ตอนที่ 1968

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,968 : ผู้ฝึกเต๋า ซุนเต๋อ!

 

ถึงแม้เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ส่วนใหญ่ในที่เกิดเหตุ รู้ว่าต้วนหลิงเทียนสามารถเอาชนะหนิวคงได้…

 

อย่าไรก็ตามพวกมันคิดไปว่าที่ต้วนหลิงเทียนเอาชนะอีกฝ่ายได้ไม่ยาก เพราะใช้เวทย์พลังขั้นสูงอันร้ายกาจนั่น!

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกมันตระหนักกันแล้วว่าตอนต้วนหลิงเทียนเอาชนะหนิวคง เขายังไม่ได้ใช้เวทย์พลังสนับสนุนนี่!

 

“ก่อนที่มันจักใช้เวทย์พลังสนับสนุนเสริมพลัง กลิ่นอายพลังของมันก็บรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดอยู่ก่อนแล้ว…เช่นนั้นหมายความว่าพลังฝึกปรือของมันยามนี้ได้บรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเป็นที่เรียบร้อย!”

 

“ไม่จริง! เรื่องพรรค์นั้นจักเป็นไปได้อย่างไรกัน!มิใช่ว่าเมื่อ 3 เดือนก่อนพลังฝึกกปรือของมันยังอยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีขั้นกลางหรือไร?”

 

“ในเวลาเพียง 3 เดือนก้าวหน้าจากเซียนปฐพีขั้นกลางมาถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด…การบ่มเพาะพลังท้าทายสวรรค์เช่นนี้ข้ากลัวว่าคงมีแต่เหล่าอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญาณสีครามเท่านั้นที่กระทำได้…”

 

“หากแต่พรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงรากวิญญาณสีเหลืองเท่านั้น…ด่านพลังฝึกปรือจะก้าวหน้ารวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร…สมควรมีอันใดผิดปกติแล้ว!”

 

“มีอันใดผิดปกติรึ? หรือที่แท่นบูชาเต่าทมิฬวันนั้น…การทดสอบจักมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น! ทำให้หลังจากนั้นแม้มันจะฆ่าสหายศิษย์ แต่พอมันเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงออกมา หอคุมกฏในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จึงละเว้นมัน?”

 

“พอเจ้ากล่าวออกมาเช่นนี้…ข้ารู้สึกว่าอาจเป็นได้จริงๆ!”

 

“ใช่ หากเป็นเช่นนั้นจริง เรื่องราวทั้งหมดล้วนอธิบายได้ง่ายๆ!”

 

 

เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์กระซิบกระซาบกันดังระงม ตอนนี้เริ่มมีคนเอะใจแล้วว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนอาจจะเป็นระดับสูง!

 

หาไม่แล้วไหนเลยด่านพลังของคนเราจะก้าวหน้าได้รวดเร็วเหนือสามัญสำนึกเช่นนี้? เพียงเวลาแค่ 3เดือนกลับทะลวงถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดจากเซียนปฐพีขั้นกลาง!

 

“ไม่แน่นัก…เรื่องราวอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเจ้าคิด!”

 

ในขณะที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์กำลังคิดไปในทางเดียวกัน พลันมีเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นเสียก่อน

 

หลังจากดึงดูดความสนใจผู้คนได้สำเร็จ ศิษย์ที่โพล่งกล่าวออกมาเมื่อครู่พลันกล่าวสืบต่อ “พวกเจ้าอย่าได้ลืมไป ว่ายามต้วนหลิงเทียนมาถึงลัทธิบูชาไฟเรา คล้ายมันปกปิดอายุขัยได้…แล้วเช่นนั้นหากมันใช้ทักษะลับอันใดบางอย่างปกปิดพลังฝึกปรือไว้แต่แรกเล่า?”

 

“หากด่านพลังเซียนปฐพีขั้นกลางของมันก่อนหน้า เป็นด่านพลังที่มันจงใจเปิดเผยออกมาแค่นั้นเล่า?”

