บทที่ 2080 – อย่าแม้แต่จะคิด

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2080 – อย่าแม้แต่จะคิด
  ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวว่า “ท่านปู่ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลเด็กโง่คนนี้อย่างดีไปชั่วนิรันดร์ จะไม่มีใครมารังแกเธอ ข้าจะทำให้เธอเป็นผู้ที่มีความสุขและโชคดีที่สุดในโลก”
  “ฮ่าฮ่าฮ่า ดีมากเจ้าหนูน้อย เจ้าจะต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ข้าไว้วางใจในการตัดสินใจของนาง ผู้ชายที่นั่งเพ้อฝันถึงจะต้องไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา ข้าอายุมากแล้ว แล้วเจ้าเองก็โตแล้วเหมือนกัน เจ้าประสบความสำเร็จมากมาย แต่เจ้าก็จงอย่าลืมพื้นฐานของตัวเอง”ปู่ฉีกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
  เฉินหวงเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายแต่เธอก็ยังคงยิ้ม “ท่านปู่ฉี ท่านเองก็เป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดของข้าและเป็นครอบครัวที่ข้ารัก ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ข้าคงไม่อาจเอาชีวิตรอดมาได้หากไม่มีท่าน”
  “เจ้าจะยังอยู่ได้โดยไม่มีข้า ในอนาคตเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดของเจ้า ให้โอกาสเขาและตัวเอง ข้าขอให้เจ้ามีความสุข นี่คือความปรารถนาสูงสุดของข้าที่อยากจะเห็นจากตัวเจ้า การได้เห็นเขาอยู่กับเจ้าข้าก็โล่งใจ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ต้องกังวล แต่ข้าก็เชื่อมั่นในการตัดสินใจของเจ้า เจ้าจะได้อยู่กับเขาไปตลอดกาล”
  คุณปู่ฉีกล่าวยังมีความสุขระบุว่าเขาได้เห็นความสุขที่ชิงสุ่ยและเฉินหวงประสบ
  ในขณะเดียวกันเฉินหวงก็หน้าแดงและกล่าวถามว่า “ท่านปู่ ท่านคิดว่าพวกเราสองคนเหมาะสมกันจริงเหรอ?”
  “ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ว่าตัวเจ้าจะคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ก็ตาม ข้าคิดว่าตัวเจ้าน่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว เอาล่ะ ข้าคงต้องจากไปก่อน ข้าเหลือเวลาอีกไม่มาก และข้าเองก็ยังมีธุระที่ต้องทำไม่เสร็จ”ปู่ฉีลุกขึ้นยืนและเดินหันหลังกลับทันทีที่กล่าวจบ
  “ท่านปู่ฉี ชิงสุ่ยเป็นหมอที่เก่งกาจมาก ให้เขาดูอาการท่านเถอะ!!”เฉินหวงกล่าวอย่างรีบเร่ง  “อายุขัยของข้ากำลังจะหมดลง แม้แต่เทพก็ช่วยข้าไม่ได้ นอกจากนี้เวลาก็กำลังบอกข้าว่าก็ต้องไป เจ้าเองก็เป็นอิสระแล้ว ทุกคนทุกชีวิตล้วนต้องตาย ดังนั้นการพยายามฝืนมีชีวิตต่อไปก็ไร้ความหมาย มันถึงเวลาต้องพักผ่อน”
  ปู่ฉีเดินหายจากไป
  เฉินหวงรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เธอมองที่ลานย่าด้วยความรู้สึกที่เกิดพรรณนา ปู่ฉีเป็นคนตลาด เธอรู้ว่าเขาคอยช่วยเหลือเธออยู่อย่างลับๆ และคอยกำจัดคนที่คอยคุกคามเธอ แม้จะไม่มีหลักฐานใดๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าเป็นปู่คนนี้ที่คอยช่วยเหลือ
  คุณปู่ฉีปฏิบัติต่อเฉินหวงราวกับลูกสาวของตน ความสามารถของเขาก็อยู่ในระดับที่เกินความหยั่งรู้ และโดยปกติแล้วเขาเองก็ไม่เปิดเผยตัวตน
  ผู้คนในเมืองวิหคเพลิงต่างรู้จักชายชราเป็นอย่างดี แต่กลับไม่มีใครรู้ถึงความแข็งแกร่งและภูมิปัญญาของเขา  เฉินหวงตระหนักดีว่าผู้คนนี้จะไม่กลับมา ถึงเธอจะยอมรับแต่เธอก็ยังคงเศร้า การแสดงออกภายนอกจำเป็นต้องเข้มแข็ง เธอหันกลับไปมองชิงสุ่ย “ไปที่โรงเตี๊ยมใหญ่ในเมืองวิหคเพลิงเพื่อดื่มกันเถอะ”
  โรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองวิหคเพลิงเป็นที่รู้จักกันทั้งโลก
  ชื่อของมันก็คือภัตตาคารหอมหมื่นลี้
  ชื่อของมันอาจจะดูเกินจริง แต่กลิ่นหอมของสุรานั้นรุนแรงจนปฏิเสธไม่ได้ ในเมืองวิหคเพลิง ภัตตาคารแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน ชิงสุ่ยและเฉินหวงเลือกที่นั่งใกล้หน้าต่าง
