บทที่ 614 ไสหัวไป

The king of War

ด้วยความแข็งแกร่งของคนอย่างหยางเฉิน เขาต้องเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อยู่ในตำแหน่งผู้มีอำนาจสูงสุดในกองทัพอย่างแน่นอน และซ่งหวายี่ก็รู้ว่าหยางเฉินเคยไปดินแดนเหนือมาแล้ว

ดินแดนเหนือนั้นเป็นดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสี่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของประเทศจิ่วโจว และยังมีข่าวลือกันว่าจอมพลของดินแดนเหนือนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เกรงว่าจักรพรรดิแห่งราชวงศ์แห่งจิ่วโจวยังเป็นได้แค่เศษเสี้ยวเท่านั้นเมื่อเทียบกับจอมพลของดินแดนเหนือ

และหยางเฉินต้องเป็นคนของจอมพลจากดินแดนเหนืออย่างแน่นอน แล้วถ้าหากตระกูลซ่งยังไม่ยอมจบสิ้นกับหยางเฉินแบบนี้ มันจะทำให้จอมพลของดินแดนเหนือถึงขั้นต้องออกโรงเองไหม?

ถ้าถึงเวลานั้น อย่าว่าแต่ตระกูลซ่งเลย แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูร่วมมือกันก็ไม่อาจต้านทานได้หรอก

“สาเหตุที่ซ่งหวาตงถูกฆ่าก็เพราะมันหาเรื่องเอง ถ้ามันไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าคุณหยางก่อน แล้วจะถูกคุณหยางฆ่าได้ยังไงล่ะ?”

ซ่งหวายี่พูดด้วยความโกรธ “ถ้าคุณหยางเป็นสหายของผม เขาก็คือสหายของตระกูลซ่งเช่นกัน คุณอย่ามาสร้างความบาดหมางที่นี่!”

“สหาย?”

ซ่งหวาเหว่ยแสยะยิ้ม “ซ่งหวาตงเป็นทายาทสายตรงของตระกูลซ่ง คนที่กล้าฆ่าทายาทสายตรงของตระกูลซ่ง นายจะนับเป็นสหายอยู่เหรอ?”

“นายรอคว่ำบาตรกับตระกูลซ่งได้เลย! หลังจากสหายของนายคนนี้ตายแล้ว ข้าจะคอยดูว่านายจะเอาไม้ไหนมาเล่นอีก?”

คำพูดของซ่งหวาเหว่ยเต็มไปด้วยการข่มขู่

“ทายาทรุ่นที่สามของตระกูลซ่ง นอกจากพวกคุณสองคนแล้ว ยังมีใครอีกไหม?” หยางเฉินพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

ซ่งหวายี่ถึงกับผงะและส่ายหัวตอบ “พี่แค่เราสองคนครับ!”

หยางเฉินพยักหน้าแล้วมองไปที่ซ่งหวาเหว่ยอย่างกะทันหัน “ฆ่าไปแล้วหนึ่ง ฆ่าเพิ่มอีกหนึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกัน ถ้าผมฆ่าเขาแล้ว คุณจะไม่มีคู่แข่งในทายาทรุ่นที่สามของตระกูลซ่งอีกแล้วใช่ไหม?”

จากนั้นหยางเฉินหันกลับมามองซ่งหวายี่

ซ่งหวายี่ตกตะลึงมากและสงสัยว่าหยางเฉินจริงจังอยู่ใช่ไหม?

ซ่งหวาเหว่ยรู้สึกเหน็บหนาวไปจนถึงกระดูก เมื่อนึกถึงภาพที่หยางเฉินสังหารอะปู้ เขาถึงกับมือไม้อ่อนไปหมด

“คุณหยางครับ ได้โปรดเห็นแก่ผมเถอะครับ อย่าทำอะไรเขาเลยนะครับ!” ซ่งหวายี่พูดขึ้นอย่างกะทันหัน และนัยน์ตาก็เต็มไปด้วยความเหลือทน

ซ่งหวาเหว่ยยังคงพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา “คุณฆ่าซ่งหวาตงเพราะเขาหาเรื่องคุณก่อน บางทีตระกูลซ่งอาจจะไม่เอาผิดคุณก็ได้ แต่ถ้าคุณฆ่าผม ตระกูลซ่งไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

หยางเฉินเลิกคิ้วเบาๆ “แล้วคุณคิดว่าผมกลัวตระกูลซ่งใช่ไหม?”

