ตอนที่ 859 สิ่งที่นางให้ความสำคัญที่สุด

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “ข้าไม่พูดหรอก!”

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะรักใคร่กันเสียจริง!” มู่หรูเหยียนกล่าวเสียดสี

“อย่างไรก็ตามซีเอ๋อร์มิได้สนใจข้า เจ้าจะฆ่าข้าก็เชิญตามสบาย!”

สีหน้าของมู่หรูเหยียนหม่นคล้ำลงไปเรื่อย ๆ “ข้าไม่เชื่อว่าทั้งทวีปเซี่ยโจวนี้จะไม่มีใครรู้ว่ามู่เฉียนซีอยู่ที่ใด!”

วิธีการของมู่หรูเหยียนนั้นโหดเหี้ยมยิ่งนัก ในที่สุดนางก็ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีได้ออกไปจากทวีปเซี่ยโจวตั้งนานแล้ว มู่อวู่ซวงเองก็เช่นกัน

มู่หรูเหยียนระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา “หรือว่าข้ามาตามหามู่เฉียนซีที่ทวีปเซี่ยโจวเพื่อล้างแค้นนั้น จะเป็นการมาเปล่าหรือ?”

ชายชราผู้หนึ่งในนั้นกล่าว “ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่อคู่แค้นของท่านไม่อยู่ เช่นนั้นพวกเรารีบกลับไปก่อน! พลังวิญญาณในที่แห่งนี้ช่างแห้งแล้งนัก ข้านั้นอยู่ต่อไปไม่ได้จริง ๆ”

“การมายังทวีปเซี่ยโจวในครั้งนี้จะมาเปล่ามิได้ ในเมื่อมู่เฉียนซีไม่อยู่ เช่นนั้นก็ต้องทำลายสิ่งที่นางให้ความสำคัญ”

รอจนเมื่อตอนที่นางต้องการจะทำลายสิ่งเหล่านั้น คนที่ควรจะจากไปก็ได้จากไปแล้ว จวนตระกูลมู่อีกทั้งหอหมอปีศาจ ทั้งหมดได้ถูกโยกย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่นางไม่รู้แล้วทั้งสิ้น

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็มีจำนวนคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หากต้องการที่จะซ่อนตัวอยู่ในทวีปเซี่ยโจวโดยที่มิให้พวกนางค้นหาได้พบมันก็มิใช่เรื่องยาก

“เจ้า….” ดวงตาทั้งสองข้างของมู่หรูเหยียนมองไปทางซวนหยวนหลี่เทียนราวกับว่ามันจะพ่นไฟออกมาได้ “เป็นเจ้าที่ทำเช่นนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย! จะฆ่าเจ้าเสีย!”

ปัก ปัก ปัก!

ซวนหยวนหลี่เทียนที่บาดเจ็บหนักยิ่งเจ็บหนักมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก

ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าว “ซีเอ๋อร์นั้นเห็นแก่หน้าของเสด็จพี่สามจึงมิได้ฆ่าข้า หากเจ้าต้องการจะฆ่าข้า เกรงว่านางคงจะยินดีเป็นอย่างยิ่งนัก!”

เสด็จพี่สามเองก็ออกไปฝึกฝนที่ด้านนอก และมอบเรื่องทั้งหมดนี้ให้เขาแบกรับเอาไว้

มู่หรูเหยียนมิได้ลงมือสังหาร “ซวนหยวนหลี่เทียน เจ้านี่ดีนักนะ! เจ้าคิดว่าให้คนพวกนั้นหนีไปแล้วข้าจะไม่สามารถล้างแค้นได้แล้วหรือยังไง? ข้าจะต้องหาทางล้างแค้นมู่เฉียนซีได้แน่”

“ข้าจะต้องสืบจนรู้ให้ได้ว่าสิ่งที่มู่เฉียนซีให้ความสำคัญมากที่สุดในทวีปเซี่ยวโจวคืออะไร?”

ข่าวบางข่าวในที่สุดก็เริ่มเปิดเผยออกมา

มู่หรูเยียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า! องค์รัชทายาทเซี่ย คนที่มู่เฉียนซีสนใจมากที่สุดคือองค์รัชทายาทเซี่ย การทำลายเขาเสียเกรงว่ามันจะทำให้นางรู้สึกพังทลายเสียยิ่งกว่าการทำลายตระกูลมู่และหอหมอปีศาจเสียอีก!”

“องค์รัชทายาทเซี่ยได้ถูกผนึกเอาไว้ในทุ่งน้ำแข็ง ไม่รู้ว่าเมื่อมู่เฉียนซีกลับมาเมื่อเห็นร่างของคนผู้นั้นแยกเป็นสี่ทิศสี่ทางแล้วจะเป็นเช่นไร? หากนางยังหวังจะให้องค์ชายเซี่ยฟื้นคืนชีพขึ้นมา นั่นก็เป็นได้เพียงแค่ฝันกลางวัน!”

