ตอนที่ 1807 เจ้ากลัว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เจ้า… เจ้ากล้าสังหาร… จริงๆ?”

เชียนเย่มองดูสภาพของจงฮันหลินที่ตายลงแล้วอย่างแน่แท้ตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

ภายใต้สายตาของทุกผู้คนนี้ เย่หยวนกลับกล้าสังหารผู้คน!

ผู้อาวุโสใหญ่แห่งโถงหน้ายอดดอกตูมสวรรค์คนนั้นเองก็มีใบหน้าที่เหยเกอย่างถึงที่สุด

เขาคิดว่าตัวเองนั้นมีชื่อเสียงอำนาจฐานะสูงส่งมากพอ แต่เย่หยวนกลับไม่คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อย

หากเขายังไม่ได้พูดยังพอว่า แต่เมื่อเขาพูดออกมา เย่หยวนกลับเหยียบลงสังหารจงฮันหลิน

“นี่มัน…

“ไอ้หมอนี่มันบ้ารึเปล่า? ข้าไม่เคยพบเคยเห็นใครกล้าฆ่าสังหารผู้คนในเขตแดนยอดรองทั้งเก้าเลย ไอ้หมอนี่มันรนหาที่ตายเสียแล้ว!”

“มันคงคิดจะตายตกตามกันแหละนะ ไอ้พวกนิกายบุปผาเหินมันก็ทำตัวเสียขนาดนั้น!”

เมื่อต้องมาเห็นภาพการแลกชีวิตเช่นนี้ทุกผู้คนต่างตื่นตะลึง

พวกเขาคิดได้แต่ว่าเย่หยวนนั้นไม่คิดลืมหูลืมตาในความแค้นที่มีและยอมที่จะตายตกตายไปกับจงฮันหลิน

ผู้ดูแลเจิ้งนั้นไม่พอใจอย่างมากและตะโกนร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น “สารเลว! พวกเจ้าจัดการมันเสีย!”

ด้านหลังเขานั้นคือยอดฝีมือนภาสวรรค์สองคนที่ได้เตรียมการพร้อมจะลงมืออยู่ทุกเมื่อ

เมื่อได้ยินคำสั่งพวกเขาต่างพุ่งร่างเข้าหาเย่หยวนอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

“หยุด!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นมา เผยให้เห็นร่างของไป่หลี่ชิงหยานที่เข้ามาห้ามเย่หยวนอย่างทันท่วงที

เรื่องราวนี้มันทำให้เย่หยวนแปลกใจไม่น้อย

ไป่หลี่ชิงหยานหันมามองเย่หยวนด้วยความสับสน ใบหน้าของนางนั้นดูราวกับว่ามีคำพูดนับหมื่นพันที่ไม่ได้บอกกล่าว

แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาจะมาคุยกัน

การปรากฏตัวนี้ของไป่หลี่ชิงหยานมันทำให้ทุกคนตื่นตกใจมาก

“ผู้ดูแลเจิ้ง แม้ว่าเย่หยวนจะละเมิดกฎของนิกายแต่เรื่องราวทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นจงฮันหลินและเชียนเย่ที่ก่อขึ้นมาแต่ต้น! พวกเขาคิดสังหารเย่หยวนครั้งแล้วครั้งเล่า ข้ายืนยันได้!”

ไป่หลี่ชิงหยานในตอนนี้แตกต่างจากตอนที่นางเข้านิกายมาใหม่ๆ มาก

นางในตอนนี้ยังเป็นแค่เด็กไร้ประสบการณ์ใดๆ จึงมักถูกเจียงเชอเหยียนชักนำเสมอๆ เหมือนน้องสาวที่ได้แต่ตามพี่

แต่ตอนนี้บรรยากาศที่นางปล่อยออกมานั้นเป็นอะไรที่แตกต่าง

เมื่อนางพูด คำพูดนั้นมันกลับไม่มีความโกรธเคืองใดๆ เป็นท่าทางของผู้ปกครองอย่างแท้จริง

เวลาที่ผ่านมาร่วมสองร้อยปีนี้ไป่หลี่ชิงหยานได้บรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มานานแสนนานแล้ว ตอนนี้นางมีพลังฝีมือไม่ด้อยกว่าเชียนเย่เลย

เพราะอย่างไรอัจฉริยะก็คืออัจฉริยะ ไม่มีใครจะมาห้ามหรือหยุดนางได้

เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น คำพูดนี้มันกลับให้น้ำหนักที่แตกต่างจากคำของเย่หยวนจนทำให้ผู้ดูแลเจิ้งถึงขั้นไม่กล้าลงมือใดๆ

ตอนนั้นเองที่ผู้อาวุโสใหญ่แห่งโถงหน้าตอบกลับมา “หึ! ไป่หลี่น้อย ไอ้เด็กคนนี้มันแสนจะดื้อด้าน ถึงกับกล้ามาฆ่าสังหารยอดศิษย์แห่งยอดดอกตูมสวรรค์ต่อหน้าเฒ่าคนนี้! หากไม่ฆ่าสังหารมันลงเสียวันนี้วันหน้าผู้อาวุโสใหญ่แห่งโถงหน้าผู้นี้จะยังมีหน้าไปพบผู้คน?”