 

ต้องกล่าวเลยว่าวาจาของศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์คนนี้ได้กระตุ้นเตือนความคิดของผู้อื่น และพาลให้ทุกคนย้อนคิดถึงเรื่องราวในอดีตของต้วนหลิงเทียนขึ้นมาประกอบกันเป็นแถว “ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ…เรื่องนี้เป็นไปได้สูงยิ่ง!”

 

“หากเป็นเช่นนั้นจริง เรื่องราวทุกอย่างกลับมีคำอธิบายรองรับ…แต่ข้ามิคิดเลยว่าที่แท้พลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจขนาดนี้”

 

“เซียนปฐพีขั้นสูงสุด…นี่อาจเป็นขีดจำกัดของผู้ฝึกตนที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลือง!”

 

“อ้างอิงจากเวทย์พลังขั้นสูงทั้ง 3 สายที่ต้วนหลิงเทียนชำนาญ ทั้งมองจากการลงมือก่อนหน้า…แม้ด่านพลังของมันจะเป็นเพียงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด แต่ในช่วงเวลาสั้นๆมันอาจระเบิดพลังความแข็งแกร่งที่เทียบได้กับยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญ!”

 

……

 

ตอนนี้ยิ่งมาเสียงกระซิบในที่เกิดเหตุก็ยิ่งระงมทั้งตื่นสับสันกันมากขึ้นเรื่อยๆ

 

พรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียน…พลังฝึกปรือที่แท้จริงของต้วนหลิงเทียน? ทุกอย่างทำให้ต้วนหลิงเทียนกลายเป็นสิ่งลึกลับยากคาดเดาไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังมีสิ่งหนึ่งที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์มั่นใจมาก

 

นั่นคือพลังของต้วนหลิงเทียนหลังใช้ออกด้วยเวทย์พลังสายสนับสนุนนั่น…มันสูงกว่าซุนเต๋อ!

 

ขณะเดียวกันทางด้านซุนเต๋อตอนนี้ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นขึงขังจริงจัง

 

เห็นได้ชัดว่ามันเองก็รู้สึกกดดันไม่น้อย

 

วูบ!

 

หลังได้เห็นพลังอันกล้าแข็งที่ต้วนหลิงเทียนเปิดเผยออก ซุนเต๋อก็ไม่กล้าดูเบาต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย มือสะบัดคราหนึ่งปรากฏหอก 7 ฉื่อผุดจากกความว่างกระชับเข้ามือ ทั้งพลังเซียนของมันยังถ่ายทอดลงสู่ตัวหอกฉับไว จนตัวหอกปรากฏไอพลังคมกล้าพวยพุ่งออกมาปานจะทิ่มแทงให้ถึงแดนสรวง!

 

“ศิษย์พี่ซุนเต๋อถึงกับรีบเอาหอกร้อยอาคมออกมาเช่นนี้…ดูเหมือนพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนในยามนี้จะกดดันศิษย์พี่มิน้อยเช่นกัน!”

 

“นี่นับเป็นเรื่องธรรมดานัก อย่างไรก็ตามแม้ศิษย์พี่ซุนเต๋อจะใช้หอกร้อยอาคมเซียนแต่เรื่องราวคงมิได้มีใดเปลี่ยน…เว้นแต่ศิษย์พี่ซุนเต๋อจะทะลวงถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญแล้ว อีกทั้งยังแตกฉานเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬเป็นที่เรียบร้อย หาไม่แล้วก็มิอาจสู้กับต้วนหลิงเทียนได้เลย!”

 

“นั่นสิ แม้พลังกล้าแข็งระดับนี้ของต้วนหลิงเทียนจะอยู่ได้ไม่นาน…แต่ด้วยพลังของต้วนหลิงเทียนยามนี้กอปรทั้งมีเวทย์พลังขั้นสูงทั้ง 3 สาย…ก็มิใช่เรื่องยากอันใดที่จะจัดการศิษย์พี่ซุนเต๋อได้ในเวลาอันสั้น”

 

 

ถ้าจะบอกว่าตอนแรกๆเหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์เห็นดีกับทางซุนเต๋อว่ามีภาษีดีกว่าล่ะก็…

 

พอหลังได้เห็นต้วนหลิงเทียนเปิดเผยพลังออกมา พวกมันก็ย้ายภาษีที่ว่าไปยังต้วนหลิงเทียนทันที

 

วูบบ!!