ซ่งหวาเหว่ยถึงกับผงะไปชั่วขณะ เขาไม่กล้าพูดอะไรเลย ได้แต่หันไปพูดกับซ่งหวายี่ว่า “ซ่งหวายี่ ถ้าข้าตายแล้ว นายน่าจะรู้ดีนะว่าจะต้องเจอกับอะไร”

“หุบปาก!”

ซ่งหวายี่ตวาดออกมา

เขารู้ว่าหยางเฉินเกลียดการข่มขู่ที่สุด และซ่งหวาเหว่ยยังคงพูดจายุยงอย่างไม่หยุด หรือว่าเขาอยากตายจริงๆ?

“จะให้ผมไว้ชีวิตคุณสักครั้งก็ได้ แค่คุณต้องกลิ้งออกไปจากที่นี่ แล้วผมจะไม่ฆ่าคุณชั่วคราว!” หยางเฉินพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

ซ่งหวาเหว่ยถึงกับตกใจและรีบตอบ “ได้ ผมจะไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”

จากนั้นเขาหันหลังและเตรียมจะเดินออกไป

“ผมบอกว่าให้คุณกลิ้งออกไป ถ้าคุณไม่เข้าใจคำว่า ‘กลิ้ง’ คุณไปเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตได้นะ” หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา

ซ่งหวาเหว่ยถึงจะเข้าใจว่าหยางเฉินให้เขากลิ้งออกไปจริงๆ

ต่อหน้าผู้คนนับพัน และในนี้ยังมีผู้คนมากมายที่มาจากเมืองเยี่ยนตูอีกด้วย ถ้าเขากลิ้งบนพื้นออกจากที่นี่จริงๆ วันหลังเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเยี่ยนตูอย่างไร?

เกรงว่าตระกูลซ่งก็จะไม่สนับสนุนในตัวเขาอีกด้วยซ้ำ?

เพราะการกระทำนี้มันทำให้ตระกูลซ่งต้องอับอายขายหน้ามาก และถ้าหากยังแต่งตั้งเขาเป็นทายาทผู้สืบทอดในรุ่นที่สามอีก มันจะไม่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือ?

ซ่งหวายี่ก็เพิ่งรู้ทันเหมือนกัน การที่หยางเฉินทำเช่นนี้ก็เพื่อจะทำให้ซ่งหวาเหว่ยต้องอับอายขายหน้า และตระกูลซ่งก็จะไม่สนับสนุนในตัวเขาอีก

และถ้าหากไม่มีคู่แข่งอย่างซ่งหวาเหว่ย ผู้สืบทอดทายาทรุ่นที่สามของตระกูลซ่งก็จะเหลือเพียงแค่เขาเท่านั้น

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นัยน์ตาของซ่งหวายี่ก็เต็มไปด้วยความขอบคุณ

เขาขอร้องไม่ให้หยางเฉินฆ่าซ่งหวาเหว่ยก็ล้ำเส้นมากพอแล้ว และถ้าหากจะให้เขาห้ามไม่ให้หยางเฉินทำอะไรซ่งหวาเหว่ยอีก มันจะเป็นการไม่เกียรติหยางเฉินมากเกินไป

“คุณจะให้ผมกลิ้งออกไปจากที่นี่?”

ซ่งหวาเหว่ยนิ่งเงียบอยู่สักพัก จากนั้นถามด้วยดวงตาแดงก่ำ “คุณอย่ามากไปนะ!”

“ภายในสิบวินาที ถ้าคุณยังไม่กลิ้งออกไป ผมจะขอชีวิตคุณนะ คุณควรรู้ดีว่า การที่ผมจะฆ่าคุณนั้น มันง่ายยิ่งกว่าการฆ่ามดตัวหนึ่ง”

หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา

ในที่สุดซ่งหวาเหว่ยก็ตระหนักได้ว่าหยางเฉินกล้าที่จะฆ่าเขาจริงๆ แต่ในตอนนี้ ผู้ชมมากมายยังจับจ้องมาที่เขา ซึ่งมันเป็นการฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็นชัดๆ

ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลซ่ง เขาเคยถูกเหยียดหยามแบบนี้สักเมื่อไหร่?

การที่หยางเฉินให้เขากลิ้งออกไป ซึ่งเป็นการตอกย้ำศักดิ์ศรีของเขาให้เหยียบลงดินชัดๆ

“ได้ ผมจะกลิ้งออกไป!”

ในที่สุดซ่งหวาเหว่ยก็คิดได้ และในเวลานี้ เขาเลือกที่จะทิ้งศักดิ์เสียดีกว่าการที่ต้องสูญเสียชีวิต

“ให้ตายสิ นี่คุณชายใหญ่ของตระกูลซ่งคิดทำอะไรกันแน่?”

