ตอนที่ 1105

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันพึงพอใจมาก เนื่องจากเขาไม่ได้ใช้พลังของตนเองมากมายเท่าไหร่ พลังที่ปล่อยออกไปเป็นพลังของตัวดาบอสูรนิรันดร์เองทั้งสิ้น

ดาบเป็นเพียงอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม แต่เนื่องจากเจตจำนงที่ถูกสลักเอาไว้ทำให้มันมีพลังอยู่เหนือระดับของมันเอง ดาบอสูรนิรันดร์นั้นสามารถปะทะกับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้อย่างทัดเทียม

ขนาดอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังสามารถสู้ข้ามระดับได้?

‘พรึบ’ ปลาที่เหลืออยู่รีบสะบัดหางว่ายหนีไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้หลิงฮันแค่ขูดเกล็ดของพวกมันแต่ไม่ได้สังหารจึงทำให้ปลาเหล่านี้ไม่หวาดกลัว แต่เมื่อรู้ว่าหลิงฮันไม่ใช่คนที่พวกมันจะสามารถต่อกรด้วยได้พวกมันจึงรีบเผ่นหนีทันที

“นั่นคือดาบอันดับหนึ่งของโลก?” สุ่ยเยี่ยนยวี่เองก็รู้ว่าจินจื้อฮุยได้เดินทางมาเพื่อมอบดาบให้กับหลิงฮัน

หลิงฮันพยักหน้าและกล่าว “ดาบเล่มนี้ยังแข็งแกร่งขึ้นได้อีก”

สุ่ยเยี่ยนยวี่ยิ้มและกล่าว “ข้าเชื่อว่าหากมันอยู่ในมือเจ้าดาบเล่มนี้จะต้องพัฒนาถึงจุดสูงสุดแน่นอน สำหรับนักตีดาบแล้วนี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการเห็นมากที่สุด ไม่เช่นนั้นหากพวกเขาเป็นคนเก็บเอาไว้เองก็มีแต่จะทำให้ไข่มุกล้ำค่าถูกฝุ่นเกาะ”

“ภรรยาข้านี่พูดเก่งขึ้นเรื่อยๆเลยนะ เจ้าช่างปากหวานจริงๆ” หลิงฮันยิ้มและหยิกแก้มสุ่ยเยี่ยนยวี่ อีกฝ่ายถลึงตาใส่เขาด้วยท่าทีรำคาญ

“ข้าคาดหวังจริงๆว่าจะเจอปลาที่แข็งแก่งกว่านี้เพื่อพัฒนาดาบให้กลายเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่”

สุ่ยเยี่ยนยวี่มองไปด้านหน้า จู่ๆสีหน้านางก็เปลี่ยนไป “เจ้าคนปากพาซวย!”

ด้านหน้ามีปลาขนาดใหญ่ว่ายมาทางพวกเขา ปลาตัวนี้มีขนาดยาวพันกว่าฟุต แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ใช่ขนาดที่ใหญ่ที่สุด คลื่นน้ำที่มันสร้างขึ้นทำให้หลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่ลอยกระเด็นทรงตัวไม่ได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่พวกเขาจะสู้โต้ตอบเลย

“พลังของปลาตัวนี้เทียบได้กับระดับสุริยันจันทราเป็นอย่างน้อย!” หลิงฮันกล่าว

ปลาขนาดใหญ่ว่ายมาถึงด้านหน้าพวกเขาและเปิดปากขนาดใหญ่ของมันดูดน้ำทะเลรอบด้านเข้าไป หลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็เช่นกัน ทั้งสองถูกดูดเข้าไปหาปากของปลาขนาดใหญ่

“ยังไม่ลงมืออีกรึ!” หลิงฮันคำราม

จักรพรรดิจอมอสูรรีบทำตามคำสั่ง พลังของระดับสุริยันจันทราของเขาปะทุออกมาพร้อมกับปล่อยหมัดออกไป น้ำทะเลรอบข้างถูกบีบอัดขยายกลายเป็นคลื่นน้ำและปะทะเข้ากับปลาขนาดใหญ่

ปัง!

