ลู่ฝานกวาดตามองพวกเขา เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว

อย่าบอกนะว่าอริยปราชญ์ดวงดาวดูอะไรออกแล้ว

ใจสั่นอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ลู่ฝานเริ่มพิจารณาว่าจะอยู่ในเจดีย์ยาต่อไปได้อีกหรือเปล่า

เฮ่อจงและคนอื่นเห็นสีหน้าลู่ฝานผิดปกติ จึงรีบพูดว่า “เรามาแจ้งนายแล้ว ลู่ฝาน นายไปทำธุระของนายเถอะ พวกเราไปละ!”

เมื่อพูดจบ เฮ่อจงและคนอื่นหันหลังเดินออกไป ไม่มีโอกาสให้ลู่ฝานปฏิเสธเลย

ลู่ฝานมองด้านหลังของพวกเขา ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย

เฮ่อจงพูดเสียงเบาว่า “ท่านซู ต่อไปห้ามหาเรื่องเขาอีก หาเรื่องแบบไหนก็ไม่ได้ บอกให้เด็กพวกนั้นพูดจาดีๆ ด้วย เราล่วงเกินเด็กคนนี้ไม่ได้”

ตาเฒ่าซูถอนหายใจแล้วพูดว่า “ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมอริยปราชญ์พวกนั้น ถึงให้ความสำคัญกับเขาขนาดนี้ ขนาดอริยปราชญ์ดวงดาวยังกลับคำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เกือบเอาป้ายจัดการดูแลคืนให้เขาด้วย ก็แค่มีแสงขึ้นมาตอนที่ทะลุระดับ นี่……”

ตาเฒ่าซูพูดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว สิ่งที่ไม่ธรรมดาของลำแสงนั้น ถึงเป็นคนตาบอดก็มองออก การที่เขาพูดแบบนี้ออกมาในตอนนี้ ก็เพราะต้องการเหลือศักดิ์ศรีสุดท้ายให้ตัวเอง

ศักยภาพของลู่ฝาน ทำให้อริยปราชญ์ในเจดีย์ยาให้ความสำคัญ และออกคำสั่งให้ทำความรู้จัก

ต่อไปขอแค่ลู่ฝานไม่ตาย ฐานะต้องสูงกว่าพวกเขาแน่นอน ตาเฒ่าซูก็ไม่กล้าล่วงเกินลู่ฝานอีก ตอนนี้ขืนพูดมากอีก อาจนำไปสู่โทษฆ่าผู้มีเมตตาในอนาคต ตอนนี้ตาเฒ่าซูรู้สึกเสียใจที่ในตอนแรกใจร้ายกับลู่ฝานขนาดนั้น

ในเวลานี้ เรื่องที่ลู่ฝานสู้กับแปดผู้โดดเด่น เริ่มถูกพูดถึงในเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว

คนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นจำนวนมาก เอาการต่อสู้ของลู่ฝานกับแปดผู้โดดเด่น แบ่งออกเป็นห้าบทสิบแปดบทย่อย นำไปเล่าขานทุกที่ พรรณนาภาพการต่อสู้ได้อย่างมีสีสัน ออกรสออกชาติ ทำให้กลุ่มคนนับไม่ถ้วนที่ไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองที่เจดีย์ยา ถอนหายใจด้วยความเสียดาย ที่ตอนนั้นทำไมตัวเองไม่อยู่ที่นั่น

ชัยชนะของลู่ฝาน ทำให้คนนับไม่ถ้วนประหลาดใจและชื่นชม

แปดผู้โดดเด่นของจวนไท่จื่อ มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานาน ใครจะไปคิดว่าคนธรรมดาอย่างลู่ฝาน จะสามารถจัดการพวกเขาได้เกือบครึ่ง

จะมีก็แค่จางกวังที่ยังไม่แพ้ เป็นสิ่งปกปิดความอัปยศอดสูสุดท้ายของแปดผู้โดดเด่น ถ้าแม้แต่จางกวังก็ยังแพ้ งั้นวันนี้ชื่อเสียงของแปดผู้โดดเด่นต้องย่อยยับแน่นอน!

ด้วยเหตุนี้ คนนับไม่ถ้วนต่างรอคอยการต่อสู้ของจางกวังกับลู่ฝาน ช่วงเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี

นี่คงเป็นการต่อสู้ถึงตายของนักบู๊อายุน้อยที่แข็งแกร่งที่สุด ในช่วงสองสามปีที่คนอายุน้อยของสิบตระกูลใหญ่เก็บตัวปลีกวิเวก

ข่าวแพร่กระจายไปเรื่อยๆ ในคืนวันเดียวกันก็มาถึงในสิบตระกูลใหญ่

ที่ตระกูลหาน หานอู๋ซวงดึงหานหยวนหนิงมาถามว่า “สู้กับสองคนนี้ นายมีโอกาสชนะไหม”

หานหยวนหนิงไม่ตอบ แต่ดึงอาวุธของตัวเองออกมาเงียบๆ

ที่ตระกูลเทียน เทียนชิงหยางได้ยินข่าวนี้ เขาทำแค่ยิ้มอย่างเฉยเมย แล้วพูดว่า “มดสองตัวทะเลาะกัน ยังทำให้ใหญ่โตขนาดนี้ น่าเบื่อ ไม่อยากดู”

เพิ่งพูดจบ อู่คงหลิงที่นั่งตรงข้ามเขา กลับยิ้มอย่างเฉยเมยแล้วพูดว่า “ฉันอยากดู!”

เทียนชิงหยางอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเสียงดังว่า “งั้นก็ดู เอาที่นั่งดีที่สุด ไปดูด้วยกัน”

ที่ตระกูลสุ่ย ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนธารน้ำแข็ง เขาลืมตาขึ้นช้าๆ ฟังรายงานจากลูกน้อง เขายิ้มแล้วพูดว่า “การต่อสู้ของจางกวัง ยังพอดูได้ ไม่รู้สองสามปีมานี้ เขาก้าวหน้าไปเท่าไรแล้ว”

ที่ตระกูลถานไถ ผู้หญิงชุดแดงพูดอย่างเฉยเมยว่า “ทะเลาะกันมีอะไรน่าดู ฉันถามแค่ว่าสองคนนี้หล่อไหม”

สาวใช้ด้านหลังตอบว่า “จางกวังเป็นสายเลือดมนุษย์เผ่ามังกร ถ้าดูประเมินตามความงามของมนุษย์เผ่ามังกร ก็ถือว่าหล่อมากค่ะ ส่วนลู่ฝาน ได้ยินว่าเป็นหนุ่มที่หล่อไม่เบาเลยค่ะ”

ผู้หญิงชุดแดงยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อมีหนุ่มหล่อ งั้นไปดูเถอะ เทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี อืม น่าจะมีหนุ่มหล่อไปดูไม่น้อย”