เฉินโม่พยายามใช้พลังทิพย์ควบคุมตะเกียง แต่น่าเสียดายที่มันล้มเหลว เขาพยายามลองใช้พลังจิตเช่นกัน แต่ตะเกียงยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

เฉินโม่พบว่าไม่ว่าเขาจะใช้วิธีใด เขาก็ไม่สามารถควบคุมควบคุมตะเกียงได้ สุดท้ายเขาทำได้เพียงยอมแพ้

พวกเขาเดินทางต่อ ระหว่างทางนั้นฆ่าสัตว์ประหลาดไปหลายตัว แต่ไม่ได้ประสบพบเจอสิ่งที่แปลกประหลาดเหมือนก่อนหน้านั้นอีก

หลังออกไปจากเมืองซากปรักหักพังแห่งนี้แล้ว จีอู๋หยามองอันดับบนเครื่องนับจำนวน

“ตอนนี้คนประเทศฟาอยู่อันดับที่หนึ่ง คนประเทศอเมอยู่อันดับที่สอง คนประเทศรัสอยู่อันดับที่สาม และคนประเทศอินอยู่อันดับที่สี่ ส่วนแกนอสูรของพวกเราต่างจากอันดับที่หนึ่งสิบเอ็ดชิ้น!”

จางเจิ้นขมวดคิ้วและกล่าวว่า “คราวนี้พวกเขาเดินทางไม่หยุดพักเลย แต่พวกเราพบสัตว์ประหลาดเพียงแค่หกตัวเท่านั้น แล้วพวกเขาพบสัตว์ประหลาดมากขนาดนั้นได้อย่างไร”

เหลยจ้านรู้สึกสงสัยเช่นกัน พยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง เว้นเสียแต่พวกเขาจะพบรังของสัตว์ประหลาด”

จีอู๋หยากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แล้วถ้าพวกเขาแยกกันดำเนินการล่ะ?”

หลายคนตกใจ เหลยจ้านกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้สูง เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเขาต้องเจอสัตว์ประหลาดมากกว่าพวกเราอย่างแน่นอน”

“พวกเราแยกกันดำเนินการดีไหม?” เหลยจ้านถามหยั่งเชิง

จีอู๋หยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ออกไปจากเมืองแห่งนี้ก่อน ถ้าหากพวกเรายังไม่พบคนประเทศรัส พวกเราก็แบ่งกลุ่มดำเนินการ”

“โอเค”

หลังจากออกจากเมืองซากปรักหักพังแห่งนี้แล้ว พวกเขาหยุดเดินทางอีกครั้ง

พื้นที่ราบข้างหน้า มีคนสองคนกำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาด

“เหมือนจะเป็นคนประเทศฟา ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นแยกกันดำเนินการแล้ว” เหลยจ้านกล่าว

“หรือพวกเรา……….” เหล่ยจ้างแสดงท่าทางบีบคอ

“โอเค!” จีอู๋หยาแผ่กระจายเจตนาฆ่าออกมาจากร่างกายเช่นกัน สงครามห้าประเทศไม่มีกฎใด ๆ ความเมตตาถือเป็นอาชญากรรมของที่นี่ ถ้าสามารถฆ่าคนคนหนึ่งของอีกฝ่ายได้ ฝ่ายตนเองก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะลงมือ คนประเทศฟาที่กำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดสองคนนั้นมองเห็นพวกเขาแล้ว สองคนนั้นละทิ้งสัตว์ประหลาดแล้ววิ่งหนีไปทันที

“แม่งฉิบหาย คนขี้ขลาด!” เหลยจ้านดุด่า

“พวกเขาทำถูกแล้ว ถ้าพวกเราแยกกันดำเนินการ และเมื่อพวกเราเจอกองกำลังที่ไม่สามารถต้านได้ อย่าดันทุรังเด็ดขาด ต้องรีบถอยทันที!” จีอู๋หยากำชับ

“โอเค!” พวกเขาพยักหน้าแสดงความเข้าใจ

จีอู๋หยากวาดมองพวกเขาและกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น พวกเราแยกกันดำเนินการเถอะ”

“จางเจิ้นกับลี่เซี่ยวอยู่กลุ่มเดียวกัน เซี่ยไห่หลงกับผมอยู่กลุ่มเดียวกัน พวกคุณสามคนที่เหลืออยู่กลุ่มเดียวกัน”

จางเจิ้นนั้นรุกและรับสมดุลกัน แต่เคลื่อนไหวช้า ลี่เซี่ยวเป็นคนที่เคลื่อนไหวเร็วที่สุด ประจวบเหมาะที่จะสามารถเสริมจางเจิ้นได้

ความแข็งแกร่งของเซี่ยไห่หลงอยู่ระดับปานกลาง จีอู๋หยาก็เหมือนกัน พวกเขาสองคนอยู่กลุ่มเดียวกัน ซึ่งเป็นประเภททำงานอย่างมั่นคง

เหลยจ้านสามารถโจมตีทั้งระยะใกล้และระยะไกลได้ แต่การป้องกันของเขาไม่ค่อยดีนัก ส่วนเฟิงเหมียนสามารถใช้การรับรู้ที่ยอดเยี่ยม และความสามารถในการพรางตัวของตนเอง ชดเชยข้อบกพร่องของเหลยจ้าน

สำหรับเฉินโม่……ตอนนี้ยังไม่พบจุดแข็งของเขา ถือเป็นการซื้อหนึ่งแถมหนึ่งก็แล้วกัน

“พวกคุณมีคำถามอะไรไหม? ถ้าไม่มี พวกเราก็ออกเดินทางกันเถอะ!” จีอู๋หยากล่าว

ลี่เซี่ยวกล่าวว่า “ผมมีคำถาม หลังจากพวกเราแยกกันแล้ว จะติดต่อกันยังไง? ที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์!”

จีอู๋หยารู้สึกประหลาดใจ “จริงสิ ผมเกือบลืม ที่นี่เป็นพื้นที่แยกต่างหาก สัญญาณจากโลกภายนอกไม่สามารถเข้ามาได้ ผมได้นำหินกำหนดตำแหน่งมาจากสำนัก สามารถรับรู้ตำแหน่งโดยประมาณได้ ระยะกว้างที่สุดคือสองร้อยกิโลเมตร เมื่อเกินระยะทางนี้ มันจะอยู่นอกระยะการรับรู้ของหินกำหนดตำแหน่ง”

หลังจากนั้น จีอู๋หยาก็มอบหินกำหนดตำแหน่งให้ทุกคน

“ดังนั้น ทุกคนพยายามอย่าอยู่นอกเขตการรับรู้ของหินกำหนดตำแหน่ง เมื่อตกอยู่ในอันตราย ก็ทุบหินกำหนดตำแหน่งให้ละเอียด เพื่อให้ทุกคนสามารถมาช่วยเหลือเร็วที่สุด!”

“อืม” พวกเขาพยักหน้า

จีอู๋หยาเหลือบมองเฉินโม่และกล่าวว่า “ถ้าไม่มีคำถามอะไรอีก ก็เริ่มเคลื่อนไหวเถอะ แต่ละกลุ่มเลือกทิศทางแล้วเริ่มออกเดินทาง!”