ภาคที่ 34 เทพจักรวาล ตอนที่ 33 วันแห่งเส้นตาย

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตงป๋อเสวี่ยอิงกำลังครุ่นคิดว่าแม้ครั้งนี้จะมีสี่ตำแหน่งที่ว่างอยู่ แต่มหาเคารพฝูอี่จะต้องได้ไปตำแหน่งหนึ่งอย่างแน่นอน อันที่จริงแล้วเป็นศึกชิงตำแหน่งเพียงสามตำแหน่งเท่านั้น!

จอมเคารพมารอัคคีและเจ้าลัทธิเก้าพิษ สองคนนี้รับมือไม่ได้ง่ายๆ

ยังมีบรรดาเทพจักรวาลของสามตระกูลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นด้านสายสัมพันธ์หรือด้านข่าวสาร พวกเขาก็ล้วนเหนือกว่าตนทั้งสิ้น

“ข่าวสาร” ตงป๋อเสวี่ยอิงพึมพำเสียงต่ำกับตนเอง

ข่าวสารนั้นสำคัญมาก

‘สมบัติวิเศษ’ บนรายนามของภารกิจสมบัติวิเศษนั้นหาได้ยากเกินไปแล้ว อย่างแรกคือต้องรู้ว่าต้องไปที่ใดจึงจะหาได้พบ! เคราะห์ดีที่เบื้องหลังตนมีท่านอาจารย์ประมุขรัฐเมฆทักษิณาอยู่ มิเช่นนั้นแล้วดวงตาทั้งสองของตนก็คงมืดแปดด้านไปหมด แต่เครือข่ายข่าวสสารของท่านอาจารย์…ก็ยังมิอาจเทียบชั้นกับสามตระกูลใหญ่แห่งรัฐโบราณคิมหันตวายุได้อยู่ดี

“สกุลฝานขูดรีดราคาได้โหดร้ายเกินไปแล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบส่ายหน้า ร้านค้าสกุลฝานก็สามารถซื้อหาข่าวสารได้ ทว่ารายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับ ‘สมบัติวิเศษ’ ในศึกชิงตำแหน่งครั้งนี้ ราคาสูงถึงหมื่นล้านแก้วผลึกจักรวาลเลยทีเดียว! ก็ใจดำเกินไปแล้ว ราคานี้เกือบจะเท่ากับ ‘หอกเทพเมฆาแดง’ แล้ว!

“การจะได้สมบัติวิเศษเหล่านี้มาไว้ในมือนั้นยากเกินไปแล้ว เคราะห์ดีที่ข้ามีเคล็ดไร้ทลายเก้ากัณฑ์อยู่” ในสายตาของตงป๋อเสวี่ยอิงแฝงแววรอคอยเอาไว้

เคล็ดไร้ทลายเก้ากัณฑ์…

เขาเพิ่งจะขายให้สามตระกูลใหญ่แห่งรัฐโบราณคิมหันตวายุไป ยังไม่เคยขายให้รัฐโบราณอื่นๆ เลย! เมื่อถึงคราวคับขันค่อยใช้มัน

“สวบ”

ทันใดนั้นร่างแยกสองร่างก็ปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้าเหนือเมืองหิมะเหินจากความว่างเปล่า หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างสำแดงศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกาจากไป

……

ร่างแยกร่างหนึ่งในจำนวนนั้นกลับมาถึงรัฐโบราณเสียดฟ้าแล้ว

“รัฐโบราณเสียดฟ้า”

ตงป๋อเสวี่ยอิงมาถึงนครหลวงรัฐโบราณเสียดฟ้า แม้จะอยู่นอกเมืองก็ยังมองเห็นว่าในนครหลวงอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตามีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งเปล่งแสงสีทองอันเรืองรองออกมา ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านจนแทงทะลุเข้าไปในชั้นเมฆ ยอดไม้นั้นใหญ่โตมโหฬาร

ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับล่วงรู้ว่า ต้นไม้โบราณอันมหึมาต้นนี้…ก็คือร่างจริงของประมุขรัฐเสียดฟ้า…ต้นไม้เทพเสียดฟ้านั่นเอง!

