บทที่ 2691 ครรภ์มาร
นั่นคืออะไร?
แม้ตี้ฝูอีจะมีความรู้กว้างขวาง ก็ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน
ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่งกลับมาถึงทวีปซิงเยวี่ย แล้วพุ่งตรงมายังที่นี่เลย ยังไม่ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ของทวีปนี้ ยังคงมึนงงอยู่ เพียงสัมผัสได้รางๆ ว่ารัศมีของทวีปนี้เปลี่ยนไป ทว่าเขายังไม่มีเวลาตรวจสอบไปชั่วขณะ!
ทันทีที่เห็นเจ้าสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารถึงเพียงนั้นลอยขึ้นมา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองอยู่หลายครา สัญชาตญาณก็ต้องการให้เหาะเข้าไปดู
เขาเป็นคนขี้สงสัยเสมอมา และสนใจใฝ่รู้ด้วย ในช่วงเวลาอันยืนยาว เขาชอบเสาะแสวงหาเรื่องที่สามารถดึงดูดความสนใจของตนได้อยู่เสมอ ตอนนี้พอเห็นสิ่งที่คล้ายทองคล้ายเหล็ก สีเทาเงินแวววาว หมุนวนล่องลอยขึ้นไป ก็กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเขาขึ้นมาแล้ว…
“ท่านพ่อ! พี่สาวที่นามว่าจิ้งจอกน้อยผู้นี้ค่อนข้างผิดปกตินะ ต้องรักษานางให้หายดีไหม?” ตี้เฮ่ากอดขาตี้ฝูอีเอาไว้ กันไม่ให้บิดาของเขาชักเท้าจากไป
ตี้ฝูอีหลุบตามองบุตรชาย บุตรชายเงยหน้าเบิกตามองเขาอย่างจริงจัง คล้ายจะสื่อว่าข้าจริงจังอยู่นะ
บุตรชายคนนี้มิได้มีนิสัยใจบุญ เขาไม่มีทางจะกระตือรือร้นอยากช่วยเหลือทั้งสองคนที่นับว่าเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขา เขาทำเช่นนี้จะต้องมีเหตุผลของเขาอยู่แน่…
ในที่สุดตี้ฝูอีก็สะกดความสนใจใคร่รู้ลงไป มองไปที่จิ้งจอกน้อย คิดจะดูว่านางยังมีอะไรที่ผิดปกติอยู่
ด้วยการตรวจดูครั้งนี้ หัวใจพลันสั่นไหว ก้าวเข้าไป มองสีหน้าของนาง คิ้วคมขมวดแน่น
หลานไว่หูถูกเขามองแล้วขนลุกอยู่บ้าง ถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ “ข้า…ข้าเป็นอะไรหรือ?” คล้ายว่านางจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยชี้แจง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้า…ดูเหมือนข้าจะถูกสลับร่างเหมือนกัน ความทรงจำขาดหายไปเป็นช่วงๆ รูปโฉมก็เปลี่ยนไป…”
นางชูมือขึ้นมาแล้วมองดูมือตน “ร่างนี้น่าจะ…น่าจะไม่ใช่ของข้า…”
“ร่างนี้เป็นของเจ้า!” ตี้ฝูอีตัดบทนาง
“หา?” หลานไว่หูเบิกตากว้าง หลังจากนางรู้ว่าระยะนี้ข้างกายเยี่ยนเฉินยังมีหลานไว่หูอีกคนอยู่ และหลังจากที่รูปโฉมของตนค่อยๆ เกิดความเปลี่ยนแปลง นางก็สงสัยแล้วว่าตนถูกสลับร่าง หาไม่แล้วเด็กในท้องจะหายไปได้อย่างไร? ความทรงจำก็ขาดหายไปเป็นช่วงๆ ซ้ำยังถูกคนที่เรียกว่าตวนมู่เหยี่ยนผู้นั้นควบคุมอยู่เสมอด้วย กระทำบางอย่างที่ตัวนางเองก็ไม่อาจหาคำอธิบายได้…
นางเอ่ยข้อสงสัยของตนออกมา สุดท้ายก็กล่าวว่า “หากว่านี่คือร่างของข้า เช่นนั้นอายุครรภ์ข้าน่าจะกว่าสี่เดือนแล้วสิ หน้าท้องสมควรนูนเด่นแล้ว แต่มันยังราบเรียบอยู่ตลอด…”
“ยื่นมือมาให้ข้า” ตี้ฝูอีเอ่ยสั้นๆ
หลานไว่หูยื่นมือให้อย่างว่าง่าย ตี้ฝูอีตรวจชีพจรผ่านแขนเสื้อของนาง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ตี้ฝูอีก็ผละจากนาง เอ่ยเรียบๆ “เจ้าไม่เคยท้อง”
หลานไว่หูตกตะลึง เอ่ยโพล่งออกไป “เป็นไปได้ยังไง? ข้าท้องนะ หมอของสำนักศึกษาสวรรค์ก็วินิจฉัยไว้ชัดเจนว่าข้าท้อง แถมตอนที่ข้ายังไม่ถูกจับมา ท้องก็นูนขึ้นมานิดหน่อยแล้วด้วย!”
