขณะที่จักรพรรดินีสวมกอดเขา

‘ไม่ มันไม่ถูกต้อง มันจะเป็นปัญหาใหญ่ถ้าจักรพรรดินีสร่างเมาขึ้นมา’ แดร์ริลครุ่นคิดและพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของจักรพรรดินี

จักรพรรดินีสวมกอดแดร์ริลด้วยแขนทั้งสองข้างให้แน่นยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเธอได้เลย แดร์ริลสามารถใช้พลังภายในเพื่อสะบัดเธอออกไปก็ได้ แต่มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง

“ทำไมคุณไม่พูดอะไรเลยล่ะ ที่รัก?” จักรพรรดินีซบหน้าลงบนหน้าอกของแดร์ริล “คุณจากไปหลายเดือนแล้ว คุณไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ? คุณไม่มีอะไรจะพูดกับฉันบ้างเหรอ?”

แดร์ริลกระแอ่มเบา ๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น

จากนั้นแดร์ริลก็พยายามเลียนแบบเสียงของชายวัยกลางคนและพูดขึ้นว่า “แน่นอนที่รัก ผมเองก็คิดถึงคุณมาก ดังนั้นผมจึงมาหาคุณ”

แดร์ริลมีความสามารถในการเลียนเสียง ดังนั้นเขาจึงสามารถเลียนแบบเสียงของชายวัยกลางคนได้อย่างง่ายดาย

จักรพรรดินีไม่รู้สึกสงสัยเคลือบแคลงใจเลยเมื่อได้ยินเสียงของแดร์ริล แต่เธอกลับรู้สึกสะเทือนใจมากยิ่งขึ้น เธอสวมกอดแดร์ริลเอาไว้แน่นก่อนจะพึมพำเบา ๆ ว่า “ที่รัก ฉันรู้ว่าคุณจะไม่ลืมฉัน ฉันเองก็คิดถึงคุณทุกวัน”

ในขณะที่พูดเช่นนั้นจักรพรรดินี้ก็จับแขนของแดร์ริลและพาเขาไปที่เตียง “เราไปนอนพักผ่อนกันเถอะที่รัก ฉันมีเรื่องราวตั้งมากมายที่อยากจะคุยกับคุณ”

‘อะไรนะ? ไปนอนแล้วเหรอ?’ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขณะที่เขาเดินตามจักรพรรดินีไปที่เตียง

เมื่อพวกเขาเดินมาถึงที่เตียง แดร์ริลก็นั่งลงบนเตียงด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ

‘นี่มันเป็นเตียงของจักรพรรดิผู้ล่วงลับ แล้วฉันจะ นั่งลงบนเตียงของเขาเช่นนี้ได้ยังไง? ไม่ใช่แค่นั่งลงบนเตียงเท่านั้น แต่จักรพรรดินียังสวมกอดฉันเอาไว้แน่นอีกด้วย นี่ถ้าหากว่าราชองครักษ์มาเห็น ฉันจะต้องถูกตัดสินประหารชีวิตและถูกสับเป็นชิ้น ๆ อย่างแน่นอน’ แดร์ริลครุ่นคิด เหงื่อเย็นเริ่มไหลปกคลุมร่างของเขามากยิ่งขึ้น

จักรพรรดินียังคงมึนเมาและตกอยู่ในจินตนาการของตัวเอง เธอนอนลงบนตักของแดร์ริลด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงและเต็มไปด้วยความสุข

จักรพรรดินีพูดเบา ๆ ว่า “ที่รัก ในช่วงที่คุณไม่อยู่ฉันทำงานหนักและไม่ได้ละเลยอาณาจักรของเราเลย ที่รักฉันไม่ได้ทำให้คุณผิดหวัง”

“นอกเหนือจากนั้น ทวีปเวสต์ริงตันกำลังวางแผนที่จะโจมตีโลกใต้เมฆีของเรา แต่คุณไม่ต้องกังวลนะที่รัก เพราะพวกเรามีกองทัพที่แข็งแกร่ง ถ้าหากพวกเขาคิดจะโจมตีเราก็มีแต่จะทำร้ายตัวเองเท่านั้น นักการทูตจากเวสต์ริงตันจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ฉันแน่ใจว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อประเมินความสามารถของพวกเรา ฉันจะแสดงให้นักการทูตเห็นความสามารถที่แท้จริงของทวีปโลกใต้เมฆีเอง…”

จักรพรรดินียังคงพูดคุยกับแดร์ริลต่อไปจนเสียงของเธอค่อย ๆ เบาลง

แดร์ริลวิตกกังวล เขาไม่ได้ฟังที่เธอพูดแม้แต่คำเดียว เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าจักรพรรดินีเริ่มหมดเรี่ยวแรง แดร์ริลก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “คุณคงเหนื่อยมาก นี่ก็ดึกแล้วและคุณก็เมามากด้วย คุณควรจะนอนพักผ่อนได้แล้ว”

“ตกลง!” จักรพรรดินีตอบอย่างเชื่อฟัง เธอนอนลงบนตักของแดร์ริลและหลับตาลง ในไม่ช้าเขาก็ได้ยินเสียงหายใจลึก ๆ ของเธอ