“ฟิ้ว” เขาเดินเลียบประตูเมืองเข้าไป

เขาเดินย่ำอากาศไปในตัวเมือง ไม่นานนักก็มาถึงนอกวังหลวง วังหลวงนั้นไม่มีประตูเมือง หากแต่มีสาบน้ำมหึมาราวกับสายรัดเอวอยู่สายหนึ่ง หรืออาจกล่าวได้ว่าสายน้ำนี้ก็คือกำแพงเมืองนั่นเอง

ตงป๋อเสวี่ยอิงยืนอยู่ภายนอกวังหลวง มองดูต้นไม้เทพเสียดฟ้าอันสูงตระหง่านต้นนั้น จากนั้นก็โค้งคำนับแล้วถ่ายเสียงพูดว่า “หิมะเหินคารวะประมุขรัฐเสียดฟ้าขอรับ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” เหนือต้นไม้เทพเสียดฟ้า ระลอกคลื่นอันไร้รูปร่างแผ่กำจายออกมาแล้วปกคลุมตงป๋อเสวี่ยอิงเอาไว้ “จ้าวหิมะเหินแห่งรัฐเมฆทักษิณา มายังรัฐโบราณเสียดฟ้าของข้า ช่างหาได้ยากนัก เข้ามาพูดคุยกันก่อนเถิด”

ตัวเขาเป็นถึงสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูแต่กลับถ่อมตนเป็นอันมาก

จะว่าไปแล้ว

สิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา ผู้ที่นับได้ว่า ‘นิสัยดี’ ก็มีเพียงสองคนเท่านั้น คนหนึ่งคือเจ้าเมืองอนันต์ ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือประมุขรัฐเสียดฟ้านั่นเอง!

“ฟิ้ว”

ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกว่าอากาศถูกเคลื่อนย้าย ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนแปรไป จากนั้นก็ปรากฏกายขึ้นภายในวังหลวงขนาดมหึมาอันหรูหราแห่งหนึ่ง

ในวังหลวงมีชายชราในอาภรณ์สีเหลืองทองผู้หนึ่งนั่งอยู่ ซึ่งก็คือร่างของประมุขรัฐเสียดฟ้าที่ใช้ท่องไปและทำการต่อสู้อยู่ภายนอก ถัดลงมาเบื้องล่างทั้งสองฝั่งของเขามีผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่สองคนด้วยกัน

“จ้าวหิมะเหินมาด้วยเรื่องอันใดหรือ” ประมุขรัฐเสียดฟ้าเหลือบมองลงไปยังตงป๋อเสวี่ยอิงที่อยู่เบื้องล่างพลางพูดยิ้มๆ

“ข้ามีเคล็ดลับวิถีอากาศอยู่วิชาหนึ่ง สามารถบรรลุถึงการกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดได้ในขั้นอลวนขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงกล่าว “ไม่ทราบว่าท่านประมุขรัฐพอจะสนใจบ้างหรือไม่”

“ใช่เคล็ดไร้ทลายเก้ากัณฑ์ที่เจ้าขายให้รัฐโบราณคิมหันตวายุหรือไม่” ประมุขรัฐเสียดฟ้าถาม

“ขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า ขณะเดียวกันก็ตกตะลึงอยู่บ้าง แม้แต่ทางประมุขรัฐเสียดฟ้าก็ทราบเรื่องหรือนี่

