ตอนที่ 1821 หมูสมบัติแสนสุข

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เย่หยวนก้มหน้าลงมองเจ้าหมูบนอ้อมอกของตัว ตอนนี้เจ้าหมูมันกำลังกอดรัดเสื้อผ้าของเขาไว้อย่างแนบแน่น

จากนั้นก็มีเด็กน้อยอายุราวห้าถึงหกขวบกำลังเดินเตาะแตะเข้ามาหาเย่หยวน

เด็กน้อยคนนั้นยื่นมือออกมาหาเย่หยวน “คืนหมูสมบัติมา!”

เย่หยวนเองก็ผงะไปไม่น้อย ก่อนจะค่อยๆ หยิบยกตัวเจ้าหมูสีชมพูคืนให้แก่เด็กน้อย

เด็กคนนั้นหัวเราะและยื่นมือออกมารับหมูสมบัติไว้ เมื่อหมูไปอยู่ในมือของเด็กน้อยมันกลับดิ้นรนอย่างแรงและหลุดตัวออกมาพุ่งใส่อ้อมแอของเย่หยวนอีกครั้ง

นั่นทำให้เด็กน้อยคนนั้นตะโกนร้องออกมาอย่างโกรธเคือง “หมูสมบัติ เจ้าเข้าวัยต่อต้านแล้ว?”

“อู๊ดๆ!”

เจ้าหมูน้อยร้องขึ้นในอ้อมอกของเย่หยวนและไม่คิดที่จะยอมปล่อย

เย่หยวนเองก็มึนงงไม่แพ้คนอื่นๆ ไม่เข้าใจเช่นกันว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น

เด็กคนนั้นได้แต่ร้องขึ้นมาด้วยท่าทางแสนไม่พอใจ “เจ้าทำอะไรของเจ้า? แค่เด็กน้อยอาณาจักรนภาสวรรค์หนึ่งดาวเจ้ากลับไปชอบมันมาก? เจ้ากินโอสถเยอะเกินไปจนสมองเพี้ยนแล้วรึ?”

เด็กคนนั้นไม่คิดจะอธิบายใดๆ และพุ่งตัวเข้ามาจับเจ้าหมูสมบัติไว้

แต่เจ้าหมูสมบัติกลับกอดเย่หยวนไว้แน่นอย่างไม่มีทีท่าจะยอมปล่อย

เย่หยวนนึกอะไรบางอย่างออกราวกับว่าเริ่มเข้าใจสภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าแล้วจึงบอก “เจ้าปล่อยก่อน ข้าจัดการให้เอง”

แต่เด็กน้อยคนนั้นกลับไม่คิดปล่อยแม้แต่น้อยและตอบสวนกลับมาอย่างไม่พอใจ “ไอ้เด็กคนนี้เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน? ขืนพูดมากน่ารำคาญอีกปู่ตงจะสังหารเข้าทิ้งแล้ว! รีบๆ คืนหมูสมบัติมาให้ข้า!”

เย่หยวนนั้นผงะไปไม่น้อย เด็กคนนี้พูดยังไม่ทันชัดคำแต่กลับวางท่าราวกับเป็นผู้อาวุโส เป็นความรู้สึกที่แสนแปลกประหลาดที่เด็กธรรมดาๆ ไม่มีวันมีได้

แต่ท่าทางโอหังของเด็กคนนี้มันทำให้เย่หยวนไม่พอใจอย่างมาก

เขาขมวดคิ้วแน่นและบอกตอบไป “เจ้าจะปล่อยไหม?”

เด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาตอบ “ไม่ปล่อย อย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

เย่หยวนหัวเราะร่าและยื่นมือออกไปจับคว้าแขนของเด็กคนนั้นไว้

แต่เด็กคนนั้นกลับหัวเราะตอบและเปลี่ยนร่างตัวเองให้ดูเบลอขึ้น

การคว้าจับนี้ของเย่หยวนกลับไม่ถูกโดนอะไรทั้งสิ้น!

เย่หยวนหรี่ตาลงทันทีด้วยความตื่นตกใจ “แนวคิดแห่งห้วงมิติ!”

เด็กคนนั้นแสดงสีหน้าสุดพึงพอใจออกมา “แค่นภาสวรรค์หนึ่งดาวกลับกล้าคิดว่าตัวเองเป็นคนใหญ่คนโต!”