หลักจากที่ทราบข่าวนี้ มู่หรูอวิ๋นก็วางแผนที่จะเดินทางไปยังทุ่งน้ำแข็งที่อยู่เหนือสุด

ซวนหยวนหลี่เทียนเองก็ร้อนรนใจดั่งไฟเผา “บ้าจริง! ข่าวมันรั่วออกไปจากที่ไหนกัน….”

“ซีเอ๋อร์ ซีเอ๋อร์ องค์รัชทายาทเซี่ยเขา….เขา….”

ปัง!

ซวนหยวนหลี่เทียนล้มไปกองอยู่บนพื้นในทันที เขาที่ได้รับบาดเจ็บหนักนั้นได้หมดสติไป

……..

ความเมามายไม่ได้ทำให้เอารัดเอาเปรียบจิ่วเยี่ยได้เลยแม้แต่เพียงเล็กน้อย แต่กลับถูกเขาเอารัดเอาเปรียบอย่างเต็มที่แทน มู่เฉียนซีถูกทำให้โกรธเสียจนขบฟันตนเอง

เมื่อตื่นขึ้นมามู่เฉียนซีก็ถลึงตามองใส่เขาแล้วกล่าว “จิ่วเยี่ย เจ้า….หลอกล่อข้า ลอบกระทำทีเผลอ ข้าจะสู้ตายกับเจ้า…..”

แน่นอนว่าไม่ว่ามู่เฉียนซีจะสู้ตายอย่างไรกับจิ่วเยี่ย ก็ทำอันตรายใดแก่เขามิได้เลยแม้เพียงปลายขน!

หลังจากงานเลี้ยงฉลองเสร็จสิ้น ก็ได้เริ่มวาดแผนการที่จะขยับขยายหอหมอปีศาจในแดนใต้

และเม็ดยากระดูกมังกรในมือนั้นแน่นอนว่าองค์รักษ์แห่งเงาของตระกูลมู่คือผู้ที่มีคุณสมบัติที่สุดที่จะได้ใช้มัน พวกเขาภักดีต่อหัวหน้าตระกูลเป็นที่สุด

การพัฒนาและแข็งแกร่งขึ้นของหอหมอปีศาจนั้นจะขาดพวกเขามิได้!

มู่เฉียนซีถามขึ้น “หอฉงโหลวบนเมฆา เจ้าฟื้นฟูเป็นเช่นไรบ้าง?”

ในมิติมีหินแห่งมิติจำนวนมากมายเช่นนั้น ล้วนแต่ได้ถูกเจ้าหมอนี่กลืนกินไปสิ้นแล้ว

หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “ฟื้นฟูขึ้นมาได้ไม่เลว นายท่านมีอะไรให้รับใช้หรือไม่?”

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ข้าต้องการจะกลับไปทวีปเซี่ยโจว!”

นั่นเป็นเพราะว่าการเดินทางข้ามท้องทะเลนั้นอันตรายเกินไป ตอนนั้นนางออกมาจากทวีปเซี่ยโจวเพียงตัวคนเดียว แต่มาวันนี้นางสามารถใช้หอฉงโหลวบนเมฆาได้ แน่นอนว่าสามารถพาคนอื่น ๆ กลับไปด้วยได้

หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “ถึงแม้ว่าตอนนี้ข้าจะยังไม่สามารถข้ามเขตแดนได้ แต่ทว่าการข้ามทวีปไปนั้นกลับไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย นายท่านต้องการที่จะออกเดินทางเมื่อใด?”

มู่เฉียนซีกล่าวตอบ “เรื่องนี้มิควรชักช้า ออกเดินทางตอนนี้เถอะ!”

ที่จริงแล้วหากจะเดินทางช้าออกไปอีกสักสองวันก็ไม่เป็นไร เพราะมันสามารถส่งตัวไปถึงได้ในทันใด มู่เฉียนซีมีความรู้สึกชนิดหนึ่งที่อยากจะรีบไปให้ถึงทวีปเซี่ยโจวด้วยความใจร้อน จิตใจของนางค่อนข้างไม่สงบนิ่ง

มู่เฉียนซีกล่าว “จิ่วเยี่ย ข้าต้องการที่จะกลับไปทวีปเซี่ยโจว เจ้าไปหรือไม่?”

จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้ เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “แน่นอนว่าจะต้องไปเป็นเพื่อนซี!”

ท้องฟ้าที่สำนักศึกษาซวนเสียได้มืดครึ้มลงทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาฟ้ามืด

เมื่อทุกคนเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าก็เห็นหออันใหญ่โตปรากฏขึ้นมา

หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “นายท่าน พวกเราออกเดินทางกันเถอะ!”

มันเปิดทางผ่านเส้นหนึ่งให้แก่มู่เฉียนซี!