ประมุขรัฐเสียดฟ้าสนอกสนใจเป็นอย่างมาก รับปากจะซื้อไว้ด้วยห้าหมื่นมหาคุณูปการ! แม้จะกล่าวว่ารัฐโบราณคิมหันตวายุมอบให้ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นมหาคุณูปการ แต่ถึงอย่างไรรัฐโบราณทั้งสองก็มีพลังแตกต่างกัน จำนวนผู้แกร่งกล้าก็ต่างกัน สามารถมอบห้าหมื่นมหาคุณูปการให้ได้ก็ไม่เลวแล้ว แน่นอนว่า ‘ห้าหมื่นมหาคุณูปการ’ นี้ทำได้เพียงแลกเปลี่ยนสมบัติล้ำค่าในรัฐโบราณเสียดฟ้าได้เท่านั้น

ไม่นานนัก ในตำหนักใหญ่ก็มีผู้แกร่งกล้าอีกคนหนึ่งของรัฐโบราณเสียดฟ้าปรากฏกายขึ้น ‘จอมเคารพหย่าซี’ นั่นเอง

“จอมเคารพหย่าซี” ตงป๋อเสวี่ยอิงคารวะจอมเคารพหญิงเบื้องหน้าผู้นี้ “ข้าอยากจะซื้อสมบัติวิเศษ ‘เนตรทองแห่งอนาคต’ ไม่ทราบว่าต้องใช้คุณูปการของตระกูลกษัตริย์รัฐโบราณเสียดฟ้าสักเท่าไหร่หรือขอรับ”

“ห้าหมื่นมหาคุณูปการ” จอมเคารพหย่าซียิ้มจนตาหยี

“นี่ก็แพงเกินไปแล้วกระมัง” ตงป๋อเสวี่ยอิงสีหน้าเปลี่ยนไป

เนตรทองแห่งอนาคต ในภารกิจสมบัติวิเศษนั้นสามารถแลกได้หนึ่งหมื่นห้าพันคุณูปการ!

แม้ด้วยความพิเศษของการแย่งชิงตำแหน่งเพื่อเข้าสู่วังเทพจิตโลกา จะทำให้คุณูปการนี้ตั้งเอาไว้ค่อนข้างต่ำ แต่ราคาที่แท้จริงของ ‘เนตรทองแห่งอนาคต’…ก็อยู่ที่ระหว่างสองหมื่นถึงสามหมื่นมหาคุณูปการตระกูลกษัตริย์แห่งรัฐเสียดฟ้าเท่านั้น ตอนนี้ต้องการถึงห้าหมื่นมหาคุณูปการ ขึ้นไปอีกเท่าตัวเลยทีเดียว

“คนของรัฐโบราณคิมหันตวายุที่อยากจะได้เนตรทองแห่งอนาคตนี้มีตั้งหลายคน” จอมเคารพหย่าซีไม่รีบร้อนเลยแม้แต่น้อย

“อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงกล่าว เขาก็มิใช่คนโง่งม

แม้ตำแหน่งจะสำคัญ

แต่ในดินแดนจิตโลกา มูลค่านั้นมีจำกัด สำหรับผู้แกร่งกล้าส่วนใหญ่แล้ว ตลอดคืนวันอันยาวนาน ‘วังเทพจิตโลกา’ อาจจะเปิดออกมาเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่พวกเขาเข้าไปก็เพื่อบรรลุ บางคนก็เพื่อ ‘สมบัติลับระดับยอดสุด’ แต่อันที่จริงเข้าไปแล้วก็มีโอกาสได้รับค่อนข้างต่ำ! ดังนั้นมูลค่าของตำแหน่งจึงควรจะต่ำกว่าสมบัติลับระดับยอดสุดอยู่มากโข

ห้าหมื่นมหาคุณูปการของตระกูลกษัตริย์รัฐเสียดฟ้าหรือ

ไม่คุ้มค่าเลย!

