บทที่ 835 ไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของหัวหน้าเผ่า

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 835 ไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของหัวหน้าเผ่า
ลูกน้องของรองหัวหน้าเผ่าซือคงลงมือรวดเร็วเกินไป เวินเส้าหยีอยากจะหยุดยั้งก็ไม่ทันแล้ว จึงทำได้เพียงมองดูพวกเขาถูกปาดคอไปต่อหน้าทีละคน

ในเผ่าหยก เพราะความเป็นความตายอยู่ตรงข้ามกัน ลูกศิษย์ของเผ่าเทียนเฟิ่นถูกฆ่าก็ยังพูดได้

แต่นี่คือเผ่าเทียนเฟิ่น

ลูกศิษย์หลายสิบคนถูกฆ่าตายอย่างน่าอนาถแบบนั้น

เวินเส้าหยีรับไม่ได้เล็กน้อยแล้ว

กู้ชูหน่วนที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน อยู่ในที่ที่คนอื่นมองไม่เห็น มองดูแต่ละฉากที่เกิดขึ้นที่นี่อย่างเย็นชา

จนกระทั่งบัดนี้

นางสงสัยอยู่ในใจเล็กน้อย

ตอนนั้นที่รองหัวหน้าเผ่าซือคงปล่อยข่าวว่านางมีมุกมังกรเม็ดที่เจ็ดอยู่กับตัว ล่อให้ทุกสำนักในโลกหล้ามาตามไล่ฆ่านางก็แล้วไป

ก็กลัวเพียงแค่รองหัวหน้าเผ่าซือคงจะกระจายข่าวหรือปลุกปั่นอะไรบางอย่างในเผ่าเทียนเฟิ่นอีก

เพื่อล่อลวงให้สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสี่ที่มีใจเป็นห่วงเวินเส้าหยีนำลูกศิษย์คนสนิทฝีมือดีสองพันกว่าคนไปที่เผ่าหยก

เขา……

คิดจะทำให้พวกเขากับเผ่าหยกของพวกนางพ่ายแพ้ย่อยยับกันไปทั้งสองฝ่าย สุดท้ายก็นั่งเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์

แผนการช่างชั่วร้ายมากจริงๆ

หากว่าพวกเขาชนะ เขาก็ถือโอกาสทำลายล้างเผ่าหยกได้พอดี

หากว่าพวกเขาแพ้ เขาก็สามารถฉวยโอกาสขจัดคนที่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันได้ ก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์

เพื่อผลประโยชน์ของตัวเขาเอง ก็สามารถให้ลูกศิษย์ในเผ่าสองพันกว่าคนไปเป็นเกราะป้องกันได้ จิตใจของเขาเรียกได้ว่าโหดเหี้ยมมาก

กู้ชูหน่วนสามารถเดาได้ คนที่ฉลาดขนาดนั้นอย่างเวินเส้าหยี จะเดาไม่ออกได้อย่างไร

เพียงแต่เขาไม่เต็มใจจะเชื่อมาตลอด และไม่กล้าเชื่อเช่นกัน

เวินเส้าหยีกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “พวกเขาล้วนเป็นพี่น้องที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อเผ่าหยก ยี่สิบกว่าชีวิตเต็มๆ จิตใจของรองหัวหน้าเผ่าไม่เจ็บปวดบ้างหรือ?”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงกล่าวไปตามเหตุผล “ข้าเพียงแค่ชำระสะสางเรื่องในเผ่าเท่านั้น เรื่องของสวีชิงและคนอื่นๆจัดการเสร็จแล้ว ตอนนี้ควรจะเป็นคราวของหัวหน้าเผ่าน้อยแล้วหรือไม่? หัวหน้าเผ่าน้อยกล่าวมาตลอดว่า เป็นเพราะสุดยอดผู้อาวุโสสี่ท่านและลูกศิษย์ในเผ่าสละชีวิตเพื่อช่วยเจ้า สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยก็เผาจิตวิญญาณ ส่งเจ้าออกมาจากค่ายกลขนส่งของเหวลึกอนันต์ เจ้าจึงได้มีชีวิตรอดออกมาได้ ขอถามว่ามีหลักฐานอะไรหรือไม่?”

“ไม่มี”

คนที่เข้าไปที่เผ่าหยกตายไปหมดเกลี้ยงแล้ว

เขาจะมีหลักฐานอะไรได้

“ในเมื่อเจ้าไม่มีหลักฐาน พวกเราจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”

“ข้าเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น ทำไมจะต้องโกหกด้วย?”

“ไม่ เจ้าไม่ได้เป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น และเจ้าก็ไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของหัวหน้าเผ่าด้วย”

ตื้ด……..

ประโยคหนึ่งนี้ของรองหัวหน้าเผ่าซือคงที่ระเบิดออกมาทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตะลึงตาค้างไปแล้ว

เขาไม่ใช่ลูกชายของหัวหน้าเผ่า?

นี่จะเป็นไปได้อย่างไร…….?

เขาไม่ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าเผ่าน้อยตั้งแต่เด็กๆแล้วหรือ?

สายเลือดของเผ่าเทียนเฟิ่นจะผสมปนเปมั่วซั่วได้อย่างไร?

เวินเส้าหยีหัวเราะกลับด้วยความเดือดจัด

เพื่อจะลากเขาลงมา เขาทำได้ทุกอย่าง

รองหัวหน้าเผ่าซือคงกวาดตามองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวทีละคำอย่างชัดเจน

“ตอนนั้นฮูหยินชิวแต่งงานกับหัวหน้าเผ่า ในท้องของนางก็ตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว หัวหน้าเผ่าก็รู้เรื่องนี้ เขาคิดจะหย่ากับฮูหยินชิวอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ครอบครัวของฮูหยินชิวมีอิทธิพลแข็งแกร่งเกินไป และหัวหน้าเผ่าก็เพิ่งจะครองตำแหน่งหัวหน้าเผ่าได้ไม่นาน จำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพของเผ่าเทียนเฟิ่น และให้ฮูหยินชิวอยู่ต่อ”

“คิดว่าหลายคนที่ตรงนี้ก็รู้ ก่อนที่ฮูหยินชิวจะแต่งงานกับหัวหน้าเผ่าได้มีความสัมพันธ์อย่างชิดใกล้กับผู้อาวุโสซ่งที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่งานกับหัวหน้าเผ่าได้ไม่กี่วัน ฮูหยินชิวก็ทะเลาะกับหัวหน้าเผ่า ตอนนั้นเรื่องนี้วุ่นวายดังสะเทือนเผ่าเทียนเฟิ่นเป็นอย่างมาก”

ทุกคนถกเถียงกัน

ตอนนั้นมีเรื่องนี้จริงๆ

ในเผ่ามีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของฮูหยินชิวและผู้อาวุโสซ่ง แต่หัวหน้าเผ่าออกหน้าปราม เรื่องนี้จึงได้ผ่านไป

และเรื่องการทะเลาะวิวาทกันอย่างใหญ่โตของฮูหยินชิวกับหัวหน้าเผ่า ในตอนนั้นก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร

เพียงแค่ไม่มีคนรู้ว่าพวกเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร รู้เพียงแค่การทะเลาะกันครั้งนั้นรุนแรงมาก