คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1167

ใช้มดนำด้ายแดงผ่านเข้าไปในรูเล็ก ๆ บนหยกเก้าเสี้ยว ช่างเป็นความคิดที่เหลือเชื่อจริง ๆ!

“เหลือเชื่อมาก!” เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เธออดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมา

เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนต้องการแสดงความยินดีต่อแดร์ริลเพราะความตื่นเต้น แต่แล้วเธอก็ควบคุมอารมณ์เอาไว้เพราะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ดังนั้นเธอจึงกระแอ่มเล็กน้อยและพูดเบา ๆ ว่า “เยี่ยมมาก! มันยอดเยี่ยมมาก!”

ใบหน้าที่ตรึงเครียดของจักรพรรดินีก่อนหน้านี้กลับมีรอยยิ้มขึ้นมาทันที เธอมองดูแดร์ริลอย่างไม่เชื่อสายตา จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “เยี่ยมมาก!”

จักรพรรดินีรู้สึกประทับใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าขันทีคนหนึ่งจะมีความคิดที่เฉียบแหลมเช่นนี้ได้

ในขณะที่เฟลทเชอร์และคนอื่น ๆ ยังคงตกอยู่ในอาการงงงวย พวกเขาคิดว่าขันทีผู้ต่ำต้อยจะไม่มีทางทำสำเร็จอย่างแน่นอน แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกตะลึงขณะมองหน้าแดร์ริลอย่างไม่เชื่อสายตา!

“นักการทูตโยเอล ในทวีปโลกใต้เมฆีของเรามีนักปราชญ์มากมาย แม้แต่ขันทีผู้ต่ำต้อยก็ยังสามารถร้อยด้ายเข้าไปในหยกเก้าเสี้ยวได้!” จักรพรรดินีกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นจักรพรรดินีก็เหลือบมองแดร์ริลอีกครั้ง เธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่แดร์ริลสามารถรักษาชื่อเสียงของทวีปโลกใต้เมฆีเอาไว้ได้ เธอจะต้องมอบรางวัลอย่างงามให้แก่เขา

แต่ถึงอย่างนั้นจักรพรรดินีก็ไม่ได้แสดงความยินดีออกมามากจนเกินไป ในฐานะจักรพรรดินี เธอจะต้องรักษาภาพพจน์ของเธอต่อหน้านักการทูตจากทวีปเวสต์ริงตันเอาไว้

“นี่…”

โยเอลฝืนยิ้มในขณะที่เขามองไปที่จักรพรรดินีอย่างงุ่มง่าม จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “การใช้มดนำด้ายแดงร้อยผ่านรูเล็ก ๆ บนหยกเก้าเสี้ยวนั้นช่างเป็นความคิดที่เหลือเชื่อจริง ๆ ฝ่าบาทข้าเองก็รู้สึกประทับใจยิ่งนัก!”

โยเอลคิดว่า คงไม่มีใครในทวีปโลกใต้เมฆีสามารถร้อยด้ายแดงผ่านรูเล็ก ๆ บนหยกเก้าเสี้ยวได้ แต่แล้วเขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อขันทีคนหนึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ในตอนท้าย ดังนั้นแผนการของเขาจึงล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โยเอลรู้สึกเศร้าใจและเป็นกังวล เขาไม่รู้ว่าเขาจะรายงานต่อจักรพรรดิแห่งเวสต์ริงตันเมื่อเขากลับไปว่าอย่างไร

เมื่อทวีปเวสต์ริงตันต้องอับอายเพราะหยกเก้าเสี้ยว โยเอลก็ไม่สามารถสู้หน้าทวีปโลกใต้เมฆีได้อีกต่อไป เขากล่าวอำลาจักรพรรดินีและจากไปทันที

เมื่อโยเอลกลับไปแล้วจักรพรรดินีจึงได้สั่งให้ข้าราชการออกไปได้

จากนั้น เจ้าหน้าที่พลเรือนและนายพลก็ทยอยกันเดินออกจากห้องโถงไป

แดร์ริลเดินตามฝูงชนออกจากห้องโถงไปอย่างหดหู่

“หยุด เจ้าขันที!” เสียงที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นดังขึ้นขณะที่แดร์ริลกำลังจะก้าวเท้าออกไปข้างนอก

แดร์ริลเงยหน้าขึ้นมาและได้เห็นเฟลทเชอร์ที่ยืนรอเขาอยู่ด้วยสีหน้าที่มืดมน

เห็นได้ชัดว่าเฟลทเชอร์ไม่พอใจ เขาเป็นถึงนายพลแห่งทวีปโลกใต้เมฆี แต่แดร์ริลกลับสั่งให้เขาไปจับมดมาให้

เมื่อเฟลทเชอร์รู้ว่าตนเป็นคนโปรดของจักรพรรดินี เขาจึงแสดงความเย่อหยิ่งออกมาอย่างเต็มที

เฟลทเชอร์ถูกทำให้อับอายขายหน้า แล้วเขาจะยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้อย่างไร?

ในเวลานั้น ข้าราชการทุกคนก็หยุดเดินและหันมามองพวกเขาทันที

“ขันทีผู้นั้นหาเรื่องใส่ตัว”

“ฮ่าฮ่า เขากล้าดียังไงสั่งให้นายพลเฟลทเชอร์ไปจับมดมาให้เขา เขากำลังเรียกร้องขอความตาย!”

“ใช่แล้ว! ไม่ว่าเขาจะฉลาดแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ควรดูถูกนายพลเฟลทเชอร์เช่นนั้น”

แดร์ริลไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกกับคำพูดของคนเหล่านั้นหรือแม้แต่สายตาอาฆาตของเฟลทเชอร์เลย แดร์ริลหันมองเฟลทเชอร์และยิ้มเล็กน้อย “มีอะไรหรือเปล่าครับนายพลเฟลทเชอร์?”

ในเวลานั้น เฟลทเชอร์ยกเท้าขึ้นมาวางบนขั้นบันไดอย่างเย่อหยิ่ง จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “รองเท้าของฉันสกปรก เช็ดให้ฉันหน่อยสิ”

น้ำเสียงของเขาฟังดูแน่วแน่และดุดัน

‘บัดซบ! เขาสั่งให้ฉันเช็ดรองเท้าให้งั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!’

แดร์ริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับนายพลเฟลทเชอร์ แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะต้องรับใช้คุณ”

ทุกคนตกตะลึง

ขันทีผู้ต่ำต้อยกล้าพูดกับนายพลเฟลทเชอร์เช่นนั้นได้อย่างไร?