 

ภายใต้สายตามองชมอย่างสนใจของทุกกคน ซุนเต๋อเลือกที่จะเป็นฝ่ายชิงลงมือก่อน! ร่างกายของมันวูบไหวคล้ายภูตผีทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูง!

 

ซู่มมม!!

 

ครืนนนน!!

 

พร้อมกันกับที่ซุนเต๋อทะยานร่างมา หอกร้อยอาคมเซียนในมือก็ถูกควงไวปานจักรผันก่อนที่จะทิ่มแทงทะลวงจี้ออกไปฉับไวด้วยความเร็วเหนือเสียง! พาลให้มวลวอากาศแตกระเบิดออกเสียงดังสนั่น!!

 

“ปีกอีกาทองคำ!”

 

เผชิญหน้ากับซุนเต๋อที่พุ่งทะยานแทกหอกมาอย่างเกรี้ยวกราด ต้วนหลิงเทียนไม่กล้ารอช้ารีบสำแดงอำนาจของเวทย์พลังปีกอีกาทองคำทันที!

 

ทันใดนั้นปีกเพลิงคู่หนึ่งพลันสยายออกที่กลางหลังของต้วนหลิงเทียน!

 

และปีกอีกาทองคำดังกล่าวก็สะบัดออกทันที!

 

ปง! ปง! ปง! ปง!

 

 

เสียงแตกระเบิดของมวลอากาศสนั่นลั่นขึ้น ต้วนหลิงเทียนที่ถูกซุนเต๋อทะยานจี้หอกเข้าใส่ สามารถพุ่งร่างหลีกหลบกระบวนแทงหอกของซุนเต๋อไปด้วยความเร็วอันเหนือชั้น!

 

ความเร็วในการลงมือของซุนเต๋อ อยู่ต่อหน้าความเร็วของเวทย์พลังปีกอีกาทองคำย่อมไม่คู่ควรให้กล่าวถึง!

 

‘มันรู้ว่าไม่มีทางไล่ข้าทัน เลยคิดจะยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?’

 

หลังจากพุ่งร่างฉากหลบออกไปแล้ว พอต้วนหลิงเทียนเห็นว่าซุนเต๋อกลับลอยร่างนิ่งค้างในจุดที่เขาอยู่เมื่อครู่ เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายใช่กำลังจะยอมแพ้แล้วหรือไม่

 

“หืม?”

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนี้ต่ออะไร เขาก็พบว่าซุนเต๋อเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

 

ซุนเต๋อเบื้องหน้าอยู่ดีๆก็ค่อยๆเคลื่อนหอกในมือให้ยกสูงขึ้น ไม่ทันไรหอกก็ถูกชี้ไปยังแผ่นฟ้าว่างเปล่าเบื้องบน

 

ทันใดนั้นเอง สำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ว่า มีไอพลังอำนาจลี้ลับขุมหนึ่งแผ่พุ่งออกมาจากตัวหอกของซุนเต๋อ!

 

พลังลี้ลับขุมนี้กลับเป็นพลังไร้สภาพมิอาจมองเห็น หากไม่ใช่เพราะสำนึกเทวะ ต้วนหลิงเทียนอาจไม่ค้นพบพลังดังกล่าวได้เลย!

 

อย่างไรก็ตามพอต้วนหลิงเทียนพบว่าพลังขุมนี้ไม่ได้คิดจะเล่นงานมาที่เขา ต้วนหลิงเทียนจึงไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร เพียงมองขึ้นไปบนฟ้าตามสัญชาตญาณ

 

“มันทำอะไรอยู่กัน?”