“ทำไมเขาต้องกลิ้งอย่างนั้นล่ะ? หรือว่าเขาจะกลิ้งออกไปจากที่นี่?”

“แล้วไอ้หนุ่มคนนั้นพูดอะไรกับเขา ถึงทำให้คุณชายผู้ทรงเกียรติของตระกูลซ่งต้องกลิ้งออกไปเหมือนสุนัข?”

……

ซึ่งผู้ชมเหล่านั้นไม่ได้ยินคำพูดของหยางเฉินที่พูดกับซ่งหวาเหว่ยเลย แต่รู้เพียงว่าหยางเฉินพูดอะไรบางอย่างไปเท่านั้น และทำให้ซ่งหวาเหว่ยถึงขั้นต้องกลิ้งลงพื้นแล้วออกไปจากที่นี่

เสียงพูดคุยของคนรอบข้างเหมือนหนามที่แทงทะลุร่างกายของซ่งหวาเหว่ย

ภายใต้สายตาของทุกคน เขาทำได้เพียงกลิ้งออกไป ไม่เช่นนั้นเขาต้องเสียชีวิตที่นี่อย่างแน่นอน

เพราะว่าซ่งหวาตงก็ถูกหยางเฉินฆ่าไปแล้ว อย่างหยางเฉินบอกไว้ เขาฆ่าไปแล้วหนึ่ง ฆ่าเพิ่มอีกหนึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกัน ฉะนั้นถ้าหากซ่งหวาตงไม่ทำตามคำสั่งของหยางเฉิน เขาก็ต้องตายที่นี่แน่นอน

ทุกๆ ครั้งที่ซ่งหวาเหว่ยกลิ้งนั้น ความอาฆาตแค้นในใจก็เพิ่มขึ้น จนกระทั่งกลิ้งไปถึงหน้าประตูลิฟต์ เขาจึงจะลุกขึ้น และความอาฆาตแค้นในใจก็เพิ่มถึงขีดสุด

แต่เขาไม่กล้าแสดงออก ได้แต่เปิดประตูลิฟต์แล้วเข้าไปทันทีโดยที่ไม่หันกลับมามอง

ซ่งหวายี่ก็เต็มไปด้วยความกังวล “คุณหยางครับ ผมจะพยายามห้ามไม่ให้ตระกูลซ่งล้างแค้นคุณนะครับ แต่ถ้าพวกเขาทำอะไรคุณจริงๆ ผมขอร้องคุณช่วยไว้ชีวิตพวกเขาจะได้ไหมครับ?”

คำพูดของซ่งหวายี่ทำให้หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจมาก

เขามองชายผู้ที่มีอายุมากกว่าเขาเพียงไม่กี่ปีคนนี้และรู้สึกยินดีมาก

เพราะชายคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพจิตใจหรือวิสัยทัศน์ เขาก็เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป และการที่ตระกูลซ่งมีเขานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากแล้ว

“ถ้าคนของตระกูลซ่งคิดจะฆ่าผม แล้วผมจะปล่อยให้พวกเขาฆ่าง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ?” หยางเฉินพูดเบาๆ

ซ่งหวายี่เงียบไปสักพัก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและพูดกับหยางเฉินว่า “ถ้าพวกเขารนหาที่ตายตริงๆ มันก็คงต้องเป็นชะตากรรมของพวกเขาแล้ว! แต่ผมอยากขอร้องคุณหยาง ขอแค่ตระกูลซ่งได้มีลมหายใจอยู่ต่อก็พอแล้วครับ”

“ได้ ผมรับปากคุณ” หยางเฉินพยักหน้าตอบ

ซ่งหวายี่ถึงกับผงะไป เดิมทีคิดว่าหยางเฉินไม่มีทางรับปากแล้ว เขาแค่พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และถ้าหากหยางเฉินคิดจะกวาดล้างตระกูลซ่งจริงๆ เขาก็คงต้องยอม

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขานั้นก็คือ หยางเฉินกลับตอบตกลงเขาอย่างง่ายดาย

“ขอบคุณครับคุณหยาง! ขอบคุณจริงๆ นะครับคุณหยาง!” ซ่งหวายี่รีบแสดงความขอบคุณ

หยางเฉินยิ้มจาง ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “งั้นเราไปกันเถอะ!”

ซ่งหวายี่ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะด้วยความสามารถของหยางเฉินนั้น การที่จะกวาดแชมป์ของคืนนี้ก็แค่เอื้อมเท่านั้น

เพราะเงินรางวัลแชมป์นั้นเป็นหลักหลายร้อยล้านเชียวนะ แล้วหยางเฉินจะทิ้งไปแบบนี้เลยหรือ?