……

แน่นอนว่าที่เขาสงบนิ่งได้เช่นนี้ ก็เพราะเขาก็ขายเคล็ดไร้ทลายเก้ากัณฑ์ให้แก่รัฐโบราณหิมะน้ำแข็งด้วยเช่นกัน รัฐโบราณหิมะน้ำแข็งมีสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูสามท่าน พลังและสิ่งที่สั่งสมไว้แข็งแกร่งกว่ารัฐโบราณเสียดฟ้ามากทีเดียว จึงให้เขาที่ราคาเก้าหมื่นมหาคุณูปการของรัฐโบราณหิมะน้ำแข็ง เขาใช้เพียงสามหมื่นมหาคุณูปการเท่านั้นก็สามารถแลก ‘เสาผลึกน้ำแข็งหยาดโลหิต’ สมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งที่เขาต้องการมาได้แล้ว ในภารกิจสมบัติวิเศษมีมูลค่าหนึ่งหมื่นหกพันคุณูปการ

เมื่อมองจากมุมนี้ ราคาที่รัฐโบราณหิมะน้ำแข็งให้มานั้นก็ถือว่าตรงกับความเป็นจริงมากทีเดียว!

“เพียงพอแล้วกระมัง ภารกิจค่าหัวของจ้าวมารเพลิงพิโรธนั้นจะได้รับหนึ่งหมื่นสองพันคุณูปการ เสาผลึกน้ำแข็งหยาดโลหิตก็จะได้รับหนึ่งหมื่นหกพันคุณูปการ รวมกันก็ได้ถึงสองหมื่นแปดพันคุณูปการแล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพึมพำ

ต้องรู้ไว้ว่า

ผู้แกร่งกล้าระดับจอมเคารพส่วนใหญ่ก็มิได้มั่งคั่งถึงเพียงนั้น อย่างประมุขรัฐเมฆทักษิณานั้นเป็นจำพวกที่มั่งคั่งที่สุดในดินแดนจิตโลกาแล้ว ต่อให้เป็นตำแหน่งที่เข้าไปในวังเทพจิตโลกา  นอกเสียจากผู้แกร่งกล้าระดับจอมเคารพที่ยินดีสละทุกสิ่งเพื่อเข้าไปโดยไม่เสียดายอะไรทั้งสิ้น  มิเช่นนั้นแล้วราคาที่จ่ายไหวก็มีขีดจำกัดเช่นกัน

“สองหมื่นแปดพันคุณูปการภารกิจเชียวนะ” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพึมพำ “คุณูปการภารกิจนี้ โดยทั่วไปล้วนแต่ให้ราคาต่ำมาก เมื่อข้าส่งมอบขึ้นไปอย่างน้อยก็ต้องขาดทุนสองหมื่นล้านแก้วผลึกจักรวาล”

เคราะห์ดีที่เขาคิดค้นเคล็ดไร้ทลายเก้ากัณฑ์ขึ้นมาเอง มิเช่นนั้นแล้วไหนเลยจะสบายถึงเพียงนี้ได้

……

ต่อมาจอมเคารพหย่าซีผู้นั้นก็ยอมลดราคาลง ยิ่งใกล้เส้นตายเก้าหมื่นปีมากขึ้นเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งลดต่ำลงเท่านั้น น่าเสียดายที่ข้อแรกตงป๋อเสวี่ยอิงยังเห็นว่าแพงเกินไป ข้อสอง เขารู้สึกว่าตนก็เกือบจะรวบรวมได้เพียงพอแล้ว

ตอนที่เขาอยู่ใน ‘รัฐโบราณหิมะน้ำแข็ง’ และ ‘รัฐโบราณเสียดฟ้า’ ก็ได้แลกเปลี่ยนเอาวัตถุอื่นๆ มาเช่นกัน และถึงขั้นไปตามหาผู้แกร่งกล้าบางคนเพื่อแลกเปลี่ยนเอาพวกสมบัติวิเศษราคาต่ำยิบย่อยมารวมกันด้วย

และสามารถรวบรวมสามหมื่นคุณูปการภารกิจได้อย่างพอถูไถ!