จักรพรรดินีนอนหลับสนิทราวกับว่าจักรพรรดิผู้ล่วงลับยังคงอยู่กับเธอ

แดร์ริลไม่กล้าขยับจนเขามั่นใจว่าจักรพรรดินีหลับไปแล้ว เขาจึงลุกขึ้นอย่างระมัดระวังและเขย่งปลายเท้าออกจากห้องนอนไปอย่างเงียบเชียบ

เมื่อออกมาจากห้องนอนของจักรพรรดินีก็เป็นเวลารุ่งสางแล้ว มีสาวใช้และขันทีมากมายอยู่รอบ ๆพระราชวัง เมื่อได้เห็นเช่นนั้นใบหน้าของแดร์ริลก็มืดลงทันที

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่แดร์ริลจะหนีจากเจ้าหญิงเอเวอร์กรีนมาได้ แต่เขากลับถูกจักรพรรดินีรั้งตัวเอาไว้ตลอดทั้งคืนอีก

‘แค่การตามหาควินซีและนำแก่นแท้ของมังกรกลับคืนมา ทำไมมันถึงได้ยากเย็นเช่นนี้?’

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น แดร์ริลจึงกลับไปยังพระราชวังพฤกษานิรันดร์ด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง

เพราะถ้าหากว่าเขายังมัวแต่ยืนอยู่ตรงนี้ เขาอาจจะต้องถูกจับได้ว่าเขาเพิ่งออกมาจากห้องนอนของจักรพรรดินี และนั่นจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขา

ในไม่ช้า แดร์ริลก็กลับมาถึงพระราชวังพฤกษานิรันดร์ เขาได้เห็นว่าเจ้าหญิงเอเวอร์กรีนยังคงหลับไหลอยู่ ขนตาของเธอกระพือเล็กน้อย เธอดูสงบและอ่อนโยน มันตรงกันข้ามกับตัวละครที่โหดร้ายเมื่อตอนเธอตื่นขึ้นมาโดยสิ้นเชิง

แดร์ริลนั่งมองเธออยู่บนพรมจนในที่สุดเขาก็เผลอหลับไป

ในช่วงเช้าแดร์ริลยังคงหลับสนิท ไม่นานเสียงของเจ้าหญิงเอเวอร์กรีนก็ดังขึ้น

“แดร์ริล ตื่นได้แล้ว ไปที่ห้องโถงใหญ่กับฉันนะ ฉันต้องไปเข้าพบนักการทูตจากทวีตเวสท์ริงตัน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและไม่ได้ฟังดูเจ้ากี้เจ้าการเลย แต่กลับฟังดูเหมือนว่าเธอกำลังอ้อนวอนเขาอยู่

‘ขันทีผู้นี้น่าสนใจมาก ฉันจะต้องพาเขาไปทุกที่ที่ฉันไป” เจ้าหญิงครุ่นคิด

“เข้าใจแล้ว” แดร์ริลตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียขณะที่เขาตอบเช่นนั้น

แดร์ริลใช้เวลาถึงสามวันในการไล่ตามควินซีจากจักรวาลโลกมายังโลกใต้เมฆีโดยไม่ได้หยุดพัก และเมื่อคืนนี้เขาก็ยังถูกรั้งเอาไว้ที่ห้องของจักรพรรดินีโดยไม่ได้หลับทั้งคืน เมื่อเขากลับมายังพระราชวังพฤกษานิรันดร์ เขาก็ได้นอนพักผ่อนในที่สุด

แดร์ริลยังคงง่วงมาก แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของเจ้าหญิงได้

หลังจากที่แดร์ริลช่วยเจ้าหญิงจัดเตรียมอาหารและรับประทานอาหารเช้าร่วมกันแล้ว พวกเขาก็ไปที่ห้องโถงใหญ่ของวังหลวงทันที

เมื่อพวกเขามาถึงที่ห้องโถงใหญ่ แดร์ริลก็ได้เห็นจักรพรรดินี เจ้าหน้าที่พลเรือนและนายพลเกือบทุกคนกำลังทยอยกันเข้ามาด้านใน พวกเขายืนอยู่ที่นั่นอย่างเป็นระเบียบด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

จักรพรรดินีนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรภายในห้องโถงใหญ่ เธอสวมชุดคลุมมังกรที่สง่างามซึ่งเผยให้เห็นเรือนร่างที่งดงามของเธอ มันทำให้เธอดูยิ่งใหญ่ในขณะที่เธอเปล่งรัศมีแห่งอำนาจของกษัตริย์ออกมา

หัวใจของแดร์ริลเต้นระรัวเมื่อเขาได้เห็นความสง่างามและความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดินี

‘เมื่อคืนนี้จักรพรรดิมีเมามาก เธอคงจำฉันไม่ได้หรอกใช่ไหม?’ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้แว่บเข้ามาในหัวของแดร์ริลขณะที่เขาคิดเช่นนั้น

แดร์ริลจำตอนที่จักรพรรดินีกอดเขาและเรียกเขาว่าที่รักได้อย่างแม่นยำ เธอช่างอ่อนโยนและมีเสน่ห์ยิ่งนัก เธอไม่เย็นชาและเย่อหยิ่งเหมือนเช่นตอนนี้

จากนั้นแดร์ริลก็หันไปมองที่ด้านข้างของจักรพรรดินี จากนั้นเขาก็ต้องตกตะลึง