มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 706
ต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็น่าเกรงกลัวมากแล้ว น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าความสามารถในการตระหนักรู้กฎของเขาเสียอีก เพราะเขาพึ่งจะอยู่ในแดนมกุฎยุทธ์เท่านั้น!

“แดนมกุฎยุทธ์ก็สามารถสร้างเค้าโครงทักษะยุทธ์จุลอมตะได้แล้ว ผ่านการพัฒนาอย่างไม่ขาดในวันหน้า ความสำเร็จของเขาไร้ขอบเขต”

ในฐานะเจ้าแดนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หลิวหงเทียนก็นับว่าได้พบอัจฉริยะมามากมาย แต่กลับไม่เคยมีผู้ใดสามารถสร้างความตกตะลึงมากมายให้กับเขาเหมือนหลัวซิวมาก่อน

เหมือนกันกับความสามารถในการตระหนักรู้กฎ การทำความเข้าใจของหลัวซิวไม่ได้เป็นที่น่าสะพรึงกลัวจนถึงขั้นนั้น ที่เขาสามารถสร้างทักษะยุทธ์ที่มีอานุภาพร้ายกาจอย่างกระบี่หมัดขึ้นมาได้ ที่จริงแล้วความดีความชอบส่วนใหญ่ ต้องยกให้กับวิชากลั่นร่างของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ

วิชากลั่นร่างของแต่ละแดนศักดิ์สิทธิ์ ล้วนมีทักษะยุทธ์ที่มาควบคู่กัน แม้ว่าอานุภาพจะร้ายกาจ แต่กลับถูกสร้างขึ้นมาโดยคนรุ่นก่อน ๆ ไม่เหมาะกับผู้ฝึกตนในเวลาต่อ ๆ มาเท่าไหร่นัก

ส่วนวิชากลั่นร่างของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ แม้ว่าจะไม่มีกระบวนท่าทักษะยุทธ์ใด ๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความมหัศจรรย์ที่ไม่รู้จบ นำพาให้หลัวซิวสร้างทักษะยุทธ์ที่เหมาะสมกับตนเองขึ้นมา

พลังอมตะ เป็นสิ่งเฉพาะสำหรับเทพฟ้า แต่ตอนที่หลัวซิวอยู่ในแดนฝึกจิต ก็ได้ปลุกตื่นผู้เป็นอมตะแล้ว

ทั้งหมดนี้ ก็ล้วนเป็นความดีความชอบของลูกแก้วความเป็นตาย!

ลูกแก้วความเป็นตาย เป็นจุดเปลี่ยนชะตาชีวิตของหลัวซิว กำหนดให้เขาเดินสู่จุดสูงสุดในเส้นทางแห่งโลกยุทธ์

หอคอยสุดหล้าชั้นที่สี่ มีว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวค่อนข้างจะต่ำ แต่อาศัยแดนของกฎและทักษะยุทธ์กระบี่หมัดระดับจุลอมตะ แม้ว่าจะต้องก้าวถอยหลังติดต่อกันอยู่หลายเก้าภายใต้การโจมตีของเจ้ายุทธจักรทั้งสาม แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อดทนอยู่ในนี้จนครบเวลาหนึ่งการธูป สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย

ฮึ่ม! ฮึ่ม! ฮึ่ม! ……

การลงมือของผู้แข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักร ทุกครั้งล้วนนำมาซึ่งแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาล

“ตอนนี้แหละ!”

หลัวซิวคว้าโอกาสในการลงมือครั้งหนึ่งเอาไว้ แสงสว่างพลันเบ่งบานขึ้นมาในดวงตาของเขา

ตราทวยมรณะ!

เขารวบรวมพลังแห่งกฎความตาย วิชาตราประทับถูกวัดออกไปจากฝ่ามือของเขา

ตูม!

เจ้ายุทธจักรกลั่นร่างที่ได้ถูกเขาทำลายหมัดข้างหนึ่งไปเมื่อก่อนหน้านี้ได้ถูกวิชาตราประทับกระแทกเข้าที่หน้าอก ร่างท่อนบนของขาแตกสลายไปไหนทันที เหลือเพียงท่อนล่างที่ยังยืนอยู่กับที่

อย่างไรก็ตามอานุภาพของตราทวยมรณะยิ่งใหญ่มาก และก็ทำให้ผู้ฝึกตนสูญเสียพลังไปมากเช่นเดียวกัน หลัวซิวรู้สึกว่าในร่างกายนั้นว่างเปล่า ไม่ทันที่จะตั้งรับการโจมตีจากเจ้ายุทธจักรอีกสองคนที่เหลือ

ตูม!

ร่างของเขาถูกกระแทกลอยออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บ หลังจากเข้ามาในชั้นที่สี่ของหอคอยสุดหล้า

ทว่าเขาใช้การได้รับบาดเจ็บ แลกกับการสังหารเจ้ายุทธจักรหนึ่งคน!

“วิธีต่อสู้ของเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นการใช้ชีวิตเข้าแลกจริง ๆ” สีหน้าของเจ้าแดนหลิวแทบจะด้านชาไปเลยทีเดียว แม้ว่าหลัวซิวจะได้รับบาดเจ็บ แต่สามารถสังหารเจ้ายุทธจักรคนหนึ่งได้ การได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยนั้นก็นับว่าคุ้มค่า

“เขาสูญเสียพลังไปไม่น้อย เวลาหนึ่งก้านธูปก็ใกล้จะหมดลงแล้ว ดูท่าเขาจะไม่สามารถสังหารเจ้ายุทธจักรที่เหลืออีกสองคนได้แล้ว”

เวลานี้เจ่แดนหลิวสามารถมั่นใจได้ว่า ความสามารถของหลัวซิวนั้นแข็งแกร่งกว่าซิงหลิงจริง ๆ ไม่ใช่แค่พรสวรรค์เท่านั้นที่เหนือกว่าซิงหลิง!

“เทวทูตจื่อเยียน เมื่อครู่ที่เขาใช้ออกมานั้นคือวิชาตราประทับหรือ?” เจ้าแดนหลิวมองไปยังเทวทูตจื่อเยียน

“เหมือนว่าจะมีเค้าโครงของพลังอมตะอยู่เล็กน้อย……” เทวทูตจื่อเยียนกล่าวเสียงเข้ม ดวงตาเปล่งประกายแวววาว

“อะไรนะ? เค้าโครงของพลังอมตะอย่างนั้นหรือ?” เจ้าแดนหลิวเบิกตากลมโต

จากผลการฝึกตนและสถานะของเขา ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้แปลกใจจนถึงขั้นนี้ ต่อให้เป็นในตอนที่ได้รับรู้ว่าหลัวซิวตระหนักรู้ถึงเค้าโครงของจุลอมตะในเมื่อสักครู่ ก็ไม่ได้ตะลึงจนถึงขั้นยับยั้งอารมณ์ไม่ได้

พลังอมตะคือสิ่งใด? นั้นเป็นสิ่งเฉพาะสำหรับผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้าเชียวนะ!

“วิชาตราประทับนั่นดูแล้วเหมือนจะยังไม่สมบูรณ์แบบนะ เผยความมหัศจรรย์อันลึกล้ำบางอย่างออกมา ทำให้ข้ามองไม่ทะลุสักเท่าไหร่นัก” เทวทูตจื่อเยียนกล่าว