ตอนที่ 1220 คาดเดา

The Legendary Mechanic

ร่างกายเกิดใหม่ วิญญาณยังแข็งแกร่ง..
  หานเซี่ยวมองเข้าไปในรังไหมของกอดด์ เริ่มครุ่นคิด
  ตามคำแนะนำของ[ความสามารถเอสเปอร์ เกิดใหม่]มันคล้ายกับวิธีที่ผู้ใช้พลังจิตครอบงำความคิดคนอื่น รวมถึงความสามารถเปลี่ยนตัวตนของโซโรคิน ตัดสินจากสถานะที่ผิดปกติของกอดด์แล้ว เขาน่าจะเป็นคนที่’เริ่มบัญชีใหม่’
  กลไกโดยละเอียดของความสามารถนี้ยังไม่รู้ มันควรเป็นรูปแบบของการเปลี่ยนร่างแต่รักษาวิญญาณเดิม ถ้าเป็นแบบนั้น ตัดสินจากสติปัญญาและลี้ลับของกอดด์ เขาควรเป็นผู้อยู่เหนือก่อนมาเกิดใหม่
  นี่คือปัญหา ความสามารถนี้แทบไม่มีความสามารถต่อสู้และใช้งานได้จำกัด รวมถึงศักยภาพต่ำมาก มันไม่ควรทำให้ผู้ใช้กลายเป็นผู้อยู่เหนือได้  มันไม่รู้ว่ากอดด์ไร้ความสามารถนี้แต่แรกและได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใช้พลังคนอื่นหรือเปล่า หรือเขาเป็นภัยพิบัติที่กลายเป็นผู้อยู่เหนือด้วยความสามารถสองอยา่ง
  มีการคาดเดาไม่มากนักถ้ามันเป็นอย่างแรก แต่ถ้าอย่างหลัง หานเซี่ยวรู้จักแค่คนเดียวที่มีความสามารถนี้..
  เทพเอส!
  หรือว่าจะเป็นไอหมอนั่น?ร่างของเขาโดนขังไว้ในกาลอวกาศแอมเบอร์ แต่วิญญารกลับหลบหนีได้?
  ดวงตาของหานเซี่ยวไหววูบ เขาชินกับการคาดเดาแบบกล้าหาญ
  โอกาสที่เทพเอสจะหลุดออกอำพันมาได้ต่ำมาก ซึ่งหมายความว่าเขาคงทำมันก่อนโดนจับ
  ความเป็นไปได้นี้ไม่ต่ำเลย เทพเอสมีศัตรูอยู่ทั่ว เขาน่าจะเตรียมการไว้ แถม เขายังดูดซับความสามารถเอสเปอร์แปลกๆมากมาย มีโอกาสสูงที่เขาจะมีความสามารถประเภทนี้ บางทีนี่อาจทำให้เขากล้าสร้างศัตรูไปทั่ว เนื่องจากเขาสามารถเริ่มใหม่ได้
  แต่ทว่า ความสามารถเอสเปอร์เกิดใหม่แตกต่างจากวิธีย้ายร่างอื่น ตัวอย่างเช่น ไม่ว่าโซโรคินจะเปลี่ยนร่างกี่ครั้ง ความสามารถของเขาก็ยังคงเดิม วิญญาณของเขาคือรากฐาน แต่ทว่า รากฐานของการสามารถดูดซับความสามารถเอสเปอร์อยู่ในพันธุกรรมของเทพเอส และตัวของเขาก็ติดในอำพัน ถ้ากอดด์เป็นเทพเอสจริง การเปลี่ยนเป็นร่างอื่นก็หมายความว่าความสามารถของเขาควรเปลี่ยนไปด้วย เขาจะเสียความสามารถดูดซับความสามารถเอสเปอร์และมีแค่ความสามารถเดียว [ควบคุมพลังงาน]
  หรือว่ากอดด์จะเป็นภาชนะลับที่เขาเตรียมไว้?อืม เทพเอสมักถูกผลักดันให้สร้างความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง การควบคุมพลังงานอาจเป็นผลจากการฝึกหนักหลายปี สารเลวนั่นอาจประสบความสำเร็จในการหลอมรวมความสามารถเอสเปอร์เป็นหนึ่งและฝังมันในตัวของกอดด์…
  หานเซี่ยวครุ่นคิด
  กอดด์ไม่เคยปรากฏ เนื่องจากจักรวรรดิมั่นใจพอจะเททรัพยากรกับเขา จักรวรรดิก็ต้องมั่นใจว่าภูมิหลังของกอดด์ขาวสะอาด
  ถ้านี่คือการกระทำของเทพเอส เขาต้องเริ่มเตรียมการมานานแล้ว
  ถ้าการคาดเดานี้เป็นจริง เทพเอสที่เข้าร่วมสามอารยธรรมจักรวาลหลังเกิดใหม่คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันต้องมีแผนใหญ่
  นี่อาจเป็นไปได้..
