หญิงสาวคนนั้นเป็นศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณ และเป็นหนึ่งในผู้โชคดีไม่กี่คนที่รอดชีวิตจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ นางกระเด็นตกลงไปที่เชิงเขาจากแรงระเบิด หลังจากอยู่คนเดียวด้วยความหวาดกลัวพักหนึ่ง นางก็เริ่มออกค้นหาเพื่อนๆของนางในภูเขา การเสียสละของเหรินหวงได้หยุดการไล่ล่าจากอาณาจักรบนและทำให้คนของวิหารหยกวิญญาณกระจัดกระจายกันไปทุกทิศทาง พวกนางใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนกว่าจะรวบรวมผู้รอดชีวิตรวมถึงประมุขวิหารหยกวิญญาณได้
เฟยเหยียนส่งข้อความถึงฉูหลิงเย่ นางรีบมาในทันที ศิษย์วิหารหยกวิญญาณคนนั้นนำทางพวกเขาไปพบประมุขวิหารหยกวิญญาณ
ตอนนี้ สภาพของประมุขวิหารหยกวิญญาณดูย่ำแย่พอสมควร เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว แม้ว่าจะรอดชีวิตมาได้ แต่บาดแผลของเขายังไม่หายดี ถึงเขาจะอยู่ข้างหลังเหรินหวง แต่เขาเป็นคนที่อยู่ใกล้เหรินหวงมากที่สุด นอกจากนั้น ตอนที่แรงระเบิดกระแทกพวกเขาให้กระเด็นออกไป เพื่อปกป้องซูหย่าที่อ่อนแอมาก เขาจึงได้รับบาดเจ็บมากขึ้น โชคดีที่พวกเขารอดชีวิตมาได้ แต่อาการบาดเจ็บของพวกเขาสาหัสเกินไป จึงไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ ได้แต่หาถ้ำอยู่เป็นที่หลบภัยชั่วคราวในขณะที่พักฟื้นเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายอื่นๆ
เมื่อเห็นเฟยเหยียนกับฉูหลิงเย่ ดวงตาของประมุขวิหารหยกวิญญาณก็ฉายแววประหลาดใจ พวกเขาเคยพบกันครั้งหนึ่งและไม่ได้คุ้นเคยกัน สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือพวกเขาเป็นเพื่อนของจวินอู๋เสียที่ร่วมทำลายสิบสองวิหาร การได้พบพวกเขาอีกครั้งทำให้หัวใจที่ตึงเครียดของเขาผ่อนคลายลง
“พวกท่าน……ไม่เจอเสี่ยวเสียเลยหรือ?” เฟยเหยียนมองประมุขวิหารหยกวิญญาณพร้อมกับถามเสียงสั่น
ประมุขวิหารหยกวิญญาณส่ายหน้า เขาเองก็สั่งให้ศิษย์ของเขาออกค้นหาเช่นกัน แม้ว่าจะเจอศิษย์คนอื่นๆหลายคน แต่พวกเขาไม่เจอร่องรอยของจวินอู๋เสียเลย
เฟยเหยียนกัดฟัน เขาชกก้อนหินข้างๆด้วยความหงุดหงิด
“แม่ง! แม่ง! แม่งเอ๊ย!!!”
ถ้าพวกเขามาเร็วกว่านี้ ถ้าพวกเขาไม่กลับไปที่อาณาจักรล่าง เรื่องอาจจะไม่เป็นแบบนี้
ความรู้สึกเสียใจอย่างใหญ่หลวงท่วมท้นหัวใจเฟยเหยียน เขาอยากจะย้อนเวลากลับไปได้เหลือเกิน ต่อให้ต้องสู้กับอาณาจักรบนด้วยกันกับจวินอู๋เสีย เขาก็จะไม่ออกจากอาณาจักรกลางแม้แต่ก้าวเดียว!
ถ้ามีพวกเขาอยู่ด้วย จวินอู๋เสียก็ไม่ต้องช่วยซูหย่าตามลำพัง และไม่ต้องต่อสู้อย่างหนักกับอาณาจักรบน ฉูหลิงเย่ที่ฟังอยู่ข้างๆก็นิ่งเงียบ นางสงบนิ่งมาก นิ่งจนทำให้คนอื่นรู้สึกไม่สบายใจ ขณะที่เฟยเหยียนกำลังร้องตะโกนด้วยความหงุดหงิด นางก็หันหลังกลับ
“หลิงเย่?” เฟยเหยียนเงยหน้าขึ้นมองฉูหลิงเย่ที่เดินออกไปอย่างรีบร้อน
“คนของวิหารหยกวิญญาณยังรอด นางก็ต้องรอด” ฉูหลิงเย่ไม่หันกลับมา นางยืดหลังตรง เชื่ออย่างหนักแน่นว่า…….จวินอู๋เสียยังมีชีวิตอยู่ นางจะต้องมีชีวิตอยู่!
นางไม่เคยเชื่อว่าจวินอู๋เสียที่แข็งแกร่งและฉลาดขนาดนั้นจะตายไปอย่างเงียบๆในสถานที่รกร้างเช่นนี้!
“ข้าจะค้นหาต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะค้นหาต่อไป” ฉูหลิงเย่กล่าว นางนำคนส่วนหนึ่งออกค้นหาโดยไม่พูดอะไรอีก
เฟยเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆและเดินตามไป
ใช่แล้ว เสี่ยวเสียของพวกเขาจะตายง่ายๆได้อย่างไร?
ไม่มีใครเชื่อว่าจวินอู๋เสียตายแล้ว พวกเขายังค้นหาต่อไปอย่างไม่ลดละ พวกเขาใช้เวลานาน นานมาก โดยไม่มีร่องรอยอะไรเลย แต่พวกเขาก็ยังค้นหาต่อไปด้วยความมุ่งมั่น ไม่ใช่แค่ไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือน แต่เป็นหลายปี……
เวลาผ่านไปหลายปี สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือหัวใจที่แน่วแน่ของพวกเขา
��