เมื่อเฉินโม่เห็นพวกเขาสองคน เฉินโม่ก็ละทิ้งสัตว์ประหลาดทันทีแล้ววิ่งหนีไป แต่เจตนาลดความเร็วลง เพื่อล่อให้พวกเขาสองคนไล่ตาม

เมื่อพวกเขาสองคนเห็นเฉินโม่วิ่งไม่เร็วมากนัก กรีดร้องด้วยเสียงแปลกประหลาด และวิ่งตามอย่างรวดเร็ว

เฉินโม่ควบคุมความเร็ว มันไม่ง่ายที่สองคนนั้นจะไล่ตามทัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเฉินโม่ ที่จะทำให้สองคนนั้นมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ ที่จะไล่ตามตนเองทัน

สุดท้าย พวกเขาสองคนยืนขวางอยู่ตรงหน้าเฉินโม่ และยิ้มด้วยความชั่วร้าย

ทั้งสองคนเป็นคนผิวขาว คนหนึ่งสวมเกราะแขนอัลลอยอยู่บนแขน ส่วนอีกคนหนึ่งนั้น มีพลังที่แข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย ดูแล้วไม่ธรรมดา

ชายที่สวมเกราะแขนอัลลอยอยู่บนแขน กล่าวกับเฉินโม่สองสามประโยค แต่เมื่อเขาพบว่าเฉินโม่ไม่ตอบ เขาก็ยักไหล่ให้เพื่อนตนเอง หมายความว่าไม่สามารถสื่อสารกันได้

ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถสื่อสารกันได้ จึงไม่จำเป็นต้องพูดไร้สาระอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาสองคนจึงเริ่มโจมตีเฉินโม่ทันที

ทันใดนั้น เกราะแขนอัลลอยที่อยู่บนแขน ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา แขนทั้งสองข้างกลายเป็นปืนกลสองกระบอก ราวกับกำลังถ่ายทำภาพยนตร์

อีกคนบินขึ้นไปกลางอากาศเหมือนนกยักษ์

ในประเทศหัวเซี่ย มีเพียงปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถลอยอยู่กลางอากาศได้ และลอยอยู่กลางอากาศได้ไม่นานนัก แต่ยอดมนุษย์ต่างชาติเหล่านี้ กลับมีข้อได้เปรียบที่พิเศษ

ตัวอย่างเช่นคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ตามการคาดเดาของเฉินโม่แล้ว บุคคลนี้น่าจะสามารถควบคุมธาตุลมได้ ดังนั้นเขาจึงสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องกังวลว่าพลังจะหมด

“ฟ้าดินประสานกัน การประสานคราวนี้ไม่เลว!” เฉินโม่กล่าวชื่นชม

บนพื้น ชายคนนั้นควบคุมปืนกลที่อยู่บนชุดเกราะหุ่นยนต์ และเริ่มยิงทันที ส่วนยอดมนุษย์ที่อยู่กลางอากาศ เรียกลมที่เหมือนดาบขนาดใหญ่ออกมา แล้วพุ่งไปทางเฉินโม่ทันที

เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อย วินาทีต่อมา เขาปล่อยหมัดไปที่หน้าอกของมนุษย์หุ่นยนต์

ปัง!

มนุษย์หุ่นยนต์ถูกหมัดของเฉินโม่กระแทกจนกระเด็นกลับหัวออกไป และกราดยิงไปเรื่อยอย่างต่อเนื่อง จนเกือบจะยิงโดนยอดมนุษย์ที่อยู่กลางอากาศ

ยอดมนุษย์คนนั้นรีบหลบทันที และดุด่าไม่หยุด แต่เฉินโม่ไม่เข้าใจว่าเขากำลังด่าอะไร

“ไม่รู้ว่าชุดเกราะหุ่นยนต์นั้นทำมาจากวัสดุอะไร นึกไม่ถึงว่ามันจะไม่เสียหายเลย! มันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น ถ้าผมปล่อยหมัดแบบนี้ไปที่รถถัง ก็สามารถทำให้รถถังเป็นรูได้ หรือว่ามันแข็งแกร่งกว่ารถถัง?” เฉินโม่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“ถ้าหากประเทศอเม ให้ทหารทุกคนสวมชุดเกราะหุ่นยนต์แบบนี้ มันเพียงพอที่จะต่อสู้กับทั่วโลกแล้ว! ดูเหมือนว่าพวกเขามีชุดเกราะหุ่นยนต์แบบนี้ไม่มากนัก มิเช่นนั้น ประเทศอเมคงจะนำออกมาโอ้อวดให้คนภายนอกดูแล้ว”

เฉินโม่เดาถูก ประเทศอเมเตรียมชุดเกราะหุ่นยนต์แบบนี้สำหรับยอดมนุษย์เท่านั้น ประเทศอเมมียอดมนุษย์ค่อนข้างน้อย และพวกเขาแข็งแกร่งสู้นักบู๊ของหัวเซี่ยไม่ได้ และเมื่อเทียบกับออร์คของประเทศรัสแล้ว ห่างชั้นกันมาก

ดังนั้นประเทศอเมจึงออกแบบชุดเกราะหุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับการต่อสู้ เพื่อต่อสู้กับยอดมนุษย์ของประเทศต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม วัสดุของชุดเกราะหุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับต่อสู้ประเภทนี้ค่อนข้างน้อย ประเทศอเมใช้กำลังคนและทรัพยากรทางการเงินไปจำนวนมาก แต่สามารถสร้างชุดเกราะหุ่นยนต์ได้สิบกว่าชุดเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถนำออกมาโอ้อวดได้

และมีเพียงสถานการณ์อย่างสงครามห้าประเทศเท่านั้น ที่ประเทศอเมจะยินยอมนำออกมาใช้

มนุษย์หุ่นยนต์คนนั้นยืนขึ้น เปลี่ยนปืนกลที่อยู่ในมือเป็นดาบเลเซอร์ยาวสองเล่ม แล้วพุ่งเข้ามาหาเฉินโม่อย่างคล่องแคล่ว

“ยังมีฟังก์ชันแบบนี้ด้วยเหรอ!” เฉินโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “พลังการต่อสู้นี้เทียบได้กับปรมาจารย์แดนคุ้มกายแล้ว!”

เฉินโม่เพียงแค่ประเมินเท่านั้น เพราะแม้แต่ปรมาจารย์แดนคุ้มกาย ก็ไม่สามารถต้านหมัดเมื่อสักครู่ของเขาได้ ดูเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์นี้จะอยู่ระดับเดียวกับปรมาจารย์แดนมองขวัญแล้ว

อย่างไรก็ตาม มนุษย์หุ่นยนต์ไม่มีเครื่องราง และไม่มีทักษะการต่อสู้ ดังนั้นพลังโดยรวมของเขาจึงแย่กว่าปรมาจารย์แดนมองขวัญมาก

“สยบภูเขา!”

เฉินโม่ไม่รอช้า เขาปล่อยพลังฝ่ามือออกไปราวกับดาบ ฟันไปที่ศีรษะของมนุษย์หุ่นยนต์

แม้แต่ลมดาบขนาดใหญ่ที่ยอดมนุษย์โจมตีเฉินโม่ ก็ถูกหมัดนี้โจมตีจนพ่ายแพ้ยับเยิน