จางกวังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้การคุ้มครองของพวกองครักษ์เกราะทอง

แม้สีหน้าของพวกเหรินเจียงดูไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ไม่นาน พวกจางกวังหายไปจนหมด กลุ่มคนก็พากันแยกย้าย

ฉินฝานมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน ไม่เชิญฉันเข้าไปดื่มชาสักแก้วเหรอ อย่าบอกนะว่านายจะสู้ต่อ”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “สู้มาสิบวัน ผมก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน เชิญเตี้ยนเซี่ยครับ!”

ทั้งสองเดินช้าๆ ไปทางเจดีย์ยา พวกผู้ฝึกชี่รีบหลีกทางให้ทันที

ในโถงใหญ่ เฮ่อจง ตาเฒ่าซูและคนอื่น ต่างยืนมองอยู่ตรงนั้น ตอนนี้เห็นลู่ฝานกับฉินฝานเดินเข้ามา ทุกคนต่างก้มตัวลงเล็กน้อย

เดินกลับมาที่เจดีย์สีขาว ที่ห้องยา

เซียวเฮ่าและคนอื่นเห็นลู่ฝานกลับมาพร้อมฉินฝาน รีบดึงอูลี่คุนออกไปทันที ยังถือโอกาสพาสิบสามที่แผลเต็มตัวไปด้วย

ทั้งสองคนนั่งอยู่ในห้อง ก้นยังไม่ทันถึงเก้าอี้ จู่ๆ ฉินฝานหัวเราะออกมาเสียงดัง

“สะใจจริงๆ สิบกว่าปีแล้ว วันนี้เป็นวันที่ฉันสบายใจที่สุด! ลู่ฝาน นายทำได้ดี ทำได้ดีมาก!”

ลู่ฝานเข้าใจความหมายของคำพูดเขา ลู่ฝานพูดอย่างเฉยเมยว่า “ฆ่าไปแล้วสองคน สาหัสอีกหนึ่งคน น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ได้สู้กับจางกวัง ไม่งั้นอาจฆ่าได้สามคน”

ฉินฝานหัวเราะแล้วพูดว่า “นายกำลังโทษฉันที่ขัดขวางการต่อสู้ของนายวันนี้เหรอ”

ลู่ฝานพูดว่า “ผมเชื่อว่าเตี้ยนเซี่ยทำเรื่องนี้ เพราะมีเหตุผลของตัวเองครับ”

ฉินฝานพูดว่า “มีเหตุผลอยู่แล้ว ฉันจะบอกให้นะ ฉันดูการต่อสู้ของนายกับแปดผู้โดดเด่นตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าไม่เห็นนายทะลุระดับถึงแดนปราณดิน อีกทั้งยังทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนแปลงรุนแรง ฉันไม่มีทางออกมาขวางการต่อสู้หรอก คงรอดูนายแพ้ จากนั้นก็จัดงานศพให้นายอย่างยิ่งใหญ่!”

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “เตี้ยนเซี่ยคิดว่าผมสู้จางกวังไม่ได้เหรอครับ”

ฉินฝานพยักหน้าพูดว่า “คนซื่อสัตย์พูดแต่ความจริง นายสู้ไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยตอนนี้นายไม่มีโอกาสชนะเลย”

ลู่ฝานขมวดคิ้วเป็นปม ตอนนี้เจ้าดำก็คลานออกมาจากเข็มขัด แล้วหมอบลงบนไหล่ลู่ฝาน

ฉินฝานเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นลูบหัวเจ้าดำแล้วพูดว่า “จางกวังมีสายเลือดมนุษย์เผ่ามังกรในตัว แต่ไม่ใช่มนุษย์เผ่ามังกรอย่างแท้จริง แต่เป็นเลือดผสมของมนุษย์เผ่ามังกร ในมนุษย์เผ่ามังกรถูกเรียกว่าปีศาจชั่วร้าย ห้าปีก่อนหน้านี้เขามาเมืองหลวงคนเดียว ฆ่ายอดฝีมือมนุษย์เผ่ามังกรสามคน ที่ทำลายตระกูลเขาในตอนนั้น สามคนนี้ล้วนมีพละกำลังแดนปราณดิน!”

ลู่ฝานพยักหน้า ฟังดูเหมือนเก่งกาจจริงๆ

ฉินฝานพูดต่อ “หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ เขาควรโดนตัดหัวประจาน แต่พี่ชายสุดที่รักของฉันถูกใจเขา เอาเขาเข้ามาเป็นพวก หลังจากนั้นมาจางกวังก็ฝึกฝนในจวนไท่จื่อ ในระยะเวลาห้าปี ลงมือแค่สองครั้ง ครั้งแรกคือตระกูลถานไถในสิบตระกูลใหญ่ จางกวังใช้สิบกระบวนท่าเอาชนะยอดฝีมืออันดับสอง ในบรรดาคนอายุน้อยของตระกูลถานไถ ส่วนอีกครั้งหนึ่งคือฆ่าองครักษ์ส่วนตัวของฉัน”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าฉินฝานดูเป็นทุกข์เล็กน้อย

ลู่ฝานพูดว่า “งั้นตอนนี้พละกำลังของเขาอยู่ระดับไหนเหรอครับ”

ฉินฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่มีใครรู้ แต่ไม่ใช่แค่แดนปราณดินธรรมดาๆ แน่นอน ฉันเดาว่าถึงไม่ใช่ระดับปราณฟ้า แต่ก็ใกล้ถึงแล้ว มนุษย์เผ่ามังกรยกระดับวิทยายุทธเร็วกว่ามนุษย์ทั่วไป ต้องให้ถึงแดนปราณฟ้า ถึงจะปรากฏอุปสรรคที่ผ่านไปได้ยาก นายต้องเตรียมการต่อสู้กับนักบู๊แดนปราณดินระดับสูงสุดเอาไว้”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “เข้าใจแล้วครับ ดูเหมือนจะมองเขาเป็นแปดผู้โดดเด่นธรรมดาๆ ไม่ได้แล้ว”