ในที่แห่งนี้เขามีพลังที่สูงที่สุดและยังมีฐานะที่สูงส่งกว่าใครๆ

แต่เย่หยวนกลับไม่คิดไว้หน้าเขาและตอนนี้เขาต้องเสียหน้าไปครั้งใหญ่

ไป่หลี่ชิงหยานยกมือขึ้นมาคารวะบอก “ผู้อาวุโสเถา เย่หยวนนั้นทำเรื่องเช่นนี้มันไม่ควรจริงๆ แต่ตอนนี้เขากำลังโกรธแค้นจนขาดสติ การทำเรื่องราวใดๆ นั้นมันย่อมไม่แปลก ไป่หลี่ชิงหยานผู้นี้ขออภัยแทนตัวเขาด้วย! แต่เรื่องในวันนี้ข้าน้อยอยากจะให้เย่หยวนได้ไปรับโทษกับโถงบังคับกฎและต่อสู้ความจริงกับเชียนเย่! ความผิดนี้ของเย่หยวนไม่สมควรถึงต้องตาย!”

เชียนเย่มองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “เวลาก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้วยังต้องหลบหลังผู้หญิงอีก! ชาตินี้เจ้ามันคงได้แต่หลบหลังผู้หญิงเท่านั้นแหละ!”

ไป่หลี่ชิงหยานหันกลับมามองอย่างเยือกเย็น “เชียนเย่เจ้าหุบปากไป!”

เชียนเย่หัวเราะลั่น “ทำไม ข้าพูดอะไรผิดหรือ?”

ไป่หลี่ชิงหยานนั้นกำลังจะพูดสวนกลับแต่เป็นเย่หยวนก็เดินขึ้นมารับหน้าไว้ก่อน “เชียนเย่ ไอ้เจ้าคนหลงตัวเอง! ครานี้เจ้าไม่โชคดีอีกแน่! วันนี้ข้าจะจัดการสะสางความแค้นแต่เก่าก่อนให้สิ้น!”

เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้นมาทุกคนต่างมองดูเย่หยวนราวกับเขาเป็นคนโง่

ไอ้น้อง ตอนนี้เจ้าแทบเอาตัวไม่รอดแล้วรู้ไหม?

มาอวดดีตอนนี้มีแต่จะยิ่งทำให้เรื่องแย่ไปใหญ่

การปากดีแบบนี้ เจ้าไม่ได้รู้ตัวเลยใช่ไหมว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่

แน่นอนว่าฝั่งเชียนเย่ก็หัวเราะลั่นออกมาเมื่อได้ยิน “ข้าไม่โชคดี? ไอ้เด็กนรก เจ้าสมองเพี้ยนไปแล้ว? สภาพตอนนี้เป็นอย่างไรเจ้าไม่เห็นหรอกหรือ?”

เย่หยวนบอก “ข้ามาวันนี้เพื่อเอาชีวิตจงฮันหลินกับเจ้า! ตอนนี้มันได้ตายไปก่อนแล้ว ไม่นานจะเป็นตาของเจ้าบ้าง”

เชียนเย่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน “แค่คนอย่างเจ้า?”

เย่หยวนพยักหน้า “แค่ข้านี่แหละ! เจ้ากล้าดวลกับข้าไหมละ?”

ไป่หลี่ชิงหยานได้แต่หรี่ตามองด้วยความตื่นตกใจ “เย่หยวนเจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เขาเป็นถึงยอดฝีมือนภาสวรรค์นะ!”

เชียนเย่หัวเราะลั่นออกมาเมื่อได้ยิน “ฮ่าๆๆ… เจ้าเป็นแค่ราชันพระเจ้าเก้าดาวกลับคิดท้าทายข้า? เจ้าคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอหรือ?”

เย่หยวนมองดูเชียนเย่ด้วยรอยยิ้มที่แสนเย็นเยือก “เจ้ากลัว!”

เชียนเย่ยิ้มออกมา “ข้ากลัว? หึๆ ไอ้เด็กนรกเจ้าจะมาอวดอ้างตัวตอนนี้มันก็ไร้ประโยชน์! เจ้านั้นเป็นแค่ศิษย์ชั้นนอกคนหนึ่ง เจ้ามีคุณสมบัติใดมาท้าทายข้ากัน?”

สิ่งที่เย่หยวนว่ามานั้นไม่ได้ผิดเลย ตอนนี้เชียนเย่ไม่มั่นใจอย่างมาก

ไม่ใช่เพราะว่าเขาถึงขั้นกลัวเย่หยวน เพียงแต่ว่าเย่หยวนนั้นเป็นตัวตนที่เขาไม่อาจะคาดเดาได้ก็เท่านั้น

ตอนที่เย่หยวนยังเป็นราชันพระเจ้าหกดาวเขาก้าวข้ามขั้นและต่อสู้แบบสองต่อหนึ่งได้ แถมคนที่เขาสู้ด้วยยังเป็นต้วนชิงหงและจงฮันหลินสองยอดอัจฉริยะ

ไม่ได้เห็นเขามาร่วมสองร้อยปี เย่หยวนจะพัฒนาตัวเองไปได้มากแค่ไหนเชียนเย่ย่อมไม่มีทางรู้ได้แน่ชัด

ตอนนี้เย่หยวนนั้นอยู่ในสภาพไม่อาจรอดตายไปได้ เขาจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องลงมือสู้กับเย่หยวนเลย

ชนะไปเขาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา

แต่หากแพ้วันหน้าเขาคงไม่มีหน้าไปมองใคร

แม้ว่าเชียนเย่จะแสดงความมั่นใจในฝีมือออกมา แต่ไป่หลี่ชิงหยานก็ยังจับได้ถึงความกังวลน้อยๆ ของเขา

นั่นมันทำให้นางสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก

สองร้อยปีมานี้นางได้รับการดูแลจากนิกายเป็นอย่างดี พลังฝีมือของนางเองก็พัฒนาไปได้อย่างก้าวกระโดดจนทิ้งใครไม่เห็นฝุ่น

หรือว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนคนนี้กลับมีพลังฝีมือไม่น้อยไปกว่าตัวนาง?

เรื่องเช่นนั้น… มันเป็นไปได้?

เย่หยวนในตอนนี้เป็นเพียงแค่ราชันพระเจ้าเก้าดาวเท่านั้น!

“หึ! ไอ้เด็กคนนี้มันอยากหาเรื่องตายจริงๆ หรือ? แค่ราชันพระเจ้าเก้าดาวกลับท้าทายยอดฝีมือนภาสวรรค์? ช่างประเมินตัวเองสูงเกินจริง! ในสายตาของข้าแล้วมันไม่ต้องดวลใดๆ เรื่องที่เชียนเย่ว่ามามันไม่ผิด เจ้าเป็นคนร้ายและไม่มีสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น! ไป่หลี่น้อยเจ้าหลบไป!” ผู้อาวุโสเถาบอก

ไป่หลี่ชิงหยานหน้าถอดสีทันที “ไม่ไป! ต่อให้เย่หยวนจะทำผิดแต่มันก็เป็นหน้าที่ของโถงบังคับกฎต้องจัดการ! เย่หยวนตามข้ามายังโถงบังคับกฎด้วยกัน!”

ไป่หลี่ชิงหยานดึงตัวเย่หยวนและกำลังจะเดินจากไป

นั่นทำให้ทุกคนหน้าถอดสีทันที ด้วยตัวตนของไป่หลี่ชิงหยานในตอนนี้มันย่อมไม่มีใครกล้าลงมือใดๆ ต่อนาง

เครื่องรางคุ้มครองของเย่หยวนนี้มันช่างทรงพลัง!

“ไป่หลี่น้อย เจ้าคิดต่อต้าน?” ผู้อาวุโสเถาถามขึ้นด้วยใบหน้าสุดไม่พอใจ ตอนนี้เขาโดนขัดมาหลายต่อหลายครั้งจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว

เวลานั้นเองก็มีคลื่นพลังอันแสนดุดันกดทับลงมาจากท้องฟ้า

ร่างหนึ่งปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า

จู่ๆ เย่หยวนก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังจะถล่มลงตรงหน้าเขา

ในวินาทีนั้นร่างของเขามันเต็มเปี่ยมไปด้วยเหงื่อเย็นเหยียบ!

เวลานี้มันเหมือนมีใครมายึดจับหัวใจของเขาไว้จนไม่อาจจะหายใจได้สะดวก

ยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้!

นั่นคือความคิดแรกที่ผ่านเข้ามาในสมองของเย่หยวน!

คนผู้นั้นหันชายตามามองเย่หยวนและค่อยๆ เปิดปากพูด “กฎของนิกาย ผู้ใดสังหารศิษย์ร่วมนิกายต้องถูกฆ่าอย่างไร้ปรานี! ตอนนี้เจ้าจงตายเสียเถอะ!”

พูดจบชายคนนั้นก็ชี้นิ้วมาหาเย่หยวนอย่างไม่คิดจะให้เย่หยวนได้มีโอกาสพูดจาใดๆ!

…………………………