จู่ ๆ สมาชิกจากประเทศต่าง ๆ ที่อยู่สถานที่อื่น ก็รู้สึกหวาดกลัวโดยไม่มีเหตุผล
พวกเขาพูดคุยเสียงดังอยู่พักหนึ่ง บอกว่าเป็นปีศาจฟื้นคืนชีพ และมองท้องฟ้าด้วยความตื่นตระหนก
เฉินโม่และคนอื่น ๆ รู้สึกว่าพลังชีวิตของพวกเขาค่อย ๆ หมดลง ถึงแม้จะไม่มีสัญญาณใด ๆ แต่พวกเขาก็สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน
“มันดูดพลังชีวิตของพวกเรา!” เหลยจ้านกล่าวด้วยความตกใจ
“มันเป็นตัวอะไรกันแน่?” จางเจิ้นตะโกนดุด่า เพราะทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ความรู้ความเข้าใจของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“หัวหน้า เมื่อก่อนคนที่เคยเข้าร่วมสงครามห้าประเทศ ไม่เคยบอกว่าที่นี่มีสิ่งแปลกประหลาดเช่นนี้ เป็นเพราะพวกเราดวงดีมากใช่ไหม?” เซี่ยไห่หลงมองจีอู๋หยา และยิ้มด้วยความขมขื่น
สีหน้าของจีอู๋หยาเคร่งขรึม ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมสงครามห้าประเทศ เขาหาข้อมูลมากมาย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาร่วมสงครามห้าประเทศ เมื่อก่อนอย่างมากที่สุด เขาเพียงแค่พบสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังเป็นพิเศษหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ตอนนี้เขาไม่สามารถจินตนาการเรื่องที่เหลือเชื่อเช่นนี้ได้
“ทุกคนอย่าท้อแท้ พยายามดูว่าพวกเราจะสามารถหลุดพ้นพันธนาการนี้ได้หรือไม่?” จีอู๋หยาตะโกนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
เฉินโม่แอบรู้สึกกังวลเช่นกัน ขณะที่เขากำลังพิจารณาว่าจะใช้วิธีลับบางอย่างเพื่อช่วยทุกคน จู่ ๆ เหลยจ้านก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “ดูสิ ตะเกียงน้ำมันนั่น!”
เฉินโม่มองตามทิศทางที่เหลยจ้านชี้ ตะเกียงน้ำมันที่อยู่ในฝ่ามือของรูปปั้นก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศ
ค่อย ๆ ลอยมาอยู่เหนือแขนขาด และรอบ ๆ ตะเกียงน้ำมันเป็นแสงสีทองส่องประกายเป็นวงกลม
ดูเหมือนว่าแขนขาดจะกลัวตะเกียงน้ำมันมาก มันคลานอยู่บนพื้น มันสั่นสะท้าน ดูเหมือนมันจะไม่เต็มใจ และต้องการต่อต้าน เหมือนสถานการณ์ที่เฉินโม่และคนอื่น ๆ กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้
ตะเกียงน้ำมันหยุดอยู่เหนือแขนขาด แล้วเลื่อนลงมาอย่างช้า ๆ ราวกับมียักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังต่อสู้กับมันอยู่ด้านล่าง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตะเกียงน้ำมันจะเลื่อนลงมาอย่างช้า ๆ แต่ก็ไม่หยุด สุดท้ายความเร็วของตะเกียงน้ำมันที่เลื่อนลงมาก็ยิ่งช้าลงเรื่อย ๆ เมื่อตะเกียงน้ำมันอยู่ห่างจากแขนขาดหนึ่งเมตร ดูเหมือนจะไม่สามารถมองเห็นความเร็วของมันด้วยตาเปล่าได้ เพียงแค่รู้สึกว่าตะเกียงน้ำมันยังคงเลื่อนลงมาเรื่อย ๆ
“เฮ้ ผมขยับได้แล้ว!” น้ำเสียงที่ประหลาดใจของเหลยจ้านดังขึ้น แล้วทุกคนก็พบว่าสามารถควบคุมขาของตนเองได้แล้ว
พลังที่ดูดพลังชีวิตของพวกเขาก็หายไปแล้วเช่นกัน
ตะเกียงน้ำมันยังคงต่อสู้กับแขนขาด ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันอยู่ใกล้แขนขาดแล้ว ราวกับว่ามันต้องการจะทำให้แขนขาดลงไปสู่ใต้พื้นดินอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นจบ แขนขาดต่อต้านตะเกียงน้ำมันมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายถึงทางตันแล้ว
สุดท้าย ตะเกียงน้ำมันเป็นฝ่ายได้เปรียบ ทำให้แขนขาดกลับลงไปสู่ใต้พื้นดินได้สำเร็จ
สิ่งที่แปลกก็คือเมื่อแขนขาดถูกผนึกไว้ใต้ดิน เฉินโม่และคนอื่น ๆ ได้ยินเสียงคำรามด้วยความไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นแค่แขนที่ขาดเท่านั้น แต่มันกลับสามารถส่งเสียงออกมาได้ ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกขนลุก
หลังจากแขนขาดถูกผนึกไว้ใต้ดินอีกครั้ง โลกก็กลับมาสงบอีกครั้ง
ตะเกียงน้ำมันยังคงลอยค้างอยู่เหนือแขนขาดสักพัก เวียนไปมา 3 รอบ สุดท้ายก็ลงสู่พื้นดิน
ขณะนี้ เปลวไฟของตะเกียงน้ำมันดับแล้ว
“ไฟ ไฟดับแล้ว!” เหลยจ้านอุทานด้วยความประหลาดใจ
“เดาว่าพลังของมันคงหมดแล้ว!” จีอู๋หยากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ทุกคนดูสิ ตะเกียงหายไปแล้ว!” เหลยจ้านชี้ตำแหน่งของตะเกียงน้ำมัน
ทุกคนพบว่าตอนแรกบนพื้นดินที่มีตะเกียงน้ำมันอยู่ แต่ตอนนี้ว่างเปล่า มันหายไปต่อหน้าทุกคนอย่างน่าประหลาด
“ตะเกียงไปอยู่ที่ไหนแล้ว?” ทุกคนรู้สึกสงสัยมาก แต่ไม่มีใครตอบพวกเขาได้
ท้องฟ้าสลัวไร้ชีวิตชีวา ผืนดินสีน้ำตาล แม่น้ำสีน้ำตาล และฝ่ามือสีน้ำตาลขนาดใหญ่ เหมือนกำลังจะเล่าประวัติศาสตร์ที่ถูกฝังไว้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้ทุกคนได้รับรู้