ตอนที่ 2995 โครงกระดูกเดินได้ + ตอนที่ 2996 ซอมบี้ที่โผล่มากะทันหัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2995 โครงกระดูกเดินได้

“อะไร…เกิดอะไรขึ้น…”

เจสันที่เพิ่งทานเนื้อเสร็จจนอิ่มท้องกำลังนอนแผ่อาบแดดอยู่บนผืนหญ้าอย่างอิ่มเอมใจก็สะดุ้งตกใจกับเสียงคำรามของสายลับสาวจนกระเด้งตัวเหมือนปลา

ปิแอร์กระชากตัวเขาไปอยู่ด้านหลัง รีบคว้าปืนออกมาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าประหม่า

“กร๊าซ…”

สายลับหนุ่มก็ส่งเสียงร้องเช่นกัน ทั้งคู่ลุกขึ้นจากพื้นดิ้นอยู่หลายที แต่คิดไม่ถึงว่าสายเถาวัลย์ที่มัดรอบตัวพวกเขาจะขาดสะบั้นได้

คนที่อยู่ใกล้พวกเขามากที่สุดคือเสี่ยวจูซึ่งอยู่ห่างไม่ถึงสามเมตร เสี่ยวจูเป็นคนที่สมองไวแต่แขนขาไม่มีพละกำลังและไม่เป็นวิชาต่อสู้สักนิด ปฏิกิริยาตอบสนิงก็ช้าเช่นกัน

“พระเจ้า…รีบไปช่วยเด็กคนนั้นเร็ว…” เจสันร้องขึ้นมาแล้วยิงปืนใส่ซอมบี้ทั้งสองที่กำลังคืบคลานไปหาเสี่ยวจู

แต่กระสุนยิงโดนตัวซึ่งแค่ช่วยผ่อนความเร็วพวกเขาลงเพียงชั่วคราวเท่านั้น ร่างกายที่เป็นรูจากกระสุนหลายนัดปล่อยเลือดสีดำสนิทไหลออกมาเป็นทาง แต่พวกเขากลับยังเดินหน้าต่อไปไม่หยุดพร้อมปากที่คำรามเรื่อย ๆ

“ให้ตาย…นี่มันผีอะไรเนี่ยทำไมถึงยิงไม่ตายสักที?” เจสันตกใจแทบแย่ ทั้งที่เขายิงใส่หัวใจของสายลับสาวแล้วแท้ ๆ แต่ยายนี่กลับไม่เป็นอะไรเลย ผีหลอกหรือไง

ซอมบี้อยู่ใกล้เสี่ยวจูในระยะไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ เจสันลังเลเพียงครู่สุดท้ายก็พุ่งไปหาเพราะเห็นแก่เนื้อชิ้นใหญ่เขาจะต้องไป

ปิแอร์ถอนหายใจเบา ๆและจำต้องตามไปแต่โดยดี เจ้าเจสันชอบใจดีเรี่ยราด บนตัวเขามีจุดอ่อนชอบรนหาที่ตายนับไม่ถ้วน แต่สิ่งน่าเหลือเชื่อคือเจ้าหมอนี่กลับยังมีชีวิตอยู่รอดมาได้สิบกว่าปีแล้ว!

เสี่ยวจูกลิ้งบนพื้นทีหนึ่งอย่างทุลักทุเล ซอมบี้สาวที่ปากเปื้อนเลือดเกือบจะกัดโดนคอของเขาแล้ว ปิแอร์ยกเท้าเตะใส่จนซอมบี้สาวปลิวไปอีกทาง เสี่ยวจูผ่อนลมหายใจเฮือกหนึ่งพลางกดกำไลบนข้อมือ ก่อนที่แสงสีเงินพุ่งวาบออกไปโดนตัวซอมบี้สาว

“บึ้ม…”

มีเสียงระเบิดทุ้มต่ำดังขึ้นจากภายในตัวของซอมบี้สาว หน้าอกของเธอระเบิดเป็นรูกลวงขนาดใหญ่เหลือเพียงซี่โครงสองข้างคอยประคองเอาไว้จนสามารถเห็นภาพวิวด้านหลังซอมบี้สาวผ่านรูนี้ได้เลย

เจสันกลืนน้ำลายลงคออย่างสะอิดสะเอียนใจแล้วถอยกรูดไปด้านหลังหลายก้าว เขากลัวว่าเศษเนื้อสกปรกของซอมบี้จะกระเด็นโดนตัวเขา

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ซอมบี้สาวก็ยังคงเดินหน้าต่อไป บรรยายคำว่าโครงกระดูกเดินได้ให้เห็นภาพได้ดีทีเดียว