  เพื่อบรรลุเป้าหมายของเขา เทพเอสได้ก่ออาชญากรรมนับไม่ถ้วน กลายเป็นศัตรูของโลก และในที่สุดก็สร้างความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูงเช่นนี้ขึ้นมา แตทว่า ตัวตน’เทพเอส’ฉาวโฉ่เกินไป เขาจึงไม่มีวันอยู่ได้สงบสุขผ่านการได้รับความสามารถนี้ แถม ห่วงโซ่พันธุกรรมของเขายังมีภาระมากเกินไปจากการดูดซับความสามารถนับไม่ถ้วน เขาอาจวางแผนทิ้งตัวตนนั้นไว้นานแล้ว!
  ดังนั้น เทพเอสจึงฝังความสามารถนี้กับ’ภาชนะ’ รอวันที่ใช้เกิดใหม่และย้ายดวงวิญญาณเขาเข้ามัน ดังนั้น เขาจึงได้รับชีวิตใหม่ ตัวตนใหม่และเข้าร่วมสามอารยธรรมจักรวาลด้วยความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง เขาถูกเลี้ยงดูโดยสามอารยธรรมและล้างประวัติจนหมดจด!
  หานเซี่ยวครุ่นคิด
  เทพเอสต้องเป็นคนที่สามารถทำแบบนี้ได้ เขาไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอาชญากรหรือ สมาชิกอารยธรรม เรื่องทั้งหมดคือเขาจะได้รับผลประโยชน์มากแค่ไหนจากฝ่ายที่เขาอยู่ เขามีแค่เป้าหมายเดียว ก้าวสู่อาณาจักรที่สูงขึ้น…
  ยิ่งเขาคิด มันยิ่งเป็นไปได้ นี่ควรเป็นหนึ่งในแผนการของเทพเอส
  แต่ทว่า ทั้งหมดนี้อาศัยสมมติฐานที่ว่ากอดด์คือเทพเอสจริงๆ แค่ความสามารถนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้
  แม้เขาจะรู้สึกว่าข้อสันนิษฐานเขามีโอกาสสูง หลักฐานก็ไม่พอให้เขาเชื่อมันสนิทใจ
  มัันน่าเสียดายที่นักสำรวจผู้กล้าหาญไม่สามารถใช้กับคนได้
  หานเซี่ยวส่ายหัว
  ไม่ว่ากอดด์จะเป็นใคร เขาก็เกิดใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ทิ้งเบาะแสไว้เลย เขาคิดว่าไม่มีใครจะสังเกตมัน ซึ่งทำให้เขามั่นใจมากและผ่อนคลายตอนเขาอยู่กับหานเซี่ยว
  โชคดี ระดับของฉันสูงกว่าเขา ฉันจึงเห็นความสามารถทั้งหมดนี้ ฉันอาจเป็นคนเดียวที่พบความลับของกอดด์…
  หานเซี่ยวไม่จากไปแต่นั่งลงด้านข้างและรอขณะที่สมองทำงานอย่างหนัก
  หลังจากนั้นไม่นาน รังไหมดำในห้องก็แตกทีละอัน ทหารจักรวรรดิประสบความสำเร็จในการวิวัฒนาการและออกมาทีละคนรู้สึกสดชื่น เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวยังรอพวกเขาอยู่ พวกเขาก็อดรู้สึกยินดีไ่ได้
  กอดด์ใช้เวลานานสุดและออกมาเป็นคนสุดท้าย
  “รู้สึกไงบ้าง?”หานเซี่ยวทำตัวตามปกติ พูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
  “ดี”กอดด์มองหานเซี่ยว”ตอนฉันอยู่ข้างใน ฉันรู้สึกว่ามีคนใช้เข็มจิ่มฉัน นายเหรอ?”
