บทที่ 798 ไอ้หยู แสดงได้ดี

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 798 ไอ้หยู แสดงได้ดี
สีหน้าของหยูไห่เปลี่ยนไป แล้วบังหมัดของเย่เซิ่งเทียน เพื่ออยากเอาใจผู้ขึ้น แต่เย่เซิ่งเทียนกลับออกหมัดไม่ยั้ง ด้วยความเร็วที่เร็วสุดขีด ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสนี้

ตอนนี้ ณ เวลานี้ การต่อสู้เป็นเรื่องของจิตใจ ขึ้นอยู่กับว่าใครมีความเชื่อในชัยชนะ!

ในใจของหยูไห่ร้องทุกข์มิรู้วาย ตอนนี้เขาแค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเย่เซิ่งเทียน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกเย่เซิ่งเทียนต่อต้าน

ตอนนี้เขาอยากอธิบาย แต่กลับไม่มีแม้แต่โอกาส

พวกเขาทำได้แค่ปลอบใจกัน ถึงจะสามารถชนะได้

ทันใดนั้น เย่เซิ่งเทียนก็เหวี่ยงหมัไปที่ไหล่ของหยูไห่ จนหยูไห่ถอยหลังไปหลายสิบก้าว

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะทันโต้ตอบ เย่เซิ่งเทียนก็กระโดดขึ้นมา ใช้ข้อศอกกับเข่ากระแทก ทุกกระบวนท่าเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า

“หยูไห่ แกกล้าทำไม่กล้ารับอย่างงั้นหรอ?หรือว่าใจฝ่อไม่กล้าพูดแล้วใช่ไหม?เมื่อกี้คนที่แอบส่งเสียงมาพูดว่าจะขอยอมแพ้ไม่ใช่แกหรอ?”

เย่เซิ่งเทียนไม่เพียงแต่จะฆ่าคนแต่ยังจะทำร้ายจิตใจด้วย ประกอบกับกู่ชางหลงจงใจใส่ร้ายป้ายสี คนอื่นๆแทบจะเชื่อเกือบหมดแล้ว

ในความเป็นจริงนั้น เมื่อสักครู่สิ่งที่กู่ชางหลงพูด เขากับเย่เซิ่งเทียนจงใจสร้างขึ้นมา

ถึงจะไม่มีคำพูดของหยูไห่ พวกเขาก็จะทำแบบนี้ เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าหยูไห่จะกลับมาพร้อมกับความช่วยเหลือ

แน่นอนว่าเย่เซิ่งเทียนไม่เชื่อ หยูไห่จะยอมแพ้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!

ดังนั้น ตั้งแต่เริ่มแรกเขาก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงสิ่งที่หยูไห่พูดจะเป็นความจริง เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยหยูไห่ไป

เมื่อสักครู่ไอ้แก่นี่ชี้สั่งการสั่งการมา เกือบจะทำให้เขาตาย

สถานการณ์ในตอนนี้มันใหญ่เกินกว่าที่จะยอมแพ้ได้แล้ว จะมีเรื่องดีแบบนี้เกิดขึ้นได้เช่นไร

หยูไห่ถูกเย่เซิ่งเทียนบีบให้ถอยหลังไปเรื่อยๆ เขามองไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างหวาดกลัว เมื่อครู่เขาเอาแต่สั่งการอยู่ข้างนอก ไม่ได้เข้ามาสัมผัสใกล้ๆ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะน่ากลัวขนาดนี้

เขาคิดอยู่เสมอว่าคนเหล่านั้นทำงานไม่เต็มที่ ตั้งใจอ่อนให้

เมื่อเผชิญหน้ากับเย่เซิ่งเทียนจริงๆจังๆเขาถึงพบว่า ความสามารถของเย่เซิ่งเทียน ไปถึงขั้นที่ น่าหวาดกลัวจนขีดสุดแล้ว

แม้แต่เขา ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้!

“อย่าเชื่อคำพูดของเขา พวกเขากำลังยุแยงตะแคงรั่ว”

ในที่สุดหยูไห่ก็มีโอกาส รีบแก้ตัวทันที

มู่หุนเห็นโอกาส ใช้ฝ่ามือตบคนเหนือโลกีย์รายหนึ่งล้มไปกับพื้น แล้วพูดอย่างเยือกเย็นว่า“หยูไห่ แกกลัวอะไร?การเอาเปรียบคนพวกนี้ เป็นเรื่องที่เราคุยกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรอ?ตอนนี้แกไม่จำเป็นต้องแสดงแล้ว เราชนะแล้ว”

หยูไห่อยากจะแก้ตัว แต่เย่เซิ่งเทียนกลับข่มเหงรังแกคนอื่นมากเกินไป ไม่ให้โอกาสเขาได้พูด

คนอื่นๆเมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจ ถ้าในเวลาปกติ พวกเขาอาจจะไม่เชื่อ

แต่ตอนนี้ระหว่างความเป็นความตาย ความสงสัยทั้งหมดจะถูกขยายออกไปอย่างไม่มีขอบเขต

อยากจะรักษาชีวิตของตัวเอง จะยังกล้าเชื่อคำพูดของคนอื่น?ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีพวกเขาร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อต่อกรกับเย่เซิ่งเทียนจึงรวมตัวกันอย่างเฉพาะกิจ ดังนั้นจึงไม่มีความรู้สึกไว้วางใจ

ถึงหนึ่งในนั้นจะมีคนฉลาดไม่เชื่อมั่น แต่ในเวลานี้ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะยังคงสงบนิ่งได้อีก

จู่ๆ มีดยาวของกัวปิงก็ฟันลงมายัง สมองของคนเหนือโลกีย์รายหนึ่ง แล้วหัวเราะเสียงดัง“ไอ้หยู เป็นอย่างที่แกพูดจริงๆด้วย ไอ้หมอนี่มันอ่อนแอที่สุด เอาล่ะ หยุดแสดงละครได้แล้ว หลายปีมานี้ลำบากแกแล้ว”

ดาบยาวของเจียงลั่วเสินอดีตจอมพลแวววับ คนคนหนึ่งต้องเผชิญหน้ากับคนสองคน ไม่มีแม้แต่โอกาสได้สู้กลับ เขาหายตัวแล้วปรากฏอีกทีด้านหลังของกู่ชางหลงทั้งสามคน ใช้ดาบผ่าคนออกครึ่ง

จากนั้นก็กล่าวอย่างเรียบเฉยว่า“ละครยังไงก็ยังต้องเล่น หยูไห่ อย่าฟังกัวปิงพูด แสดงต่อไปอีก ให้มันเศร้าหน่อยนะ แล้วท่าทางก็แสดงให้มันโกรธหน่อย ใช่แล้ว แบบเนี่ยแหละ เดี๋ยวฉันขอบันทึกคลิปก่อนนะ เอาไปให้พวกตระกูลเก่าแก่ผู้ดีดู แกยังคงเป็นแขกผู้มีเกียรติของพวกเขาอยู่!”

และทางนี้ เย่เซิ่งเทียนก็จงใจพูดขึ้นมาว่า“ไอ้หยู ถ้าไม่เป็นเพราะว่าฉันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็คงถูกแกหลอกไปแล้ว แกแสดงฉากนี้เหมือนเกินไปแล้วนะ ฉันยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แกก็แสดงไปเองหมดแล้ว”

“รังแกคนอื่นมากเกินไปแล้วนะ!!”

หยูไห่โมโหจนกระอักเลือด แต่สายตาของคนฝั่งเขา ที่มองมายังเขาได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง