บทที่ 2060 – เธอจับส่วนนั้น
ทะเลดอกไม้!!
ชิงสุ่ยและเฉินหวงทำได้เพียงแค่ออกตามหาทะเลดอกไม้หลังจากเวลาผ่านมาครึ่งวัน
เมื่อมาถึง พวกเขาก็สังเกตเห็นดอกไม้จำนวนมหาศาลที่ทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตาปรากฏอยู่เบื้องหน้า มันมีทั้งดอกไม้และต้นไม้ บางส่วนก็สูงมาก แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือกลิ่นหอมอบอวลของดอกไม้ มันคือดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสัน ทุกคนสามารถมองเห็นผีเสื้อ นก หรือแม้กระทั่งสัตว์อสูรที่ซ่อนตัวอยู่ในภาพลักษณ์ดอกไม้
ชิงสุ่ยมองเห็นรังผึ้งจำนวนมากที่มีขนาดเท่าวัวตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุ่งดอกไม้จะมีผึ้งและผีเสื้อ ชิงสุ่ยยังมองเห็นกลุ่มผีเสื้อกลางคืนที่มีร่างกายสีเพลิง แต่มันก็ไม่ใช่ผีเสื้อเพลิงที่เขาต้องการ คุณสมบัติของผีเสื้อเพลิงที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดคือร่างกายที่ลุกท่วมไปด้วยไปเปลวเพลิง ไฟเหล่านั้นเกิดจากแกนกลางร่างกายของมัน มันเป็นเหมือนพลังที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องออกแรง
นอกเหนือจากนั้น ผีเสื้อเพลิงก็ควรจะมีขนาดใหญ่อย่างน้อยก็เท่ายอดเขาเล็กๆ จึงง่ายต่อการจดจำ อย่างไรก็ตาม ผีเสื้อเพลิงก็ไม่มีทางพบเจอได้ในที่แห่งนี้แน่ เพราะดอกไม้และต้นไม้ที่มองเห็นอยู่ตรงหน้าไม่สามารถทนต่อความร้อนที่ออกมาจากตัวผีเสื้อเพลิงได้
เฉินหวงใบหน้าแดงก่ำขณะที่เธอคล้องคอชิงสุ่ยอีกครั้ง ร่างกายของเธอกำลังสั่นเทา
ชิงสุ่ยสวมกอดเธออย่างรวดเร็ว ขณะที่เขามองดูใบหน้าอันซีดเซียวแฝงไปด้วยรอยแดง เขาก็ทำให้ร่างกายของเขาอบอุ่น นี่คงเป็นสิ่งที่เขาคนเดียวทำได้ หากเป็นคนอื่น ชายผู้นั้นก็คงจะถูกแช่แข็งจนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
ตลอดการเดินทาง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง แม้ชิงสุ่ยจะบอกว่าเขาพร้อมจะช่วยเหลือเธอทุกครั้งที่เธอรู้สึกหนาว แต่เธอก็รอจนถึงช่วงเวลาที่ร่างกายแบกรับไม่ไหวเธอถึงจะกอดเขา หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็เริ่มคุ้นชินกับการกอดของชิงสุ่ย
ทั้งสองยืนอยู่บนบริเวณชายแดนทะเลดอกไม้ ขณะที่ทั้งสองกอดกันอยู่อย่างเงียบๆ ในสายตาคนอื่นทั้งสองเหมือนคู่รัก และเป็นที่ชื่นชมของผู้คนมากมาย ร่างกายที่แสนนุ่มนวลอ่อนโยนในอ้อมแขนของชิงสุ่ย มาทำให้เขาได้สัมผัสถึงส่วนโค้งเว้า และส่วนนูนของร่างกายเฉินหวงได้อย่างชัดเจน
ในตอนแรกร่างกายของเธอเย็นยะเยือก ชิงสุ่ยจึงไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อร่างกายของเฉินหวงอบอุ่น ความรู้สึกนิ่มนวลและสดชื่นก็ทำให้เขาถึงกับสบายตัว ในตอนท้าย ร่างกายของเธอก็ตอบมาอบอุ่นเหมือนหยก ร่างกายที่ไร้ปฏิกิริยาก็เริ่มตอบสนองโดยไม่รู้ตัว
“นั่นมันอะไร?”เฉินหวงรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังดันท้องของเธอ เธอจึงเอื้อมมือไปสัมผัสมัน
ในขณะที่เธอยื่นมือออกไป ชิงสุ่ยก็หายใจเข้าเฮือกใหญ่ ดูเหมือนว่าเธอจะสัมผัสกับส่วนนั้นของเขา
“นี่มันคืออะไร? ทำไมมันถึงได้ตั้งตระหง่านแบบนั้น”สิ่งที่เธอจับร้อนเป็นอย่างมาก เธอรับรู้ถึงความร้อนได้อย่างชัดเจน
นี่คือหยั่งรากของร่างกาย 9 หยาง จึงเป็นธรรมชาติที่มันจะร้อน โดยเฉพาะกับเฉินหวงที่ถูกพิษน้ำแข็งดำ
ตอนที่เธอก้มลงไปมองและเห็นสิ่งที่เธอจับ เธอได้แต่ตกตะลึงและรีบปล่อยมือออกทันที ใบหน้าของเธอแดงยิ่งกว่าแสงแดดพระอาทิตย์ เธอทำอะไรไม่ถูกเลย
“เออ….ข้าไม่ได้จะก่อกวนหรืออะไรหรอกนะ….ที่เกิดขึ้นมันเกิดจากสัญชาตญาณร่างกายของข้าเอง…ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ ระหว่างที่ข้าจะขยับตัวออกไป มือของท่านก็ไปถึงมันแล้ว”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างเชื่องช้า ในขณะเดียวกันเจ้าสิ่งนั้นก็กำลังตั้งตรงอย่างภาคภูมิใจ ภายใต้ร่มผ้า มันเหมือนกระโจมที่กำลังยกตัวเองขึ้น
“นายมัน……หยุดเลย….”เฉินหวงรู้สึกอายมาก ถ้าหากมีหลุมอยู่ด้านข้าง เธอก็คงไปแอบในหลุมแล้ว
“ไปที่นั่นกัน!!”ชิงสุ่ยบอกได้เลยว่าเฉินหวงกำลังสับสนอย่างหนัก เขาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“อืม”
คราวนี้ชิงสุ่ยทำหน้าที่เป็นผู้นำเข้าไปในดินแดนทะเลดอกไม้ไร้ขอบเขต อาจเป็นเพราะเขาอยู่บริเวณพรมแดนจึงทำให้มีเส้นทางเชื่อมต่อเข้าไปสู่ส่วนลึกของพื้นที่มากมายหลายเส้น ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงแค่เลือกเส้นทางเดินและก้าวต่อไปโดยมีเฉินหวงค่อยเป็นผู้ตาม เธอยังคงจ้องมองชิงสุ่ย ก่อนที่จะรู้ตัวว่าชั่วครู่หนึ่งเธอกำลังสูญเสียตัวตน
ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเสียความสงบไปเลย แม้ว่าจะถูกชิงสุ่ยกอด แต่ตอนนี้เธอกำลังเสียสติ หัวใจของเธอเหมือนหยุดนิ่ง มันเป็นความรู้สึกที่เธออธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
หัวใจของเธอไม่เคยผันผวนหนักขนาดนี้ เธอเริ่มให้ความสนใจใช้ที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นครั้งคราว บางครั้งเธอก็เผลอย้อนนึกกลับไปถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา เธอรู้ดีว่านี่คงไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีนัก เพราะมันอาจจะขัดขวางเส้นทางของเธอได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้แล้ว หัวใจของเธอจึงเริ่มไขว้เขว
ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกถึงสายตาที่เฉินหวงกำลังมองมาจากด้านหลัง มันยังเป็นสายตาที่จ้องมองเขามาสักพักใหญ่แล้ว เขาทำได้แค่หันมองไปรอบรอบด้วยความสับสน แต่เมื่อทั้งสองสบตากัน เฉินหวงก็รีบเบือนหน้าหนีด้วยความกังวล ใบหน้าแดงก่ำ
หัวใจของชิงสุ่ยถึงกับสั่นสะท้าน ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่มีทางที่เธอจะเผยภาพลักษณ์แบบนั้นออกมา โดยเฉพาะการพยายามหลีกเลี่ยงสบตาเขา
“แม่นาง ให้ข้าเล่าเรื่องตลกให้ฟัง ดีหรือไม่”ชิงสุ่ยจับมือของเธอและเดินตรงไปข้างหน้า
“ได้เลย!!”เฉินหวงพยักหน้า
“มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผู้ชายคนนึงชอบหญิงสาวอีกคนนึง แต่เขาไม่กล้าบอกเรื่องนี้ ในไม่ช้าหญิงสาวคนนั้นก็แต่งงานมีลูก อยู่มาวันหนึ่ง ชายคนดังกล่าวก็เจอผู้หญิงสาวผู้นั้นอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เธอกำลังให้นมลูกอยู่ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินเข้ามาหาเธอ แล้วใช้มือจับหน้าอกทั้งสองข้างของเธอและพูดกับเด็กน้อยว่า ‘เรียกข้าว่าลุงสิ ถ้าหากเจ้าหนูน้อยไม่เรียก เจ้าจะไม่ได้ดื่มนมนะ’”
“ตลกไหม มันไม่ตลกเหรอ? เอาเป็นว่าเดี๋ยวข้าจะเล่าอีกเรื่องให้ฟัง เรื่องนี้จะต้องตลกอย่างแน่นอน”ชิงสุ่ยเห็นว่าเฉินหวงยังคงเงียบ เธอยังคงไม่มีความสุขดังนั้นเขาจึงกำลังจะกล่าวต่อไป
“หยุดพูดเรื่องหยาบคายแบบนั้น”เฉินหวงกล่าวอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยขมวดคิ้วด้วยสีหน้ากังวล “ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องหยาบคาย เออ….ข้ารู้แล้ว!! เรื่องนี้ท่านจะต้องหัวเราะอย่างแน่นอน!!”
“มีหอยทากอยู่ตัวนึงและเต่าอยู่ตัวนึง ทั้งสองเคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน อยู่มาวันหนึ่ง หอยทากก็เผลอกรีดเนื้อตัวเองจนเลือดไหล ดังนั้นมันจึงไปหาเต่าแล้วบอกให้เต่าไปหาหมอโดยเร็วที่สุด เต่าก็รีบออกจากบ้าน แต่เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งวันดูเหมือนเจ้าเต่าก็ยังไม่กลับมา ดังนั้นหอยทากจึงทนไม่ไหวและตะโกนออกไปว่า ‘ถ้าหากเจ้าไม่กลับมาตอนนี้!! ข้าจะต้องเลือดออกจนหมดตัวตาย’ ไม่นานเสียงของเก่าก็ดังมาจากด้านนอก ‘ไอ้บ้าเอ้ย เจ้าไม่เห็นข้ากำลังวิ่งหรือไง? ถ้าเจ้ายังตะโกนแบบนี้ ข้าจะกลับไปบ้านแล้วไม่ออกไปไหนอีก”
ครั้งนี้เฉินหวงก็ยังแสดงสีหน้าเหมือนเดิม เพียงแต่แฝงรอยยิ้มเล็กๆให้เห็น
“ชิงสุ่ยข้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว เรื่องตลกของท่านก็ไม่เลวเลย”เฉินหวงกล่าว
“ดีแล้วที่ท่านสบายใจ ข้ากลัวว่าท่านจะเครียด ถึงขั้นเอามีดมาแทงข้า”ชิงสุ่ยกล่าวติดตลก
“ทำไมท่านถึงพูดเรื่องไร้สาระ? ใครจะไปทำร้ายท่าน?”
ชิงสุ่ยหน้าต่างหัวเราะ ขณะที่เขาจับมือเธอ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาก็เพิ่มขึ้น ผ่านไปเพียงแค่ครู่เดียวเสียงลมหวีดหวิวก็ดังผ่านหูของพวกเขา