ปลาขนาดใหญ่ถูกซัดกระเด็นไปไกลหลายพันฟุต พลังของหมัดนี้ทรงพลังอย่างมาก ตรงบริเวณลำตัวของปลาปรากฏหลุมเว้าลึกลงไปและมีโลหิตไหลออกมา

ปลาขนาดใหญ่เจ็บปวดมาก มันตอบโต้กลับด้วยความโมโห หางของมันยกขึ้นและสะบัดสร้างคลื่นวายุอย่างเกรี้ยวกราด

จักรพรรดิจอมอสูรตอบโต้ แม้ร่างกายของเขาจะเล็กกว่าแต่พลังไม่ด้อยกว่าแน่นอน เขาปล่อยหมัดตอบโต้ปลาขนาดใหญ่

หนึ่งคนหนึ่งปลาเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด ทั้งคู่ไม่ได้มีพลังที่แท้จริงของจอมยุทธ คนหนึ่งมีพลังต่อสู้ระดับสุริยันจันทราได้เพราะผลึกก่อเกิดและรูปแบบอาคมของหุ่นเชิด ในขณะที่อีกคัวมีร่างกายที่ใหญ่และพลังกายที่น่าสะพรึงกลัว

พลังของทั้งสองใกล้เคียงกัน แต่หุ่นเชิดนั้นไม่มีความเจ็บปวดและร่างกายก็ถูกสร้างขึ้นจากแร่โลหะระดับสูง หลังจากปะทะกันหลายกระบวนท่าปลาขนาดใหญ่ถูกทุบตีจนเกล็ดตามร่างเต็มไปด้วยโลหิต

มันรู้สึกหวาดกลัวและสะบัดหางเพื่อหลบหนี

“ให้ตายเถอะ จักรพรรดิน้อยผู้นี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ!” จักรพรรดิจอมอสูรรู้สึกภูมิใจมากที่สามารถทำให้ศัตรูระดับสุริยันจันทราหวาดกลัวจนหนีไป เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวเขาจะมีวันนี้ได้

ข้านี่มันสุดยอดจริงๆ!

เมื่อเห็นหลิงฮันเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าของจักรพรรดิจอมอสูรก็เปลี่ยนเป็นประจบสอพลอทันที “จักรพรรดิน้อยขอขอบคุณนายท่าน! นายท่านเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำของข้าโดยแท้ นายเป็นผู้ชี้ทางสว่างและรุ่งโรจน์ให้กับจักรพรรดิน้อยผู้นี้…”

เขาเริ่มเลียแข้งเลียขาอย่างไม่รู้จบ

“พอ.. พอได้เถอะ ไม่งั้นข้าต้องกระอักเลือกแน่” หลิงฮันสะบัดให้อีกหยุดจนสุ่ยเยี่ยนยวี่ต้องเผลอยิ้ม

จักรพรรดิจอมอสูรรีบปิดปาก เขาเผลอพูดประจบไปโดยไม่รู้ตัว เพราะอย่างไรเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถเพิ่มพลังบ่มเพาะผ่านการฝึกฝน ดังนั้นทุกวันนี้เขาจึงฝึกฝนทักษะในการประจบสอพลอแทน

หลังจากเข้ามายังส่วนลึกของทะเลแล้ว ป่าก็เผนถึงความงดงามที่ยิ่งกว่าเดิม

ส่าหร่ายทะเลโดยรอบไม่ได้มีสีน้ำเงินเข้มอย่างเดียวอีกต่อไป พวกมันเริ่มปรากฏเป็นหลากหลายสี ทั้งสีม่วง สีแดง สีส้ม และสีของปลาเองก็มีจำนวนมากขึ้นและหลากหลายสีเช่นเดียวกัน

ภัยคุกคามจากปลาเหล่านี้รุนแรงยิ่งขึ้น ปลาเหล่านี้ไม่มีปราณก่อเกิดให้ถูกเผาผลาญแม้แต่นิดเดียว พวกเขาเกิดมาด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับความสามารถพิเศษ

นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีปลาหมึกยักษ์ปรากฏตัวออกมา มันปล่อยน้ำหมึกทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบมืดมิด ไม่เพียงแต่จะทำให้มองไม่เห็นแต่สัมผัสสวรรค์ยังถูกปิดกั้นด้วย ผู้คนที่พบเจอกับปลาหมึกยักษ์จึงต้องยอมถูกโจมตีอย่างเลี่ยงไม่ได้

ปลาขนาดใหญ่บางตัวเองก็มีหนามหลากสีอยู่บนตัว ตอนที่หลิงฮันเห็นมัน มันกำลังบีบรัดปลาอีกตัวอยู่