“สามหมื่นคุณูปการภารกิจ”

“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะมิได้มาสักตำแหน่งเลยน่ะ” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็รู้สึกว่าโอกาสมาแล้วต้องคว้าเอาไว้ให้ได้ จึงได้ทุ่มเทไปมากมายเช่นนี้

ฟิ้ว

วันสุดท้ายของการช่วงชิงตำแหน่ง เหล่าเทพจักรวาลที่เข้าร่วมการแย่งชิงต่างก็เร่งเข้ามาจากที่ต่างๆ และมาถึงยังวังหลวงของนครหลวงคิมหันตวายุ เทพจักรวาลที่มิได้เข้าร่วมการแย่งชิงบางคนก็มาด้วยเช่นกัน! แน่นอนว่าผู้ที่สามารถเข้าไปในวังหลวงได้ โดยทั่วไปก็มีแต่คนของสามตระกูลใหญ่เท่านั้น

“อิงซานเสวี่ยอิงแห่งรัฐเมฆทักษิณา”

“เป็นเขา”

“เกรงว่าคุณูปการที่เขาสะสมมาก็คงไม่น้อย”

เทพจักรวารหลายคนต่างก็เพ่งความสนใจไปที่ชายหนุ่มอาภรณ์ขาวผู้เดินเข้ามาในวังหลวง

ตงป๋อเสวี่ยอิงมุ่งหน้าไปยังโถงด้านข้างแห่งหนึ่งด้วยการนำทางของบ่าวรับใช้ ภายในโถงด้านข้างมีชายชราอาภรณ์สีเหลือง วิญญาณค่ายกลของวังหลวงผู้นั้นอยู่ด้วย

“ผู้อาวุโสเซี่ย” ตงป๋อเสวี่ยอิงกล่าว

“ได้ยินมาว่าภารกิจสังหารในครั้งนี้ มีแค่เจ้าและจอมเคารพมารอัคคีเท่านั้นที่สามารถทำได้สำเร็จ” ผู้อาวุโสเซี่ยพูดยิ้มๆ

“ก็มีเรื่องโชคด้วยขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงกล่าวพลางส่งกำไลวงหนึ่งให้แก่ผู้อาวุโสเซี่ย “ภายใสสมบัติล้ำค่าคูหาสวรรค์นี้มีวัตถุต่างๆ อยู่ รวมทั้งจ้าวมารเพลิงพิโรธซึ่งถูกข้าผนึกกำลังเอาไว้ด้วย”

จ้าวมารเพลิงพิโรธมิได้ต่อต้าน จึงทำให้ตงป๋อเสวี่ยอิงสามารถผนึกพลังได้

ผู้อาวุโสเซี่ยพยักหน้าพลางรับกำไลมา เขาตรวจสอบคราหนึ่งอย่างรวดเร็ว แล้วก็อดมองตงป๋อเสวี่ยอิงด้วยความตกตะลึงมิได้ “จ้าวมารเพลิงพิโรธถูกจับมาทั้งเป็น อีกประเดี๋ยวจะมีบ่าวรับใช้นำแก้วผลึกจักรวาลมาให้เจ้าต่างหากอีกหมื่นล้านก้อน เมื่อนับสมบัติวิเศษด้วยแล้ว สามหมื่นคุณูปการภารกิจหรือ สูงพอตัวทีเดียว แต่จะได้ตำแหน่งมาหรือไม่นั้น ต้องรอให้ถึงเส้นตายสุดท้ายเสียก่อน ถึงตอนนั้นผู้ที่ถูกจัดอยู่ในสี่อันดับแรกก็จะได้รับตำแหน่งไป”

“ข้ารู้ขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกตื่นเต้นในใจ หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น จากประสบการณ์ สามหมื่นคุณูปการภารกิจก็ควรจะพออย่างแน่นอนแล้ว

 ……………………………….