เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1036
ทะลุระดับตอนใกล้สู้ เป็นข้อห้ามของนักบู๊

ขอแค่เป็นการทะลุระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักบู๊ก็ดี หรือผู้ฝึกชี่ก็ดี ล้วนต้องหาที่สงบไร้ผู้คนรบกวน ถึงจะกล้าทะลุระดับอย่างสงบใจ

ถึงขั้นที่ผู้แข็งแกร่งบางส่วน ยังตั้งใจเชิญยอดฝีมือมาคุ้มครอง ห้ามคนอื่นเข้าใกล้เด็ดขาด ถึงทำขนาดนี้ การทะลุระดับจะสำเร็จหรือไม่ โอกาสยังมีแค่ 50:50 เลย

แต่วันนี้ลู่ฝานทำลายความรู้ทั่วไปของทุกคน

คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะนั่งลงทันทีแบบนี้ เริ่มทะลุระดับท่ามกลางศัตรูที่ล้อมรอบอยู่

มองพวกจางกวังเหมือนความว่างเปล่าจริงๆ!

จูจวิ้นทนไม่ไหวแล้ว ลุกขึ้นพูดว่า “ฉันเอง”

ครั้งนี้จางกวังใช้มือข้างหนึ่งรั้งเขาไว้ แล้วพูดว่า “ระวังโดนหลอก เซิ่งฉิวนายไปสู้เถอะ”

ผู้ชายสวมชุดคลุมยาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ลุกขึ้นยืน

อักษรยันต์เต็มใบหน้า เขาคือเซิ่งฉิว อันดับสองในแปดผู้โดดเด่น

เซิ่งฉิวพยักหน้าแล้วเดินช้าๆ ขึ้นไปบนลานประลอง ในเวลาเดียวกันก็โยนตัวห่าวซูกลับมา

ตันเถียนโดนทำลาย ไม่รู้ว่าห่าวซูเป็นหรือตาย

จางกวังและคนอื่นมองเพียงแวบเดียว แล้วถอนหายใจยาวออกมา

เกรงว่าคงช่วยไม่ได้แล้ว!

เซิ่งฉิวเดินมาตรงหน้าลู่ฝาน ห่างประมาณห้าก้าว มองลู่ฝานด้วยสีหน้าระแวดระวัง

แม้ตอนนี้ลู่ฝานนั่งอยู่ตรงนั้น เหมือนกำลังทะลุระดับอยู่

แต่ใครจะรับประกันได้ล่ะว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ลู่ฝานแสร้งทำ อย่างน้อยเซิ่งฉิวก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนทะลุระดับได้อย่างแน่วแน่ท่ามกลางการต่อสู้เป็นตายแบบนี้

ยกมือขึ้น อักษรยันต์บนตัวสว่างขึ้น หอกยาวที่ก่อตัวจากแสงสีดำ ขาว เทา ปรากฏขึ้นในมือเซิ่งฉิว

หลังจากนั้นเซิ่งฉิวโยนหอกยาวใส่หน้าลู่ฝานทันที

ชิ้ง แสงด้านนอกตัวลู่ฝานสั่นไปมาครู่หนึ่ง กันหอกยาวเอาไว้ได้ พลังฟ้าดินรอบๆ ก็เคลื่อนไหวตามไปด้วย ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ

เซิ่งฉิวดีใจ เขาหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “ไอ้เด็กนี่กำลังทะลุระดับจริงๆ ด้วย!”

เมื่อพูดเช่นนี้ เซิ่งฉิวปล่อยพลังปราณบนตัวออกมา อาวุธต่างๆ ปรากฏขึ้นรอบตัวเขา

เหมือนเขามีแขนงอกออกมาเกือบร้อยแขนในเวลาเพียงพริบตาเดียว บนแขนแต่ละแขนล้วนจับอาวุธอยู่หนึ่งชิ้น

“เซิ่งฉิว อาวุธพันมือ!”

เมื่อเขาปล่อยกระบวนท่านี้ออกมา คนจำนวนไม่น้อยตะโกนฉายาของเขาออกมาทันที

สองสามปีมานี้ เซิ่งฉิวลงมือน้อยมาก ทำให้คนในเมืองหลวง เกือบลืมฉายาของเขาไปแล้ว

แต่เมื่อวิชาที่เป็นสัญลักษณ์ของเขาปรากฏออกมา ก็มีคนจำนวนไม่น้อยจำได้ทันที

ต่อมาเซิ่งฉิวโยนอาวุธทั้งหมดในมือออกไป เสียงอากาศแตกร้าวดังขึ้น ทุกที่ที่อาวุธพาดผ่านไป จะเกิดเป็นรอยแตกร้าวของอากาศอย่างเห็นได้ชัด

“พันอาวุธพิฆาต!”