จิ่วเยี่ยอุ้มมู่เฉียนซีเดินไปทางเส้นทางนั้นและเข้าไปในหอฉงโหลวบนเมฆา

ความรวดเร็วของจิ่วเยี่ยนั้นเร็วยิ่งนัก และไม่มีผู้ใดที่สังเกตได้ถึงเงาร่างของเขา

ทุกคนรู้สึกเพียงแต่ว่าหอฉงโหลวบนเมฆาปรากฏตัวขึ้นมาแล้วก็หายไปเพียงเท่านั้น

อาจารย์ใหญ่ซวนเองก็สงสัยเช่นกัน “หอฉงโหลวบนเมฆาปรากฏตัวที่สำนักศึกษาซวนเสียของพวกเรา ทั้งครั้งก่อนหน้าและครั้งนี้เป็นระยะเวลาที่ห่างกันไม่ถึงครึ่งเดือน แต่กลับปรากฏขึ้นมาถึงสองครั้ง นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

……

มู่หรูเหยียนใช้ความเร็วที่ไวที่สุดเดินทางมาถึงทุ่งน้ำแข็ง และหาสุสานของจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้จนพบ

งูหลามหิมะที่เฝ้าสุสานพบว่ามีคนบุกเข้ามามันเลยโจมตีอย่างโหดเหี้ยม!

“ก็แค่พวกมดปลวกเท่านั้น กลับกล้าที่จะมาขวางทางข้า!” มู่หรูเหยียนได้สะบัดผ้าไหมสีขาวออกมา และระเบิดมันพุ่งไปทางงูหลามหิมะสองตัวนั้น!

ตูม!

ร่างของพวกมันกระแทกเข้ากับกำแพงน้ำแข็ง จากนั้นพวกนางก็ได้เข้าไปในสุสาน

อาวุธลับภายในนั้นไม่สามารถสร้างความคุกคามให้แก่พวกนางได้แต่อย่างใด ไม่นานนักก็ได้เดินทางเข้าไปถึงส่วนใจกลาง

มู่หรูเหยียนมองเห็นบุรุษผู้หนึ่งที่ถูกผนึกไว้ด้วยน้ำแข็ง ใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์เหมือนดั่งจิ้งจอกหิมะเป็นใบหน้าที่งดงามยิ่งนัก

มู่หรูเหยียนมองไปยังร่างกายของเชียนอ้าวเซี่ยแล้วกล่าว “ด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้ มิแปลกที่มู่เฉียนซีจะให้ความสำคัญแก่เจ้าถึงขั้นนี้! ข้ามิเพียงแต่จะทำให้ร่างของเจ้านั้นแยกออกจากกันเป็นสี่ห้าส่วน ข้ายังจะทำลายโฉมหน้าของเจ้าอีกด้วย”

.…..

พื้นที่ภายในหอฉงโหลวบนเมฆานั้นใหญ่ยิ่งนัก ถึงแม้ว่ามันจะกำลังเดินทางทะลุผ่านไปในมิติ มู่เฉียนซีก็ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย

แต่ทว่าตั้งแต่ขึ้นมาบนหอฉงโหลวบนเมฆา มู่เฉียนซีกลับนั่งอยู่อย่างไม่เป็นสุข

“ซี!” แม้แต่จิ่วเยี่ยเองก็ยังรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เขาจูบลงไปที่แก้มของนาง จากนั้นน้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมา

มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “จิ่วเยี่ย….ข้ารู้สึกว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว”

ครั้งก่อนหน้าที่จิตใจไม่สงบก็เป็นตอนที่ท่านอาเล็กถูกจับตัวไปแล้วเกิดอันตราย แต่ครั้งนี้มันเป็นเพราะเหตุใด?

จะเป็นอาเล็กหรือว่าอารอง?

หอฉงโหลวบนเมฆาถามขึ้น “นายท่าน เราได้มาถึงเขตแดนของทวีปเซี่ยโจวแล้ว ขอถามนายท่าน ต้องการจะปรากฏตัวขึ้นที่ใด?”

มู่เฉียนซีกล่าว “ปรากฏตัวขึ้นที่ทุ่งน้ำแข็งแล้วกัน! ที่ทุ่งน้ำแข็งมีผู้คนเบาบาง เจ้าปรากฏตัวขึ้นก็จะไม่ดึงดูดให้ผู้คนสัมผัสได้ อีกทั้งที่ทุ่งน้ำแข็ง….”

สวะเซี่ย!

มู่เฉียนซีเบิกตากว้างแล้วกล่าว “เร็วเข้า จะต้องไปถึงทุ่งน้ำแข็งให้ไว!”

“ขอรับ!”

ก็ว่ายังจะมีอะไรที่ทำให้นางไม่สงบสุขนอกจากอาเล็กและอารอง ก็ยังมีผู้ที่นอนนิทรายาวนานอยู่ที่ทุ่งน้ำแข็งผู้นั้น

เขาเปราะบางมากเสียจนไม่สามารถรับอันตรายได้เลยแม้แต่นิดเดียว

ทันทีที่ร่างกายถูกทำลาย ถึงต่อให้หาสมุนไพรชั้นดีจนครบแล้วนำมาสกัดยาหยินหยางอนันต์ ยาหยินหยางอนันต์ที่สกัดออกมานั้นก็มิอาจจะช่วยอะไรได้อีกแล้ว