เด็กคนนี้มีการปกปิดพลังที่เยี่ยมยอด แม้จะมองดูจากระยะนี้เย่หยวนก็ยังไม่อาจมองพลังที่แท้จริงของเด็กคนนี้ออกได้

แต่การได้เห็นแนวคิดแห่งห้วงมิติแบบนี้ เย่หยวนเพิ่งจะเคยได้เห็นคนอื่นใช้มันได้นอกจากตัวเขาเองและเล่งหยู

ที่สำคัญแนวคิดแห่งห้วงมิติของเด็กคนนี้มันไม่ได้อ่อนแอเลยด้วย

ระหว่างที่เด็กคนนั้นกำลังทำท่าทางได้ใจอยู่เย่หยวนก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นเยือกก่อนจะคว้ามือออกไปจับอีกครั้ง

เด็กคนนั้นหัวเราะออกมา “ไม่มีประโยชน์ พลังความสามารถของเจ้ามันไม่เพียงพอจะยกรองเท้าปู่ตงคนนี้เสียด้วยซ้ำ!”

ครั้งนี้เด็กน้อยก็ยังคิดจะหลบการคว้าจับของเย่หยวนด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติ

แต่น่าเสียดายที่การคว้าจับของเย่หยวนนั้นมันกลับพุ่งเข้ามาได้

ภายในมิตินี้ เย่หยวนกลับคว้าจับแขนของเด็กน้อยไว้ได้

เด็กคนนั้นหน้าซีดเผือดลงทันที “เจ้าเองก็รู้แนวคิดแห่งห้วงมิติ!”

เย่หยวนยิ้มออกมา “เจ้าคงไม่คิดว่าโลกใบนี้มีแค่เจ้าที่รู้มันหรอกใช่ไหม? ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเป็นลูกหลานบ้านไหนแต่ช่างซุกซนเหลือเกิน! วันนี้ข้าจะช่วยผู้ใหญ่ในตระกูลของเจ้าทำการสั่งสอนให้เอง!”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่คิดจะอธิบายใดๆ และจับตัวเด็กน้อยมาพาดตักไว้ปล่อยลงมือฟาดตีก้น

เด็กน้อยนั้นมีหนังหนาเนื้อบาง มีหรือที่จะรับฝ่ามือเหล็กของเย่หยวนไว้ได้?

แค่ตีไม่กี่ครั้งเด็กคนนั้นก็ร้องไห้ออกมา

“แง! แง! ปล่อยข้า! เจ้าเด็กนรกข้าจะสังหารเจ้า! ข้าจะสังหารเจ้า!”

ที่ด้านข้างชูเวินได้แต่มองภาพนี้ด้วยรอยยิ้ม

“หึๆ ความชั่วร้ายที่คนเราหามันเข้าตัวเองนั้นมันย่อมยากที่จะหลบเลี่ยงได้!”

ซู่เหยียนขมวดคิ้วทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

ชูเวินยิ้มเยาะออกมา “ช่วงนี้เด็กคนนั้นมันติดตามผู้อาวุโสตู้หรูเฟิงไปไหนมาไหนตลอด ผู้อาวุโสตู้หรูเฟิงเองก็เชื่อฟังและตามใจมันเสมอ สายสัมพันธ์ของทั้งสองคงไม่ธรรมดาแน่ แต่ตอนนี้เจ้าเด็กนั่นไปตีคนของผู้อาวุโสตู้หรูเฟิงเสียแล้ว พวกท่านคิดว่าผลที่ตามมามันจะเป็นอย่างไรเล่า?”

เมื่อคำพูดถูกกล่าว ซู่เหยียนก็หน้าถอดสีทันที

ไป่หลี่ชิงหลานที่มองดูภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มมาตลอดเมื่อได้ยินคำของชูเวินนางก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ผู้อาวุโสซู่ ผู้อาวุโสตู้หรูเฟิงคือใครกัน?”

ซู่เหยียนตอบกลับมาทั้งใบหน้าซีดๆ นั้น “กว่าสามแสนปีก่อนเขาคือยอดอัจฉริยะด้านการหลอมโอสถแห่งมิติอนัตตากอไผ่! ชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ครั้งนั้นเขาเข้าวิหารมาได้ด้วยอันดับหนึ่ง ตอนนี้เขาจึงได้กลายเป็นผู้อาวุโสระดับเทพถ่องแท้แล้ว”

นั่นทำให้ไป่หลี่ชิงหยานหน้าถอดสีตามๆ ไป ผู้อาวุโสของวิหาร แถมยังเป็นนักหลอมโอสถ นี่มันคือการท้าทายสุดยอดตัวตนผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

ชูเวินนั้นเป็นแค่ตัวตนน้อยๆ แสนกระจอกในวิหาร

แต่จอมเทพโอสถหกดาวนั้นมันเป็นตัวตนที่แสนยิ่งใหญ่

นางจึงรีบจะโกนร้องทันที “เย่หยวนหยุดตีได้แล้ว!”

