เจ้าสำนักเฝินเองก็ตะลึงงันเช่นกัน ปรมาจารย์เฉียที่หยิ่งทะนงเป็นหนึ่งในโลกาก็มีวันที่ทำตัวค้อมต่ำนอบน้อมเช่นนี้เหมือนกัน

ในตอนที่มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยปรากฏตัวขึ้นที่ค่ายกลส่งระยะไกลในทวีปเหยีนโจวก็ได้ถูกคนกลุ่มหนึ่งขวางทางเอาไว้

มู่เฉียนซีเปิดปากกล่าวขึ้น “ข้าคือมู่เฉียนซีแห่งหอหมอปีศาจ ข้านำพาคนมาซ่อมแซมค่ายกลส่งระยะไกล อีกไม่นานนักเจ้าสำนักของพวกเจ้าก็จะมาถึง”

“ผู้นำตระกูลมู่แห่งหอหมอปีศาจ!” เหล่าองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกของค่ายกลส่งระยะไกลกล่าวออกมาด้วยความตะลึง

“ท่านผู้นำตระกูลมู่ ขอเชิญด้านใน!”

หลังจากที่มู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยได้เข้าไป เป๋ยโต่วก็ได้ยืนอยู่ที่ค่ายกลส่งระยะไกลอยู่แล้ว และได้เริ่มทำการพิจารณา

เป๋ยโต่วมองที่มู่เฉียนซีอย่างพิจารณาแล้วหัวเราะเหอะ ๆ พร้อมกล่าว “พระชายางดงามยิ่งนัก สายตาของฝ่าบาทมิใช่อะไรที่คนอย่างเจ้าจื่อโยวนั่นจะเทียบได้อย่างแน่นอน ต้นไม้เหล็กอย่างฝ่าบาทเองก็สามารถที่จะออกดอกใบได้แล้ว ข้าคิดว่าพวกเราควรจะจัดการเลี้ยงฉลองหมื่นปีที่วังคุกโลหิต”

คำกล่าวอันเย็นยะเยือกสองคำได้ลอยออกมา “ทำงาน!”

ความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ ทำให้เป๋ยโต่วมิกล้าที่จะหยอกล้อเจ้านายอย่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอีกต่อไป และเขาได้พิจารณาค่ายกลส่งระยะไกลที่แตกละเอียดนั้นอย่างจริงจัง

“ค่ายกลส่งระยะไกลแห่งนี้มิได้ซ่อมบำรุงบูรณะมาเป็นเวลานานปี มันพังทลายอย่างหมดจดยิ่งนัก หากไม่มีหินแห่งมิติระดับสุดยอดหนึ่งหมื่นชิ้นก็จะมิสามารถซ่อมมันได้เลย!”

เสียงที่ตื่นตระหนกเสียงหนึ่งได้ดังลอยมา “อะไรนะ? ต้องการถึงหนึ่งหมื่นชิ้น อีกทั้งยังต้องเป็นหินแห่งมิติชั้นยอด!”

“ปรมาจารย์เฉีย!” เจ้าสำนักเฝินมองไปทางปรมาจารย์เฉีย

ปรากฏว่าปรมาจารย์เฉียกล่าวขึ้น “ที่ท่านนี้กล่าวมิผิดอย่างแน่นอน!ข้ามิมีความชำนาญพอในด้านนี้ ดังนั้นข้าเองก็ไม่รู้อย่างแน่ชัด”

เมื่อต้องเผชิญกับผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่าเขาหลายขุม ปรมาจารย์เฉียก็กลับเรียนรู้ที่จะทำตัวถ่อมตนเป็นขึ้นมาในเสี้ยววินาที

เป๋ยโต่วกล่าว “ถ้าหากภายในปีสองปีนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกเจ้า อีกหลายร้อยปีให้หลังค่อยซ่อมแซม ใช้หินแห่งมิติระดับสุดยอดสามพันก้อนก็เพียงพอแล้ว”