  “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องสนใจ นั่นคือเข็มที่ใช้ตรวจสอบว่ากระบวนการวิวัฒนาการเป็นไปอย่างราบรื่นไหม นายเป็นสมาชิกสายตรงของจักรวรรดิ ฉันต้องให้ความสนใจมากกว่า เหนือสิ่งอื่นใด กระบวนการวิวัฒนาการไม่ได้ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ยังคงมีความเสี่ยงและฉันก็ไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับนาย”หานเซี่ยวยิ้มและหาข้ออ้างปกปิดมัน
  กอดด์พยักหน้า”ขอบคุณที่เป็นห่วง ฉันต้องไปดาวฟินน์ ฉันจะไม่รบกวนนายอีก”
  เมื่อเห็นว่ากอดด์ตั้งใจไป หานเซี่ยวจึงไม่หยุด”เอาล่ะ ฉันจะไม่รั้งนายไว้ ไว้เจอกันในสมาคม”
  จากนั้น หานเซี่ยวก็หมุนตัว ออกโถง หายไปจากสายตาของทุกคน
  ดวงตาของกอดด์เป็นประกาย ตามพนักงานต้อนรับและกลับไปท่าจอด นำทหารจักรวรรดิกลับไปกองยนา
  กองยานจักรวรรดิรีบออกท่า พุ่งเข้าอวกาศ แยกเป็นสองกลุ่ม หนึ่งตรงกลับไปกับทหาร และอีกหนึ่งแบกกอดด์ตรงไปดาวฟินน์ที่อยู่ลึกในโลกริบหรี่
  ในยานอวกาศ กอดด์มองวังแบล็คสตาร์ที่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ รอยยิ้มปรากกบนหน้าเขา
  “แบล็คสตาร์ โอ้ แบล็คสตาร์ ฉันบอกว่าเราจะพบกันอีกครั้งในไม่ช้า แต่ไม่คิดเลยว่านายจะจำฉันไม่ดไ้ตอนฉันยืนต่อหน้านายอีกครั้ง นายยังพยายามเป็นมิตรกับฉัน..”
  เมื่อเห็นว่าแบล็คสตาร์ไม่รู้ กอดด์จึงอดหัวเราะไม่ได้
  การหลอกแบล็คสตาร์ใต้จมูกให้ความรู้สึกตื่นเต้นอย่างน่าประหลาดใจ
  ระหว่างกระบวนการวิวัฒนาการก่อนหน้านี้ เขาใช้ความสามารถเขาเพื่อพยายามวิเคราะห์พลังงานวิวัฒนาการ ด้วยความสามารถที่เขามีตอนนี้ เขาจึงมีเบาะแส
  “ไม่แปลกใจ นี่คือความสามารถที่มีแค่ในทฤษฏี ด้วยเวลาที่มากพอ ฉันจะมีโอกาส 60%ในการ้นหาพลังงานวิวัฒนาการ ตำแหน่งของฉันตอนนั้นคงพุ่งทะยานในจักรวรรดิและเบื้องบนน่าจะเห็นชอบกับคำขอฉันให้ประจำการในสถาบันวิทยาศาสตร์ แบบนี้ ฉันจะได้ใกล้ชิดกับผลวิจัยของชุดข้อมูลนั้น…”
  รอยยิ้มปรากฏบนหน้าของกอดด์ขณะที่เขาวางแผนในหัว
  …
  หานเซี่ยวมองดูกองยานจักรวรรดิเดินทางจากห้องทำงานเขา  “ฉันไม่ได้ทำตัวผิดปกติ กอดด์ไม่ควรรู้ว่าฉันพบความลับเขา สิ่งสำคัญตอนนี้คือหาว่าเขาเป็นใครกันแน่ เขาคือความไม่แน่นอน…”
  หานเซี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย
  สถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่เขาเห็นชอบ กอดด์เป็นสมาชิกสายตรงของจักรวรรดิ ตัวตนนี้ได้ปกป้องเขา มีหลายเรื่องที่หานเซี่ยวไม่สามารถทำได้เพราะมัน