  ผู้คนที่นี่ดูเหมือนจะไม่รู้จักเฉินหวง จริงๆแล้วชิงสุ่ยก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้สถานะของเฉินหวง หาคนนอกมองเฉินหวง พวกเขาจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจเท่านั้น
  “มา เดี๋ยวข้าจะเล่าเรื่องที่ทำให้ท่านต้องตกใจ”   ชายหนุ่มเฉลียวฉลาดที่อยู่โต๊ะด้านข้างกล่าว
  โต๊ะนั้นมีคนนั่งอยู่ 8 คน หากนับตามเสื้อผ้าและกิริยามารยาทแล้ว พวกเขาจะต้องเป็นคนชั้นกลางที่อาศัยในเมืองวิหคเพลิง ชีวิตของพวกเขาไม่ได้เลวร้าย แต่ก็อยู่บนเส้นด้ายความเป็นความตาย บนตัวพวกเขายังคงมีกลิ่นอายเหม็นคลุ้งเลือด
  “เรื่องอะไรหรือ? ยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้พวกเราตกใจได้อีก”เพื่อนคนหนึ่งที่พูดไม่ชัดกล่าวถาม เขามีผมที่ยุ่ง แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด
  “หลางซาน มีข่าวลือเล่ากันว่าเทพธิดาแห่งเมืองวิหคเพลิง คนที่เจ้านับถือและเป็นเทพธิดาในใจของเจ้า ได้ถูกใครบางคนกุมหัวใจไปแล้ว”ชายที่ดูเฉลียวฉลาดเลอซ่านกล่าวด้วยน้ำเสียงบางเบา
  เฉินหวงมือสั่นเล็กน้อย ชิงสุ่ยจ้องมองเฉินหวงและกล่าวติดตลกว่า “ข่าวแพร่กระจายเร็วยิ่งนัก ตัวข้าเองยังไม่ได้เป็นของท่านเลย”   “ไปตายซะ!!”
  ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เฉินหวงอารมณ์ไม่ดีนะ เธอไม่เคยคุยกับผู้ชายในเรื่องแบบนี้มาก่อน เธอทั้งรู้สึกโกรธแล้วรู้สึกดีโดยที่ไม่รู้ตัว มันเหมือนกับสามีที่ทะเลาะกับภรรยา
  “หญิงสาวผู้นี้มีเสน่ห์เหลือเกิน ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่ข้าที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อเธอ เพียงแต่ค่าโชคดีที่เข้าหาเธอก่อน”ชิงสุ่ยยกจอกสุราขึ้น
  “ท่านพูดเป็นคนปกติไม่ได้หรือไง?”
  ………….
  “การมาถึงของผู้ลึกลับในเมืองวิหคเพลิง ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะทำบางอย่างกับภูเขาวิหคเพลิง ท่านคิดว่าเราควรจะไปแจ้งให้แม่นางวิหคเพลิงทราบหรือ?”เลอซ่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเบา
  “บุคคลลึกลับ? หรือว่าเขามีแรงจูงใจแอบแฝงต่อภูเขาวิหคเพลิง?”หลางซานถามอย่างสับสน  “ข้าได้ยินมาว่าคนผู้นั้นสนใจในหุบเขาวิหคเพลิง โดยเฉพาะในเรื่องสมบัติที่ซ่อนอยู่ในหุบเขา เรื่องสมบัติเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปได้ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามาจากไหน และความตั้งใจที่แท้จริงคืออะไร เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาคิดจะทำร้ายแม่นางวิหคเพลิง”
  ชิงสุ่ยจ้องมองเฉินหวงด้วยสีหน้าตกใจ ชิงสุ่ยทำลายค่ายกลในหุบเขาวิหคเพลิงแล้ว ห้องโถงพระราชวังก็ถูกทำลาย แต่ความตกใจของเขาคือทำไมคนเหล่านี้ถึงรู้เรื่องพระราชวังปีศาจ หรือว่าพวกเขาแค่มองหาสมบัติ
  พวกเขาอาจจะเป็นคนของพระราชวังปีศาจ? หรือไม่ก็อาจเป็นผู้สืบทอดมรดกแห่งราชาปีศาจ?
  ถ้าหากพวกเขามาจากพระราชวังปีศาจจริง พวกเขาจะต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับเตียงหินหยกเยือกแข็ง และเข้ามาในเมืองเพื่อตามหามัน  ทั้งคู่ไม่พูดอะไรมาก ทั้งสองคนยังคงดื่มสุราและมองหาห้องพัก
  นี่คงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยได้เช่าห้องอยู่ร่วมกับผู้หญิง ความคิดของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรุนแรง
  ………….
  “ท่านหยุดจินตนาการโลดโผนได้หรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ตอนที่ท่านอยู่ใกล้กับข้า”เฉินหวงกล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง
  “แม่นาง ข้าไม่อาจควบคุมความคิดของข้าได้ ในเมื่อข้าทำอะไรไม่ได้เลย อย่างน้อยก็ขอให้ข้าได้จินตนาการสักหน่อย”ชิงสุ่ยพูดพลางจ้องมองเฉินหวง