หากมีอะไรเกิดขึ้นกับค่ายกลส่งระยะไกล ผู้ที่เข้าไปอยู่ในค่ายกลส่งระยะไกลนั้นไม่ว่าจะมีพลังความสามารถสูงส่งเพียงใด เกรงว่าจะต้องสิ้นชีพอย่างมิต้องสงสัย

ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงหวังว่า ยิ่งค่ายกลส่งระยะไกลมีเสถียรภาพมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น

เจ้าสำนักเฝินกล่าว “แต่ว่า พวกเราไม่มีหินแห่งมิติมากมายเช่นนั้นเลย”

มู่เฉียนซีกลับเอ่ยปากกล่าวขึ้น “หินแห่งมิติชั้นยอดหนึ่งหมื่นชิ้นนั้น ข้ามี!”

เจ้าสำนักเฝินเบิกตากว้างโพรงมองนางแล้วกล่าว “เจ้า…เจ้ามี….”

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “ตอนอยู่ในหอศิลานั้นโชคค่อนข้างดี จึงได้หินแห่งมิติมามิน้อย แต่มันก็มิได้มากมายนัก และสำหรับหนึ่งหมื่นก้อนนั้นข้ามี!”

พวกเขาเข้าไปในหอศิลา แต่ก็กลับมิได้อะไรมาเลย พวกเขาเก็บแต่เพียงหินแห่งมิติธรรมดาที่อยู่ด้านนอกเท่านั้น แต่ทว่านางกลับได้หินแห่งมิติระดับสุดยอดจำนวนมากมายเช่นนี้ มันช่าง!

มู่เฉียนซีกล่าว “หินแห่งมิติจำนวนมากมายเช่นนี้ ข้าไม่สามารถให้เปล่าได้ ดังนั้นแล้วข้าจึงมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง!”

เจ้าสำนักเฝินกล่าว “เงื่อนไขอะไร? เจ้าจงว่ามา! ขอแค่เพียงสามารถซ่อมค่ายกลส่งระยะไกลเสร็จ ไม่ว่าอะไรพวกเราก็สามารถตอบรับเจ้าได้!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าต้องการสิทธิ์อำนาจในการควบคุมค่ายกลส่งระยะไกล”

“อะไรนะ?” เจ้าสำนักเฝินตะลึงงัน!

เมื่อค่ายกลส่งระยะไกลถูกควบคุม เช่นนั้นก็เท่ากับว่าพวกเขาได้ถูกผู้อื่นกุมคอหอยเอาไว้ กองกำลังบางกลุ่มในแดนใต้อยากที่จะออกไปข้างนอกเพื่อพัฒนาก็ยังต้องมาขออนุญาตพึ่งพาพวกเขา

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าสำนักเฝินจะคิดว่าข้าถือโอกาสปล้นชิงก็ได้ แต่หินแห่งมิติชั้นยอดจำนวนหนึ่งหมื่นก้อนนั้นมันก็ไม่น้อย”

เจ้าสำนักเฝินกล่าว “เรื่องนี้ข้าเพียงคนเดียวมิสามารถที่จะตัดสินได้!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าเองก็มิได้ต้องการสิทธิ์อย่างถาวร ข้าขอแค่เพียงหนึ่งร้อยปี ถ้าหากไม่ตอบตกลงล่ะก็ เช่นนั้นค่ายกลส่งระยะไกลนี่ก็ไม่ต้องซ่อมกันแล้ว”

เจ้าสำนักเฝินกล่าว “ได้! ข้าจะไปหาพวกเขาเพื่อปรึกษากันเดี๋ยวนี้!”