เย่หยวนไม่คิดที่จะฟังและยังคงฟาดก้นเด็กน้อยไปเรื่อย

ตอนนั้นเองก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวลงมาราวสายฟ้า

ชายชราที่เพิ่งมาถึงคนนี้หันมองเย่หยวนด้วยท่าทางแสนโกรธแค้น “ไอ้เด็กคนนี้มันมาจากไหนถึงกล้ามา… มาตีตงน้อย!”

“โอ้ย! เจ็บ! ก้นข้า! ตู้หรูเฟิงรีบช่วยข้าหน่อย!” ตงน้อยร้องบอก

เพราะฝ่ามือของเย่หยวนนั้นมันแสนหนักหน่วงทำให้เด็กคนนี้เจ็บร้อนก้นไปหมด

เย่หยวนหันไปมองตู้หรูเฟิงและกล่าว “นี่เด็กบ้านท่านหรือ?”

ตู้หรูเฟิงนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าบอก “ใช่แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนจึงหยุดมือลงและโยนร่างของตงน้อยคืนให้แก่ตู้หรูเฟิง “เด็กในการดูแลของท่าน ท่านต้องสั่งสอนมันให้ดี ทำตัวกร่างราวตัวเองเป็นผู้อาวุโสเช่นนี้ พูดจาคำหนึ่งก็คิดจะสังหารผู้คน เด็กคนนี้มันมีพรสวรรค์มากท่านอย่าให้มันต้องกลายเป็นสิ่งชั่วร้ายเลย”

ตู้หรูเฟิงนั้นมีสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะรีบยื่นมือออกมารับร่างของตงน้อยไว้

ตงน้อยนั้นร้องไห้จนน้ำตานองหน้าด้วยท่าทางแสนเจ็บปวด

“ตู้… ปู่ตู้ ช่วยดูแผลให้ข้าหน่อย ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือนก้นข้าหายไปแล้ว ฮือๆ”

พูดไปตงน้อยก็ยกก้นขึ้นมาด้วยท่าทางแสนน่ารักน่าชัง

ตู้หรูเฟิงทำหน้าดำคร่ำเครียด เขาค่อยๆ ดึงกางเกงของตงน้อยลงก่อนจะพบว่าก้นของเด็กน้อยนั้นแดงอย่างมาก

เขากัดฟันแน่น “ไอ้เด็กคนนี้เจ้าช่างลงมืออย่างหนักหน่วงแท้! ดูท่าจะอยากตายเสียจริงๆ!”

ตู้หรูเฟิงเงยหน้าขึ้นมาด้วยคลื่นพลังของเทพถ่องแท้ ทำให้ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นของซีดเผือดลง

แต่เมื่อตู้หรูเฟิงหันมามองเย่หยวนอีกครั้งเขากลับพบว่าตอนนี้เย่หยวนกำลังย่อตัวลงและมีเจ้าหมูสมบัติกำลังดิ้นไปมาด้วยท่าทางแสนสุขอยู่ตรงหน้า

“อู๊ดๆ”

เจ้าหมูร้องออกมาด้วยท่าทางแสนสุขทำให้ตู้หรูเฟิงถึงกับผงะไป คลื่นพลังรุนแรงที่เคยปล่อยออกมาถึงกับหายไปในอากาศ

ตู้หรูเฟิงมองดูที่ตงน้อยอย่างตื่นตกใจก่อนจะถามออกมา “ตงน้อย นี่มัน…”

ตงน้อยนั้นหยุดร้องไห้ไปนานแล้ว ตอนนี้ดวงตาของเขามองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึง

เมื่อได้ยินเสียงถามของตู้หรูเฟิงเขาก็เงยหน้าขึ้นบอก “หมูสมบัติมันไม่เคยจะร้องด้วยท่าทางแสนสุขเช่นนี้มาก่อนเลย! ไอ้เด็กคนนี้มันทำได้อย่างไร?”

“ครืดๆ!”

เจ้าหมูสมบัติตัวน้อยร้องออกมาด้วยท่าทางแสนสุข เมื่อมันกินโอสถในมือของเย่หยวนจนสิ้นแล้วมันก็ทิ้งตัวลงกับพื้นนอนหลับอย่างสบายใจในทันที

เย่หยวนจึงหยิบตัวของเจ้าหมูสมบัติที่นอนอยู่และส่งมันคืนให้ตงน้อย “เด็กน้อยเจ้าอย่าได้ร้องบอกจะสังหารผู้คนทุกคำพูดอีก เจ้าหมูตัวนี้มันเพียงแค่หิว แค่ให้อาหารมันกินเจ้าทำไม่เป็นหรือ?”

…………………………