เสี่ยวจูหอบโน้ตบุ๊กและกระเป๋าวิเศษของเขาวิ่งหนีไป พอไปถึงจุดปลอดภัยเขาถึงพรูลมหายใจยาวและเตรียมตัวว่าพอกลับไปค่อยคิดค้นอาวุธเล็ก ๆน้อย ๆไว้ช่วยป้องกันตัวดีกว่า อย่างไรเสียก็ต้องรักษาชีวิตไว้ให้ดี

“โฮ้…ขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก…”

เจสันหน้าซีดพร้อมลั่นไกอีกหลายนัดจนกระสุนหมดเกลี้ยง แต่ซอมบี้ทั้งสองกลับไม่เป็นอะไร

รอเสี่ยวจูตั้งสติได้ก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด ไม่นานเขาก็ฉุกคิดได้จึงตะโกนไปว่า “หักคอพวกมัน!”

ปิแอร์เก็บปืนสวมถุงมือหนัง พร้อมดึงมีดสั้นแหลมคมออกมาพุ่งไปอยู่ด้านหลังซอมบี้สาวแล้วใช้มีดสั้นกรีดรอบคอเธอค่อยปล่อยหมัดออกไปอีกรอบ

“ตุบ”

ศีรษะของซอมบี้สาวกลิ้งตกพื้น ร่างของมันนิ่งค้างอยู่ไม่กี่วินาที…ก่อนจะล้มลงพื้นแล้วหยุดเดิน

“ดีจัง…”

เจสันตะโกนกู่ร้องอย่างดีใจ และพุ่งออกไปอีกคนเตรียมร่วมมือกับปิแอร์ในการตัดศีรษะซอมบี้หนุ่มด้วยกัน

ทั้งคู่ร่วมงานกันมาสิบกว่าปีย่อมรู้ใจกันดีจึงเข้าขากันได้เป็นอย่างดี ไม่นานก็ควบคุมตัวซอมบี้หนุ่มได้ ปิแอร์ทำการตัดศีรษะของซอมบี้หนุ่มเหมือนเมื่อครู่

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ทั้งคู่พรูลมหายใจเฮือกหนึ่งเตรียมเก็บอาวุธ แต่ว่า–

“ระวังด้านหลัง!” เสี่ยวจูตะโกน

ปิแอร์ไหวตัวเร็วกว่าเล็กน้อยแล้วกระชากเจสันมายืนบังไว้ด้านหลังตามสัญชาตญาณ ร่างสีเทาร่างหนึ่งกระโดดขึ้นกลางอากาศโถมตัวใส่เขา ปิแอร์ยกแขนบังหน้าก่อนที่ความรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรงจะแล่นริ้วขึ้นมา

……………………..

ตอนที่ 2996 ซอมบี้ที่โผล่มากะทันหัน

ร่างสีเทาเป็นซอมบี้หมาป่าผอมกระร่องตัวเดียวกับที่พวกเสี่ยวเป่าเจอ ดวงตาของมันประกายแสงสีเขียว ร่างที่ผอมเหลือเพียงโครงกระดูกแต่กลับว่องไวจนน่าเหลือเชื่อ

ซอมบี้หมาป่ากัดเข้าที่แขนของปิแอร์ทำเอาเจสันตกใจยกใหญ่แล้วพุ่งไปข้างหน้าเหมือนคนบ้า เขาหมายจะฟันคอของซอมบี้ให้ขาดแต่ปิแอร์กลั้นเจ็บไว้พลางกระชากตัวเจสันไปอยู่ด้านหลังอีกครั้ง

“ฉันเอง!”

ปิแอร์รู้ว่าตนจะติดเชื้อไวรัสกลายเป็นซอมบี้ที่ไร้ซึ่งความรู้สึกไม่ต่างกับสายลับชายหญิงคู่นั้น เขาไม่เต็มใจให้มันเป็นอย่างนี้เลย…แต่เขาไม่อยากเห็นเจสันบาดเจ็บมากกว่า

ปิแอร์รัดตัวซอมบี้หมาป่าไว้โดยยอมเสี่ยงที่จะถูกมันกัดอีกครั้ง เขาพยายามรัดหัวหมาป่าแล้วตะโกนหาเจสัน “เร็ว!”

พอเจสันได้สติอีกทีก็ตัดคอของซอมบี้หมาป่าอย่างโหดเหี้ยม หัวของหมาป่าร่วงตกลงพื้น ปิแอร์ถอนใจเฮือกหนึ่งก่อนจะมองบาดแผลตรงแขนอย่างท้อใจ

“ฉันจะฆ่าเชื้อให้นายเอง…ไม่เป็นไรหรอก ต้องไม่เป็นไรแน่ ๆ…” เจสันพึมพำอย่างประหม่าพร้อมน้ำตาคลอเบ้า เขาค้นในถุงรอบหนึ่งก็ไม่เจออะไรเลยตัดสินใจเทของทั้งหมดออกมาจนกระจัดกระจายเต็มพื้น

“อย่ากังวลไป ฉันไม่เป็นไรแน่ ๆ” ปิแอร์ปลอบเขา

“ต้องไม่เป็นไรแน่ ๆ…เราจะไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่หางโจว ฉันออมเงินไว้เยอะมาก ซื้อบ้านหลังใหญ่ริมทะเลสาบซีหูได้ ที่นั่นวิวสวยมาก แล้วยังมีของอร่อย ๆด้วย…นายจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ…”

เจสันค้นอยู่นานจนในที่สุดก็หายาเจอ ปากพร่ำพูดไม่หยุดเพราะไม่อย่างนั้นเขาต้องร้องไห้ออกมาแน่

ปิแอร์หัวเราะที่แฝงไปด้วยความขมขื่น เขากำลังจะเอ่ยปากปลอบเจสันสักหน่อยแต่ไม่นานเขาก็จับผิดสังเกตบางอย่างได้เลยรีบหันหลังไปด้วยสีหน้าตกใจ

“ถอยหลังไป!” ปิแอร์ตะโกนใส่เจสัน

เสี่ยวจูก็สะดุ้งด้วยอีกคน สวนดอกลิลลี่แสนงดงามจู่ ๆก็มีฝูงซอมบี้โผล่ขึ้นมาอย่างน่าประหลาดทั้งชายทั้งหญิง รวมถึงสัตว์ป่าอีกจำนวนหนึ่งที่ต่างมีใบหน้าซีดขาวเรียบนิ่ง แต่ร่างกายกลับว่องไวดีกว่าสายลับชายหญิงก่อนหน้านี้มากทีเดียว

โผล่มาตัวแล้วตัวเล่าจนจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆหลายร้อยตัว เรียกให้คนมองรู้สึกขนลุกซู่ไปหมด

“ให้ตาย…ทำไมเยอะขนาดนี้…เรารีบหนีกันเถอะ…” เจสันฉุดแขนปิแอร์หมายจะวิ่งหนี ช่างหัวภารกิจบ้า ๆนี่ไปเถอะ!

ตอนนี้เขาแค่อยากใช้ชีวิตบั้นปลายกับปิแอร์อย่างมีความสุข ต่อให้ปิแอร์กลายเป็นซอมบี้เขาก็ไม่มีวันทอดทิ้ง ต่อให้ลืมเขาไปแล้วอย่างไร?

ขอแค่เขาจดจำอีกฝ่ายได้ก็เพียงพอแล้ว!

“หนีไม่พ้นแล้ว…” ปิแอร์เอ่ยเสียงงึมงำ ใบหน้าที่ไม่เคยสะท้านกับความกลัวใด ๆปรากฏให้เห็นถึงความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก

เขาไม่ได้กลัวตาย แต่เขากลัวไม่สามารถปกป้องคนรักได้ต่างหาก!

เสี่ยวจูคอยมองเหล่าซอมบี้ที่ทะลักเข้ามาจากนอกหุบเขาก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ เขาประมาทเอง ซอมบี้เหล่านี้คงจะถูกเสียงคำรามของสายลับสาวก่อนหน้านี้เรียกตัวมาสินะ!

น่าเสียดายที่ฉาฉากับพวกเสวี่ยเอ๋อร์ล้วนถูกพวกเสี่ยวเป่าพาไปด้วย ไม่รู้ว่าพวกเขาจะกลับมาเมื่อไร เสี่ยวจูถอนหายใจแล้วทำการค้นกระเป๋าวิเศษของเขารอบหนึ่ง จากนั้นก็หยิบของที่มีหน้าตาคล้ายไข่นกพิราบออกมา

“ปิดหูแล้วหมอบลง!”

เสี่ยวจูพุ่งเข้าไปเอ่ยกับพวกเจสันประโยคหนึ่งแล้วโยนของในมือใส่ฝูงซอมบี้ก่อนจะรีบเอามือปิดหูพร้อมหมอบลงกับพื้น

พวกเจสันทันแค่หมอบลงแต่ไม่ทันปิดหู เสียงดังสะท้านฟ้าดังขึ้นจนพื้นดินไหวไปตามเสียงอย่างแรง

พวกเสี่ยวเป่าที่เตรียมจะกลับได้ยินเสียงดังกระหึ่มเช่นนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป

“ให้ฉาฉาพาเรากลับไป เกิดเรื่องแล้ว!” เสี่ยวเป่าตะคอกเสียงกล่าว

…………………………