หากหอหมอปีศาจควบคุมค่ายกลส่งระยะไกลเอาไว้ แน่นอนว่าจะต้องทำให้กลุ่มกองกำลังจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่ค่อยพอใจ

แต่ว่าจะทำอย่างไรได้? หินแห่งมิตินั้นเป็นนางที่มอบให้ อีกทั้งผู้บำเพ็ญภูตธาตุมิติที่แข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์เฉียก็เป็นนางที่เชื้อเชิญมา

เบื้องหลังของหอหมอปีศาจนอกจากจะมีหมอปีศาจที่ลึกลับแล้ว อีกทั้งยังมีบุรุษผู้น่ากลัวที่สามารถจะฉีกกระชากอากาศได้อีกผู้หนึ่ง ด้วยพลังความสามารถเช่นนี้ ไหนเลยพวกเขาจะกล้าไปล่วงเกิน!

หลังจากที่พวกเขาลังเลอยู่หลายครั้ง ในที่สุดการลงเสียงคะแนนก็ให้ผ่านทั้งหมด และได้ตอบรับเงื่อนไขของมู่เฉียนซี

ทันทีที่ซ่อมแซมเสร็จสิ้น เช่นนั้นหอหมอปีศาจก็มีสิทธิ์อำนาจในการควบคุมค่ายกลส่งระยะไกลในการเดินทางไปยังเขตแดนอื่น ๆ ไปร้อยปี

ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันอยู่นั้น เป๋ยโต่วกลับไปนอนหลับในสถานที่แห่งหนึ่งเสียแล้ว

ถึงแม้ว่าเขาจะถูกทำให้ตกใจตื่นขึ้นมาด้วยเรื่องที่ว่าจิ่วเยี่ยมีสตรี และบัดนี้เมื่อความง่วงเข้าโจมตี เขาก็ได้หลับไปอีกครั้ง

เจ้าสำนักเฝินกล่าวตอบมู่เฉียนซีไป กองกำลังใหญ่ต่าง ๆ ล้วนแต่ตอบรับในเงื่อนไขของมู่เฉียนซีหมดแล้ว

มู่เฉียนซีดึงตัวจิ่วเยี่ยไปแล้วกล่าว “จิ่วเยี่ย ไปกัน พวกเราจับตัวเป๋ยโต่ว! ให้เขารีบมาซ่อมค่ายกลส่งระยะไกล”

จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ต้องให้ซีไป ถ้าหากว่าเขายังไม่อยากตายล่ะก็ เขาจะ…ปรากฏตัวขึ้นบัดนี้….”

เป๋ยโต่วได้เดินออกมาจากรอยแยกของมิติแล้วรีบกล่าวขึ้น “ข้ามาแล้ว! ข้ามาแล้ว!”

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “มาไวนักนะ จะซ่อมค่ายกลส่งระยะไกลได้หรือยัง?”

เมื่อมู่เฉียนซีขยับมือ หินแห่งมิติระดับสุดยอดก็ได้ปรากฏขึ้นมาไม่มากไม่น้อย

ปรมาจารย์เฉียกล่าวออกมาด้วยความตะลึง “มีเยอะมากมายเช่นนี้จริง ๆ”

ดวงตาของเป๋ยโต่วเปล่งประกายออกมา “นึกไม่ถึงเลยว่าพระชายาจะร่ำรวยถึงเพียงนี้ ท่านจะมอบหินแห่งมิติชั้นยอดให้แก่ข้าน้อยเป็นรางวัลสักสองสามหมื่นก้อนได้หรือไม่!”

หินแห่งมิติชั้นยอดนั้นหาได้ยากยิ่งในแดนนรก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นจอมภูตธาตุมิติที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนนรกก็ตาม แต่ทว่าเขากลับยากจนเป็นอย่างมาก!

เพิ่งจะได้ขอรางวัลเพียงเล็กน้อย เป๋ยโต่วก็พลันรู้สึกว่ามีลมอันเย็นยะเยือกพัดหวีดหวิวมาที่ด้านหลังของเขา

“ทำงาน!” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างดุดัน

“ได้ได้ได้! ข้าทำงาน! ข้าทำงาน!” เป๋ยโต่วกล่าวอย่างรีบร้อน

เป๋ยโต่วเตรียมซ่อมแซมค่ายกลส่งระยะไกล ปรมาจารย์เฉียกล่าว “ให้ข้าช่วยหรือไม่?”

เป๋ยโต่วมานึกดูแล้วก็กล่าว “ด้วยความสามารถเช่นเจ้านี้ก็คงจะช่วยให้ยุ่งวุ่นวายไปกว่าเดิม อย่างไรเสียก็อยู่เฉย ๆ เถอะ!”

เป๋ยโต่วยกมือขึ้นและเริ่มซ่อมค่ายกลส่งระยะไกล เมื่อเวลาผ่านไปจนตอนที่ค่ายกลส่งระยะไกลใกล้จะซ่อมเสร็จแล้วนั้นก็พลันเกิดเหตุขัดข้องขึ้น

“บ้าจริง! ฝ่าบาท โลกทั้งสี่ทิศได้สะกดพลังของข้าเอาไว้ พลังแห่งมิติของข้านั้นมิเพียงพอ! ถ้าหากไม่ซ่อมให้สำเร็จในตอนนี้ หินแห่งมิติชั้นยอดทั้งหมื่นก้อนนั้นก็จะสูญเปล่า!”

ต้องโทษที่เขานั้นเลอะเลือนยิ่งนัก เขากลับลืมเรื่องนี้ไปได้และก่อให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

“ฝ่าบาท รีบช่วยข้าเร็ว!”

เขารู้ดีว่าในตอนนี้มีเพียงแค่เจ้านายของเขาเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้

เพราะผู้เป็นนายของเขานั้นมีผู้ที่ควบคุมมิติอยู่ นั่นก็คือผู้พิทักษ์นิรันดร์ ดอกบัวหงษ์เก้ากลีบ

เมื่อจิ่วเยี่ยได้ยินเขากล่าวดังนั้นจึงได้ดึงตัวมู่เฉียนซีแล้วกล่าว “ซี เจ้ามาทำ!”

“ข้า!” มู่เฉียนซีได้ฉายแววตาแห่งความตกตะลึงออกมา

ที่จริงแล้วเป๋ยโต่วนั้นเข้าใจผิดว่า จิ่วเยี่ยมีชิ้นส่วนหนึ่งของผู้พิทักษ์นิรันดร์อยู่ แต่ทว่ามีเพียงผู้เป็นเจ้านายของผู้พิทักษ์นิรันดร์ซึ่งก็คือมู่เฉียนซีที่จะสามารถใช้พลังแห่งมิติที่แข็งแกร่งกว่าได้

พลังแห่งมิติของสุ่ยจิงอิ๋งได้โคจรขึ้นมาและพุ่งเข้าไปในค่ายกลส่งระยะไกล!

สายตาของเป๋ยโต่วฉายแววตกตะลึงออกมา “พระชายา ท่าน…..”

พระชายาของเขานั้นมีพลังความสามารถที่มิได้แข็งแกร่ง แต่กลับสามารถระเบิดพลังแห่งมิติที่แข็งแกร่งเช่นนี้ออกมาได้

ปรมาจารย์เฉียเองก็ตะลึงค้าง “โอ้ สวรรค์! สาวน้อยที่ยังมิเติบโตผู้นี้ต่างหากล่ะ ถึงจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุมิติที่แข็งแกร่งที่สุด ในตัวของนางกลับมีพลังแห่งมิติที่แข็งแกร่งเพียงนี้ซ่อนอยู่ ข้านั้นตาบอดไปจริง ๆ”

“อะไรกัน? แม่นางมู่ยังเป็นจอมภูตธาตุมิติด้วย” เจ้าสำนักเฝินเองก็ตกใจเช่นกัน

หากเขาจำไม่ผิดล่ะก็ เด็กสาวผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุน้ำ และยังมีพลังธาตุมิติอีก เช่นนั้นมิใช่ว่านางมีทั้งสองธาตุรึ!