เถียนเฟยหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเอ่ยด้วยสีหน้าที่จริงจัง “เพราะว่าผมอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ!”

เถียนเฟยนั้นเข้าใจดี ว่าตระกูลเย่ฟอเรนท์นั้นคืออะไร

ตระกูลเย่ฟอเรนท์นั้นเวลาทำอะไรแล้วจิตใจโหดเหี้ยมชั่วร้ายมาก พวกเขานั้นคงไม่ยอมให้ตนเองพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าตนเองนั้นจะเป็นถึงผู้บริหารของเอไลซ่า กรุ๊ป ถึงแม้ผิวเผินมองแล้วจะดูสง่างาม

แต่ว่าในสายตาของตระกูลเย่ฟอเรนท์ ตนเองนั้นก็เหมือนแค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ จะโดนฆ่าตอนไหนก็ได้!

หยางเฟิงหัวเราะเยาะเย้ยแล้วเอ่ยถาม:“ทำไมหรอ เย่หนานจะฆ่าเจ้างั้นหรอ?”

เถียนเฟยเอ่ยออกมาตามจริง “เย่หนานเขานั้นโหดเหี้ยมไร้อารมณ์ หากข้านั้นแพ้ให้กับเจ้าแล้ว เขาจะต้องฆ่าข้าแน่ๆ เพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อ ดังนั้นผมจะพึ่งได้ก็แต่ท่านแล้ว!”

“อีกทั้งในช่วงเวลานี้ ผมนั้นได้คอยตรวจสอบเฟิงเมิ่งกรุ๊ปมาโดยตลอด ผมพบว่าเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นไม่เหมือนกับ เอไลซ่า กรุ๊ป เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นเหมือนกับมีความเห็นอกเห็นใจมนุษย์มาก ดังนั้นผมนั้นอยากที่จะพึ่งพาเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไง!”

“อีกทั้งคุณหยางน่าจะรู้ ว่าที่ผมนั้นกล้าที่จะทรยศ เอไลซ่ากรุ๊ปนั้น แต่ว่าข้านั้นจะไม่มีทางที่จะทรยศ เฟิงเมิ่งกรุ๊ป อย่างแน่อน!ถ้าหากผมนั้นทรยศเฟิงเมิ่งกรุ๊ป นั่นเหมือนการเลือกทางตายแน่นอน!”

หยางเฟิงยิ้ม แต่ว่าไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

เพราะว่าเขานั้นทราบดี ว่าเถียนเฟยนั้นเป็นคนที่ฉลาดเลยคนหนึ่ง

เถียนเฟยหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ“คุณหยาง จากตามที่ผมนั้นคอยเฝ้ามองตรวจสอบมา ตอนนี้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นได้เห็นรวมธุรกิจทั้งหมดในเมืองต้าเซี่ยเข้าด้วยกันแล้ว โดยเฉพาะในรอบนี้ เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นได้เอาชนะ เอไลซ่า กรุ๊ปอีก ในประเทศนั้นไม่มีคู่ต่อสู้แล้ว ดังนั้นผมเดาได้เลยว่าเป้าหมายของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นรอบต่อไปจะต้องเป็นต่างประเทศแน่ๆ!”

“ผมนั้นได้ทำงานในเอไลซ่า กรุ๊ปมาตั้งหลายปี เข้าใจต่างประเทศเป็นอย่างดี ผมเชื่อมันว่า ผมนั้นจะสามารถให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นไปตีตลาดในต่างประเทศได้”

เถียนเฟยเอ่ยออกมาอย่างคล่องแคล่ว และเอ่ยด้วยความจริงใจหนักแน่น

ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะมาขอพึ่งพาหยางเฟิง และเขาก็เชื่อมั่นในประสบการณ์ธุรกิจของตนเองเป็นอย่างมาก

ถึงอย่างไรแล้ว

เขานั้นสามารถที่จะเป็นได้ถึงผู้บริหารของเอไลซ่ากรุ๊ป มาได้ ก็นับว่าเขานั้นมีความสามารถเหมือนกัน

หยางเฟยเอ่ยด้วยสีหน้าที่ยิ้มเหย “เมื่อพูดมาเช่นนี้แล้ว คุณก็เป็นคนเก่งนะเนี่ย งั้นคุณคิดว่า ผมนั้นควรที่จะรับคุณเข้ามาในตำแหน่งไหนนะ?แล้วเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกันนะ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น

เถียนเฟยนั้นก็ได้ตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันใด

เขาเอ่ยด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น “คุณหยาง สำหรับผมแล้ว เงินเดือนเท่าไหร่มันไม่สำคัญหรอก ผมนั้นเป็นผู้บริหารของบริษัท เอไลซ่ากรุ๊ป มาตั้งหลายปี ก็เก็บสะสมมาได้เป็นเงินจำนวนใหญ่ของครอบครัว ที่สำคัญเลยคือผมนั้นอยากจะทำงานกับคุณหยางเท่านั้นแหละ!”

เถียนเฟยนั้นฉลาดมากจริงๆ

หากเขานั้นกล้าที่จะเอ่ยขอเงื่อนไขมา แน่นอนว่าจะต้องโดนหยางเฟิงนั้นมองเหยียดไม่ชอบอย่างแน่นอน

แต่ว่าหากเขานั้นไม่เอ่ยขอโดยที่มีเงื่อนไข หยางเฟิงนั้นจะต้องให้โอกาสเขาแน่นอน

เมื่อเป็นเช่นนี้

หยางเฟิงเอ่ยเบาๆ“ในเมื่อคุณเอ่ยมาเช่นนั้น งั้นผมนั้นสามารถที่จะให้โอกาสคุณสักรอบนะ! ผมนั้นสามารถที่จะแต่งตั้งให้คุณนั้นเป็นผู้จัดการดูแลเฟิงเมิ่งกรุ๊ป ทางด้าน ผู้จัดการตลาดฝ่ายต่างประเทศ ผมนั้นจะให้เวลาคุณสามเดือนในการตีตลาดต่างประเทศ คุณคิดว่าได้ไหมล่ะ?”

สำหรับหยางเฟิงแล้ว

เป้าหมายต่อไปของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้น แน่นอนว่าใช่ ต่างประเทศ

เพราะหากเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นจะ พยายามทำต่อไปในประเทศนั้น ไม่มีพื้นที่ให้เติบโตขยายออกไปอีกแล้ว

เถียนเฟยเขานั้นคือผู้บริหารของเอไลซ่า กรุ๊ป สำหรับทางด้านประเทศนั้น เขานั้นแต่นอนว่าจะต้องรู้ดีกว่าตนเองแน่นอน

ในเมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ หยางเฟิงนั้นก็ไม่พลาดที่จะให้โอกาสเขาสักรอบ

เถียนเฟยเอ่ยยิ้มด้วยความมั่นใจ“คุณหยาง ไม่ต้องการถึงสามเดือนหรอก ผมนั้นแค่เดือนเดียวก็พอแล้วครับ!”

“ถ้าหากภายในหนึ่งเดือน ผมนั้นไม่สามารถที่จะทำให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้น ตีตลาดในต่างประเทศได้ งั้นผมนั้นจะขอลาออกจากบริษัท เฟิงเมิ่งกรุ๊ป ด้วยตนเอง!”

“ดี! ในเมื่อคุณเอ่ยเช่นนี้ งั้นผมก็จะให้เวลาคุณหนึ่งเดือนก็แล้วกัน!”

หยางเฟิงพยักหน้า

หากเป็นคนอื่น แน่นอนว่าจะต้องไม่กล้ายอมรับเถียนเฟย