ตี้ฝูอีตอบไปว่า “นั่นเป็นเพราะเจ้ามีครรภ์มาร”
หลานไว่หูตะลึงงัน นางทึ่มทื่อไปแล้ว!
ตี้ฝูอีจึงอธิบายแก่นางอย่างรวบรัด “ครรภ์มารนี้เกิดขึ้นจากไอมารชนิดหนึ่ง มิใช่การตั้งครรภ์จริง และสิ่งที่คล้ายทารกในครรภ์ก็ก่อตัวขึ้นจากไอมาร หากไม่มีไอมารกระตุ้น มันจะเติบโตอยู่ในท้องของเจ้าอย่างเงียบเชียบ คล้ายกับการตั้งครรภ์ของมนุษย์ ขยายใหญ่ขึ้นตามอายุครรภ์ แต่ถ้าถูกกระตุ้นด้วยไอมารจากภายนอก มันจะค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่เส้นเลือดเจ้า กัดเซาะจิตวิญญาณของเจ้า ทำให้นิสัยเจ้าอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ กระหายเลือดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากข้าเดาไม่ผิด ช่วงที่ผ่านมาเจ้าคงต้องการกินสิ่งมีชีวิตแบบเป็นๆ บางอย่างแน่นอน สูบกลืนโลหิต กัดกินเนื้อสด ความหิวกระหายถึงจะบรรเทาลง ใช่หรือไม่?”
————————————————————————————-
บทที่ 2692 ครรภ์มาร 2
หลานไว่หูหน้าซีดเผือด พยักหน้านิดๆ “ใช่!”
“มันจะเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของเจ้า ทำให้เจ้าหวนคืนสู่บรรพชน ดูจากรูปโฉมของเจ้าแล้ว บรรพบุรุษที่เจ้าสืบสายเลือดมาน่าจะเป็นราชครูของเผ่าจิ้งจอกครามเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน”
หลานไว่หูโพล่งออกไปทันที “ข้าไม่อยากหวนคืนบรรพชน! ข้าต้องการรูปโฉมเดิมของตน!”
“เมื่อกำจัดครรภ์มารแล้วเจ้าย่อมฟื้นฟูกลับเป็นปกติ ไม่ต้องกังวลไป”
หลานไว่หูหลุบตาลงเล็กน้อย ในใจมีความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้
นางตั้งตารอเด็กคนนี้มาโดยตลอด ต่อมาพอถูกจับตัว ยามที่ในใจกระจ่างขึ้นมาเล็กน้อย นางลูบหน้าท้องของตนนึกว่าตนคงแท้งเสียแล้ว ยังเสียใจยิ่งนักอยู่พักหนึ่งด้วย
ต่อมานางรู้ว่าข้างกายเยี่ยนเฉินมีหลานไว่หูตัวปลอม ซ้ำยังเคยบังเอิญพบเห็นอยู่หนหนึ่งด้วย เห็นว่านางตั้งครรภ์อยู่ นางหลงนึกว่าตนถูกสลับร่าง แต่ลูกยังอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ดีในร่างนั้น ไม่นึกเลย…
จู่ๆ คล้ายว่านางจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยอย่างร้อนรน “ไม่ถูกสิ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย หลานไว่หูที่สวมรอยเป็นข้าคนนั้นก็ท้องนะ ไม่เชื่อท่านก็ถามเยี่ยนเฉินดู…”
เยี่ยนเฉินกำลังนั่งสมาธิฟื้นฟูตามที่ตี้ฝูอีสั่งการ ไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา
ตี้ฝูอีมองเขาแวบหนึ่งก็ทราบแล้วว่าตอนนี้เข้าอยู่ในช่วงสำคัญของการฝึกยุทธ์ จึงถามหลานไว่หูโดยตรง “สรุปแล้วเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่? เล่ามาโดยสังเขป!”