หนามของมันมีพิษ มันสามารถสังหารศัตรูได้ด้วยพิษอย่างง่ายโดยโดยที่ไม่ต้องลงมือโจมตี

ที่นี่คือที่ที่อันตราย ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินจอมยุทธ แต่แน่นอนว่าปลาขนาดใหญ่เองก็กินจอมยุทธเช่นกัน

กระดูกปลาเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณ ซากของจอมยุทธเองก็มีให้เห็นเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วซากจะเหลือเพียงแค่ส่วนมือ ส่วนขา หรือไม่ก็ส่วนหัวลอยอยู่กลางทะเล

อุปกรณ์บินแหวกเมฆาไม่ค่อยเหมาะกับสภาพแวดล้อมใต้น้ำดังนั้นหลิงฮันจึงไม่ใช้ ปลาใหญ่ที่มีระดับต่ำกว่าสุริยันจันทราขั้นกลางจะถูกจัดการโดยจักรพรรดิจอมอสูร ถ้าหากมีปลากมีแข็งแกร่งกว่านั้นพวกเขาก็จะเข้าไปซ่อนตัวในหอคอยทมิฬจนกว่าสถานการณ์ปลอดภัย

ปลาที่นี่พอจะมีค่าอยู่บ้าง กระดูกของปลาบางตัวมีคุณสมบัติเหมือนกับโลหะที่เทียบได้กับแร่โลหะระดับเดียวกับพลังบ่มเพาะของมัน ดังนั้นเมื่อใดที่พบเห็นกระดูกเช่นนั้นหลิงฮันก็จะเก็บพวกมันเข้าไปในหอคอยทมิฬแล้วค่อยใช้พวกมันขัดเกลาพลังให้กับดาบอสูรนิรันดร์ทีหลัง

……

ในมุมหนึ่งของทะเลลึก จักรพรรดินีแห่งดารากำลังเผชิญหน้าอยู่กับชายชรา บริเวณใกล้ๆพวกเขามีดอกบัวหลากสีที่เบ่งบางงอกอยู่ ขนาดเป็นในสภาพแวดล้อมเช่นนี้กลิ่นหอมของดอกบัวยังเด่นชัด

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าดอกบัวนี้ต้องเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์แน่นอน ไม่เช่นนั้นมันคงไม่ดึงดูดความสนในของจักรพรรดินีแห่งดารา แต่การที่ชายชราสามารถต่อต้านนางได้แสดงให้เห็นว่าเขาก็มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน

“ดอกบัวนี่ยังเป็นเพียงแค่ดอกบัววายุเพลิงสามสี มันต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยล้านปีกว่าจะมีสีอื่นขึ้นเพิ่มขึ้นมา ดอกบัวนี่ไม่มีประโยชน์ต่อเทพธิดาเช่นเจ้าเลย ทำไมไม่ยกมันให้กับชายชราผู้นี้ล่ะ? ข้าไม่ได้จะขอฟรีๆแต่ข้าจะชดเชยเจ้าด้วยเม็ดยาผลึกมังกรสามเม็ดเป็นอย่างไร?” ชายชรากล่าว

ดอกบัววายุเพลิงสามสีต้นนี้เป็นสมบัติแห่งสวรรค์และปฐพี ถ้าจอมยุทธระดับภูผาวารีดูดซับมันเข้าไปในตันเถียน ไม่เพียงแค่ความเร็วในการบ่มเพาะพลังจะเพิ่มขึ้น แต่ยังจะสามารถเชื่อมต่อความคิดกับสวรรค์และปฐพีทำให้ความเข้าใจในศาสตร์แห่งวรยุทธเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกตะลึงอีกด้วย

เพียงแต่ว่าหากจอมยุทธบรรลุระดับสิรุยันจันทราแล้ว แก่นแท้ของดอกบัวที่ถูกดูดซับก็จะแห้งเหี่ยวลงกว่าเดิม

ดอกบัวต้นนี้ยังมีเพียงสามสีเท่านั้น หากมันเติบโตจนมีสีมากกว่านี้เมื่อไหร่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราจึงจะสามารถดูดซับได้ หรือหากมันมีสีสันหลากหลายยิ่งขึ้น แม้แต่ตัวตนระดับดาราก็ยังมองเห็นมันเป็นดั่งสมบัติล้ำค่า