ใบหน้าเซิ่งฉิวมีความเยาะเย้ย แม้กระบวนท่านี้ฆ่าลู่ฝานให้ตายไม่ได้ แต่สามารถหยุดการทะลุระดับของเขาได้ทันที

และเมื่อการทะลุระดับของคนคนหนึ่งถูกหยุดไว้ แต่การแว้งกัด ก็สามารถทำให้คนแทบเป็นแทบตายแล้ว

เซิ่งฉิวอยากเห็นสภาพที่ลู่ฝานกลิ้งไปมาบนพื้นมาก!

แต่ขณะนั้นเอง จู่ๆ มีมังกรดำตัวหนึ่งพุ่งออกมาจากข้างๆ ขวางหน้าลู่ฝานเอาไว้

พ่นเปลวไฟดำออกมา แผดเผาอาวุธทั้งหมดจนหายไปในพริบตา

เสียงมังกรคำรามดังขึ้น ยืนตรงด้วยขาสองข้าง มังกรดำที่มาถึงก็คือเจ้าดำนั่นเอง!

“อสูรวิเศษ!”

เซิ่งฉิวพูดอย่างประหลาดใจ

เจ้าดำคำรามใส่เซิ่งฉิวไม่หยุด เปลวไฟดำลุกโชนขึ้นมาบนตัว

จู่ๆ เซิ่งฉิวหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นายคิดว่าแค่อสูรวิเศษตัวเดียว จะทำให้นายทะลุระดับอย่างราบรื่นได้เหรอ!”

เซิ่งฉิวเดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พลังปราณบนตัวพุ่งออกไป เหมือนฝนกระบี่เป็นแถบ ร่วงลงไปบนตัวเจ้าดำ

เสียงมังกรคำรามดังขึ้นอีกครั้ง ตัวของเจ้าดำขยายใหญ่ขึ้นหนึ่งเท่า ใช้กรงเล็บตบพลังปราณจนกระจาย

ในเวลาเดียวกัน เจ้าดำพ่นเปลวไฟสีขาวดำออกมาจากปากทันที

ทันใดนั้นอากาศรอบๆ เกิดเสียงแตกร้าวดังขึ้นชัดเจน

เซิ่งฉิวตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี รีบถอยไปด้านหลังหลายก้าว

“เพลิงทำลายล้างน่ากลัวมาก!”

เซิ่งฉิวอุทานอย่างตกใจพลางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เจ้าดำเบิกตาโตมองซ้ายมองขวา ทันใดนั้นเหมือนเจออะไรบางอย่าง มันสะบัดหางโจมตีกลางอากาศ

พลั่ก!

หางขนาดใหญ่ปะทะกับตัวคน เป็นตัวของเซิ่งฉิว

แต่ตอนนี้ในมือของเซิ่งฉิวมีของเพิ่มมาหนึ่งอย่าง นั่นเป็นโล่ที่ก่อตัวจากพลังปราณ ป้องกันหางที่เจ้าดำโจมตีใส่เอาไว้ได้

ในเวลาเดียวกัน เซิ่งฉิวใช้ฝ่ามือกดลงกลางอากาศ!

ต่อมา เจ้าดำเห็นอากาศด้านหน้าเริ่มทรุดลงอย่างรวดเร็ว

เสียงคำรามอย่างโมโหดังขึ้นต่อเนื่อง เจ้าดำอ้าปากพ่นไฟออกมา เหมือนกำแพงสี่ด้าน แผดเผาอากาศรอบๆ จนหมด ไม่ยอมให้อากาศทรุดลงมาโดนข้างตัวลู่ฝาน

ลู่ฝานที่โดนเจ้าดำคุ้มกันอยู่ด้านหลัง เหมือนตัวอยู่ในอากาศเวิ้งว้าง

ด้านหน้าและด้านหลังล้วนมืดไปหมด

จู่ๆ เซิ่งฉิวปรากฏตัวขึ้นข้างหน้าเจ้าดำ

กดฝ่ามือลงบนเกล็ดของเจ้าดำ

“แยกออก!”

อักษรยันต์ชัดเจนเข้าไปในตัวเจ้าดำ หลังจากนั้นเจ้าดำร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด

เลือดสดพุ่งออกมาจากตัวเจ้าดำไม่หยุด เหมือนมีอาวุธนับไม่ถ้วนฟาดฟันอย่างบ้าคลั่งอยู่ในตัวมัน