หลานไว่หูไม่กล้าชักช้า บอกเล่าเรื่องที่ชาวดาวจิ้งจอกครามเข้ารุกรานรวมถึงจับกุมตนในช่วงที่ผ่านมา โชคดีที่นางพูดจากระชับได้ใจความ และเล่าได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง สุดท้ายนางได้เอ่ยว่า “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ตอนที่ข้ากับตวนมู่เหยี่ยนและทหารพวกนั้นดื่มสุรากัน สามารถมองเห็นเยี่ยนเฉินกับหลานไว่หูตัวปลอมได้ด้วย รูปโฉมของนางเหมือนตัวข้าในอดีตทุกประการ แยกไม่ออกเลย แถมอายุครรภ์ก็เป็นไปตามปกติ มิเช่นนั้นเยี่ยนเฉินคงไม่เชื่อนางขนาดนี้…” กล่าวมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง
ตี้ฝูอีหลุบตาลง นับนิ้วทำนายอยู่ในแขนเสื้อ ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง “หรือว่าในครรภ์เจ้าจะเป็นกู่แม่ลูกทาบกิ่ง?”
หลานไว่หูมองเขาอย่างงุนงง เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจ
สีหน้าตี้ฝูอีเคร่งขรึมขึ้นมาแล้ว
สำหรับการรุกรานของเผ่าจิ้งจอกครามเขาไม่เก็บมาใส่ใจนัก เมื่อเขากลับมาแล้ว ย่อมต้องขับไล่ผู้รุกรานเหล่านี้ออกไป! ทำให้ทวีปนี้กลับเป็นปกติสุข
แต่สำหรับกู่แม่ลูกทาบกิ่งนี้ หากว่าเป็นสิ่งนี้จริงๆ นั่นก็เป็นหายนะอย่างใหญ่หลวงแล้ว!
ที่อยู่ในตัวหลานไว่หูคือกู่ตัวแม่ สันดานมารของมันจะทำให้นิสัยของคนผู้หนึ่งค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป เจ้าอารมณ์ดุร้าย เข่นฆ่าสังหารปรวนแปร และไอมารที่เกิดจากการสังหารฆ่าฟันนี้จะถ่ายทอดกลับไปยังกู่ตัวลูก ทำให้กู่ตัวลูกเติบใหญ่แกร่งกล้า
หลังจากพัฒนาขึ้นแล้วจะไม่อาจควบคุมได้ คนที่ตั้งครรภ์กู่ตัวแม่จะถูกยั่วโมโหได้ง่ายดายยิ่ง ตกอยู่ในสภาวะขาดความยับยั้งชั่งใจ ทำให้คนกระทำเรื่องที่จะนึกเสียใจในภายหลังออกมา และตัวคนก็รับรู้ได้แจ่มแจ้ง เมื่อได้สติแล้วจะสำนึกเสียใจ ใจสลาย ตกอยู่ในสภาวะคุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม บังเกิดเป็นไอมารมหาศาลอัดแน่นอยู่ในหัวใจ จากนั้นก็ส่งต่อไปยังกู่ตัวลูกอีกครั้ง ทำให้กู่ตัวลูกแข็งแกร่งยิ่งขึ้น…
เมื่อกู่ตัวลูกโตเต็มวัยแล้ว จะกลายเป็นตัวอ่อนมารที่แท้จริงโดยตัวเอง ตัวอ่อนมารนี้จะมีลักษณะของมารขนานแท้ ดุร้ายอย่างยิ่ง แถมยังเข่นฆ่าจนเป็นสันดาน ไม่ว่าเทพหรือมนุษย์ หากถูกมันทำร้าย เบาหน่อยก็สูญเสียความทรงจำไปอย่างสิ้นเชิง หนักหน่อยก็สิ้นชีพ ดวงวิญญาณจะถูกจองจำไว้ในครรภ์มาร กลายเป็นสารอาหารให้มัน
กู่แม่ลูกทาบกิ่งชนิดนี้ตี้ฝูอีก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ยังคงเป็นหนิงเสวี่ยโม่มารดาของเขาเล่าให้เขาฟังในสมัยก่อน
หนิงเสวี่ยโม่เป็นจอมมาร มีสัมผัสเฉียบไวต่อสิ่งเหล่านี้เป็นพิเศษ ลูกน้องคนหนึ่งของนางก็เป็นปรมาจารย์กู่ รู้จักกู่ชนิดนี้