 

ต้วนหลิงเทียนงุนงงไม่น้อย

 

อย่างไรก็ตามครู่ต่อมาลูกตาของเขาอดไม่ได้ที่จะหดหยีลง

 

เพราะทันทีที่เขาแหงนหน้าขึ้นไปมองบนฟ้า เขาก็ได้แลเห็นสิ่งหนึ่ง

 

ความว่างเปล่าบนฟ้าเหนือศีรษะซุนเต๋อ คล้ายจะถูกพลังไร้สภาพขุมดังกล่าวทำให้สั่นสะท้านจนบิดเบือน!

 

เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!

 

 

ครู่ต่อมาพลันปรากฏเสียงอัสนีลั่นดังไปทั่ว ความว่างเปล่าที่บิดเบือนอยู่ดีๆก็อุบัติเส้นสายอัสนีเล็กๆเท่าแขนเด็กผุดโผล่ออกมาจากอากาศธาตุ!

 

แสงสีม่วงของอัสนีที่แปลบปลาบยิ่งมายิ่งมาก บัดนี้ภาพแพอัสนีนับร้อยแล่นวาบแปลบปลาบค้างฟ้านับเป็นอะไรที่น่าดูชมนัก! มองไปคล้ายดั่งพายุสายฟ้ากำลังสั่งสมพลังเตรียมถล่มล้างผลาญโลกหล้า!!

 

ภาพอันน่าพรั่นพรึง ทำให้ทุกคนรู้สึกเสมือนห้วงเวลาคล้ายจะหยุดลง!

 

“ลง!”

 

และทันใดนั้นเองเสียงคำรามของซุนเต๋อก็พลันดังขึ้นให้ต้วนหลิงเทียนได้ยินชัด!

 

ด้วยเนตรพิสดาร ต้วนหลิงเทียนจึงสังเกตเห็นได้ชัดเจน ว่าหอกในมือของซุนเต๋อที่ชี้ขึ้นไปบนฟ้าจนก่อเกิดพายุอัสนี อยู่ดีๆก็วกมาจี้ออกไปยังความว่างเบื้องหน้า…เป็นทิศทางที่เขาอยู่!!

 

เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!

 

 

และแทบจะพร้อมเพรียงกับการเคลื่อนไหวในฉับพลันนี้ของซุนเต๋อ เส้นสายอัสนีสีม่วงขนาดเท่าแขนเด็กทารกที่แปลบปลาบอยู่เหนือฟ้า ทั้งหมดก็ฟาดผ่าลงมาใส่เขาทันที!

 

“ผู้ฝึกเต๋า!!”

 

เห็นฉากดังกล่าวลูกตาของต้วนหลิงเทียนหดหยีลงอีกครั้งทันใด สีหน้าเขายังเผยความเคร่งขรึมออกมา เพราะตระหนักได้แล้วว่าซุนเต๋อมิใช่ผู้ฝึกยุทธ์ หากแต่เป็นผู้แสวงหาเต๋า!

 

ผู้ฝึกเต๋านั้น หลังต้วนหลิงเทียนขึ้นมายังภูมิภาคเบื้องบน เขาก็แทบไม่ได้พบเจอเลยสักคน

 

ในเรื่องนี้เขาเองยังสงสัยอยู่ไม่น้อย

 

มีเหตุผลที่ไฉนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าถึงมีคำเรียกหาว่า เต๋า และ ยุทธ์​ นั่นเพราะแดนดินนี้มีทั้งผู้ฝึกเต๋าและผู้ฝึกยุทธ์

 

แต่ไฉนเขาขึ้นมายังภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าได้สักพักแล้วเขาจึงได้เห็นผู้ฝึกเต๋าน้อยคนนัก

 

ในเรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนทำได้แค่บอกตัวเองว่าเขาอาจไม่มีโชค

 

ทว่าตอนนี้…

 

ในที่สุดเขาก็ได้เจอผู้ฝึกเต๋าแล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้ฝึกเต๋าอันร้ายกาจ!