  ปัญหาตอนนี้คือต้องหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่ากอดด์ผิดปกติ จากนั้นเขาถึงมีเหตุผลให้ลงมือ
  ไม่งั้น ถ้าเขาทุบตีผู้อยู่เหนือสายตรงใหม่ที่จักรวรรดิคาดหวังไว้มากโดยไม่มีเหตุผล เขาสามารถจินตนาการได้ง่ายว่าจักรวรรดิจะตอบสนองอย่างไร
  จักรวรรดิต้องรับผิดชอบสมาชิกสายตรงทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางยอมประนอมหรือถอยหลัง ในกรณีเลวร้ายนั่น จักรวรรดิคงกลายเป็นศัตณูเขาทันที ซึ่งจะทำลายการเตรียมการทั้งหมดที่เขาทำไปจนถึงตอนนี้ ถึงแม้เขาจะเป็นประโยชน์ต่อจักรวรรดิ เมื่อมันเป็นเรื่องแบบนี้ งั้นก็ไม่มีที่ให้เจรจากันอีก จักรวรรดิย่อมไม่ลังเลที่จะตัดความเป็นพันธมิตรกับเขา
  ตราบเท่าที่ไร้หลักฐาน คำอธิบายอื่นสำหรับการกระทำคงไร้ความหมาย
  ถ้าเขาต้องลงมือจริงโดยปราศจากหลักฐาน เขาต้องทำมันลับๆและลบเบาะแสให้หมด นั่นจะไม่มีพยาน เบาะแสหรืออะไรอื่น เขาต้องไม่ล้มเหลว…
  “ความเสี่ยงสูงเกินไป จะมีปัญหามากมายถ้าฉันประมาท”
  หานเซี่ยวส่ายหัว
  เห็นได้ชัดว่าการละทิ้งเครือข่ายผลกำไรและสายสัมพันธ์ที่เขาสร้างตลอดหลายปีเพื่อกอดด์นั้นไม่คุ้มค่า เว้นแต่เขาจะไร้ทางเลือก เขาจะไม่มีวันทำ
  มีเส้นทางที่เสี่ยงน้อยกว่า หานเซี่ยวจึงไม่อยากรับความเสี่ยงนี้  ถ้ากอดด์เป็นเทพเอสจริง ต้องมีบางอย่างเกิดกับตัวของเขาในอำพัน…ดูเหมือนฉันจะต้องขอจักรวรรดิเพื่อไปเยี่ยมเทพเอส
  หานเซี่ยวหรี่ตา
  กอดด์ยังอยู่ในโลกริบหรี่สักพัก มันดีสุดที่จะคิดให้ออกกก่อนเขากลับ ไม่งั้น เรื่องราวคงยากตอนกอดด์กลับไปจักรวรรดิ
  ติ้ง
  ขณะที่คิด การแจ้งเตือนก็ปรากฏ
  ท่านได้กระตุ้นภารกิจลับ[ความลับของกอดด์]!
  คำแนะนำภารกิจ : กอดด์เป็นผู้อยู่เหนือสายตรงใหม่ของจักรวรรดิคริมสัน ระหว่างที่ท่านติดต่อกับเขา ท่านพบบางสิ่งผิดปกติ นี่อาจเป็นความลับที่น่าตกใจ
  ข้อกำหนดภารกิจ : ค้นหาความลับของกอดด์
  รางวัล : 1บัตรอัญเชิญตัวละคร สุ่มหนึ่งความสามารถ/พรสวรรค์จากเป้าหมาย  เคล็ดลับ : ภาริกจนี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับจักรวรรดิริมสัน โปรดัดสินว่าจะลงมืออย่างไร
  หานเซี่ยวมองหน้าต่างสถานะ
  ภารกิจลับ.มันกระตุ้นเพราะฉันเห็นความสามารถเขา?นั่นไม่ใช่เงื่อนไขกระตุ้นง่ายๆ…ฉันสามารถเห็นความสามารถทั้งหมดของกอดด์ได้เพราะระดับฉันสูงกว่าเขา ฉันอาจเป็นคนเดียวที่สามารถกระตุ้นภารกิจนี้ได้