 

เพียงการลงมือครั้งเดียวกลับชักนำปฐมพลังฟ้าดินให้แปรเปลี่ยนเป็นเส้นสายอัสนีนับร้อย แต่ละเส้นยังหนาเท่าแขนเด็กให้ฟาดผ่าลงมายังเขาดั่งพิรุณโปรยปราย อีกทั้งเส้นสายอัสนีแต่ละเส้นก็มีความเร็วในการฟาดผ่าลงมาไม่ต่างอะไรกับการลงมือด้วยความเร็วสูงุสดของยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาชั้นเชี่ยวชาญ!

 

‘เส้นสายอัสนีพวกนี้…ไม่เพียงแต่จะมีกลิ่นอายพลังจากกฏแห่งเต๋า แต่ยังมีร่องรอยของเวทย์พลังอีกด้วย!’

 

เผชิญหน้ากับมวลหมู่อัสนีที่ฟาดผ่าลงมาอย่างเกรี้ยวกราด สำนึกเทวะที่แผ่ออกไปตรวจสอบของต้วนหลิงเทียนพลันค้นพบบางสิ่ง

 

“กลเต๋าของศิษย์พี่ซุนเต๋อคราวนี้…คล้ายจะแตกต่างกับ ‘ศตอัสนีเคลื่อน’ ที่ใช้ออกในอดีต! หรือศิษย์พี่ซุนเต๋อจะเข้าใจถึงมรรคาอัสนีระดับสูงสุดแล้ว!?”

 

พร้อมๆกันกับที่อัสนีนับร้อยขนาดเท่าแขนเด็กฟาดผ่าลงจากฟ้าเบื้องบนไปยังต้วนหลิงเทียน เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ ก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งเช่นกัน

 

“ช้าก่อน! นั่นมิใช่…กลิ่นอายเวทย์พลัง ‘ภัยพิบัติอัสนี’ หรอกรึ!?”

 

ในขณะเดียวกันก็มีศิษย์บางคนที่สัมผัสได้ถึงพลังลี้ลับขุมดังกล่าว ว่าหาใช่แค่เพียง ศตอัสนีเคลื่อน อันเป็นกลเต๋าอย่างเดียวไม่ หากแต่ยังมีเวทย์พลังระดับกลาง ภัยพิบัติอัสนี ผสานอยู่ด้วย!

 

“ศตอัสนีเคลื่อน?”

 

“ภัยพิบัติอัสนี?”

 

ต้วนหลิงเทียนโค้งคิ้วขึ้นขณะมองสายฟ้าขนาดเท่าแขนเด็กนับร้อยที่กำลังกระหน่ำฟาดลงมาทางเขา ทว่าแทนที่เขาจะหลบหลีกอย่างที่ผู้อื่นคิด เขากลับลอยร่างนิ่งเฉยไม่ไหวติง!

 

เขตแดนหมื่นกระบี่!

 

ทันใดนั้นโดยมีต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง อาณาบริเวณกินรัศมีโดยรอบพลันแปรเปลี่ยนเป็นมหาสมุทรสีทองทันใด กระบี่พลังนับหมื่นอุบัติขึ้นในชั่วพริบตา แสงพลังยังสว่างเจิดจ้าปิดกั้นสายตาทุกผู้คนรวมถึงซุนเต๋อทันที!

 

“เปิด!”

 

เพียงใจคิด จิตสั่ง พลังเคลื่อน ปรากฏช่องว่างหนึ่งเหนือเขตแดนหมื่นกระบี่ และปล่อยให้อัสนีขนาดเท่าแขนเด็กนับร้อยสายสามารถผ่าลอดเข้ามาได้!

 

พริบตานี้ต้วนหลิงเทียนกำลังจะเผชิญหน้าอับสายฟ้านับร้อยตรงๆ!

 

ซัว! ซัว! ซัว!

 

 

และในห้วงเวลานี้เอง ทั่วร่างของต้วนหลิงเทียนบังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คนกลับกลายเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ!