ตอนที่ 243

Midterm Fantasy

ปาฏิหารย์! เทพนิชลีนกำจัดภัยพิบัติตั๊กแตน! โดย หมอแมว

เจ้าชายดีโอยืนอยู่ที่แนวขอบไร่ข้าวโพด เบื้องหลังเป็นทหารและองครักษ์ และเบื้องหน้านั้นคือฝูงตั๊กแตนดำทะมึนที่แผ่ขยายเข้ามา

“ศัตรูเป็นออร์ค อยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตร ตอนนี้พวกมันกำลังถอยออกไปแล้ว” แพทร้องบอก

ไม่ต้องสงสัยแล้ว นี่คือตั๊กแตนที่ศัตรูควบคุมมา และพวกมันแค่ควบคุมให้ตั๊กแตนมาลงบริเวณหมู่บ้าน หลังจากนั้นพวกออร์คที่ควบคุมก็รีบถอยออกไป

เมื่อผู้ควบคุมถอยออกไป ฝูงตั๊กแตนที่ขาดการควบคุมก็เริ่มทำตามสัญชาตญาณ นั่นคือพุ่งลงหาพื้นที่สีเขียวเพื่อกัดกิน

[Fire]

[Fire Pillar]

[Fire Dragon]

เจ้าชายดีโอและเหล่าทหารต่างระดมยิงเวทไฟเข้าใส่อย่างสุดกำลัง

แต่สำหรับชาวไร่ชาวนาที่มองอยู่ห่างๆจากเบื้องหลัง พื้นที่โจมตีนั้นเล็กกระจิ๊ดริดเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดฝูงตั๊กแตน

“ไม่ไหวแล้วครับ”

“ระวังอย่าให้เข้าตา”

“พวกเราถอยก่อน”

เหล่าทหารต่างทยอยถอยกลับ ฝูงตั๊กแตนเหล่านี้มีหนามแหลมคมที่ขา เพียงแค่ถูกชนก็ได้แผลแล้ว

เมื่อเห็นว่าไร้ผลเจ้าชายจึงสั่งให้ถอนกำลัง ตั๊กแตนก็บินโถมเข้ากัดกินข้าวโพดในไร่

“หลบไป! ย้ากกกก”

เสียงร้องดังขึ้นจากถนน รถลากคันใหญ่บรรทุกขี้เลื่อยไม้เต็มคันรถถูกรอนผลักไสให้วิ่งมา รอนจอดรถลากที่กลางถนนท่ามกลางฝูงตั๊กแตนนับร้อยนับพัน แล้วเขาก็อุ้มจับรถ เหวี่ยงขี้เลื่อยทั้งหมดขึ้นฟ้าเต็มแรง

“ว้ากกกกก เอาเลยโรล่า”

“ค่ะ เวทไฟ [กรูเม่]”

บรึมมม

เปลวไฟพวยพุ่งสูงกว่า 5 เมตร เผาผลาญตั๊กแตนนับพันจนตกลงสู่พื้น รอนวิ่งกลับไปที่ประตูหมู่บ้าน เปลี่ยนรถลากบรรทุกขี้เลื่อยออกมาอีก

“ว้ากกกก”

“[กรูเม่]”

บรึมมมม

“ย้ากกก เอานี่ไปกิน”

บรึมมม

บรึมม

บรึม

เปลวไฟสูง5เมตร เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวที่ส่องออกมาจากไร่ข้าวโพดที่ตอนนี้กลายเป็นสีดำไปแล้ว

รอนวิ่งไปกลับอย่างไม่ยอมหยุด ระเบิดไฟจากขี้เลื่อยถูกปล่อยออกไปนับสิบครั้ง แขนและใบหน้าของเขาทั้งแดงพองจากความร้อน และเลือดซิบจากตั๊กแตน

“ทุกคน ช่วยกันหน่อย เราต้องจัดการตั๊กแตนพวกนี้ให้ได้”

ชาวหมู่บ้านโอลเซ่น ทหาร และทุกคนในที่นั้นยืนนิ่ง

“ทุกคน พืชผลพวกนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันเพาะปลูก เราจะยอมแพ้ไม่ได้นะ” รอนร้องออกมา

ไม่มีใครขยับตัว ได้แต่มองต้นข้าวโพดที่หักล้มลงจากการกัดกิน มองต้นฝ้ายที่ไม่มีใบเหลือ มองแปลงผักที่ปราศจากกิ่งใบ

“คุณรอน พอเถอะค่ะ” โรล่าเอามือจับไหล่เด็กหนุ่ม

“ทำไมกันโรล่า ทำไมทุกคนไม่ช่วยกัน พืชผักพวกนี้เป็นความหวังของทุกคน เป็นสิ่งที่ทุกคนช่วยกันไม่ใช่เหรอ” รอนร้องถามน้ำตาอาบแก้ม “ที่ผ่านมาพวกเราทุกคนเจออุปสรรคอะไรก็สู้และผ่านมันมาได้ไม่ใช่เหรอ”

“เราต่อสู้กับธรรมชาติไม่ได้หรอกค่ะ” โรล่าบอก

รอนชะงักและมองไปรอบๆ

ทุ่งไร่นาหลายสิบกิโลเมตรรอบเขา ตอนนี้กลายเป็นสีน้ำตาลดำ เสียงตั๊กแตนกัดกินต้นไม้ดังแกรก ๆ น่าขยะแขยง

มนุษย์เป็นแค่จุดเล็กๆจุดหนึ่งในพื้นที่เท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลยจริงๆ

“รอน” แพทเดินเข้ามาแล้วบีบมือเด็กหนุ่มเบาๆ

ชาวไร่ชาวนาของหมู่บ้านโอลเซ่นต่างหลั่งน้ำตา มองดูผลผลิตที่กำลังถูกกัดกิน

น้ำพักน้ำแรงของทุกคน ความหวังของทุกคน ถูกกัดกินไปจนหมดแล้ว

รอนเดินกลับไปที่หมู่บ้านอย่างรู้สึกแย่ เขามองกลับไปที่กองสิ่งของที่เขาค้นออกมาเมื่อครู่

ของที่เอามาจากโลกโน้นไม่ได้ช่วยอะไร

ยาฆ่าแมลง เอามาแค่2แกลลอน ไม่สามารถพ่นได้ทั่วถึง

นั่นก็ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ตอนแรกกะว่าจะเอามาผสมน้ำพ่น แต่ลองแล้วไม่เวิร์ค ตั๊กแตนไม่ตาย

นั่นก็ขนม ของเล่น ผงชูรส

ไม่มีอะไรช่วยได้สักอย่าง

แล้วสายตาของรอนก็ไปจ้องที่เสาไม้ที่มีตุ๊กตาหน้ารถบรรทุกนิชลีน

เด็กหนุ่มหยิบเสาไม้นั้นมาดู กดเปิดไฟ

ตุ๊กตาสีขาวตัวนั้นส่องแสงสว่างส่องไปทั่วบริเวณจนทุกคนหันมามอง

เขาเอาของแบบนี้มาที่นี่ทำไมกันนะ

ถ้าเขารู้ล่วงหน้าว่าจะมีตั๊กแตนบุกล่ะก็ เขาน่าจะขนยาฆ่าแมลงมาให้มากกว่านี้ แทนที่จะเสียที่ว่างขนตุ๊กตาอะไรก็ไม่รู้มา

ด้วยความโมโหระคนผิดหวัง รอนยกเสาไม้นั้นขึ้น

“ย้ากกกกกกกก ไอ้ตั๊กแตนบ้า ทำไมพวกแกไม่ตายไปให้หมดซะ!”

ปึง!

เสาไม้ปักลงกับพื้นอย่างแรงเสียงดังจนทุกคนหันมามอง ทุกสายตาจับจ้องไปยังตุ๊กตานิชลีนที่ส่องแสงโดดเด่น

“นั่นมัน … ?”

“รูปเคารพของท่านเทพนิชลีนที่คุณรอนนำมาน่ะ” ชาวบ้านอีกคนบอก “ท่าทางคุณรอนจะผิดหวังมาก”

“คุณรอนก็ทำเต็มที่แล้ว ภัยพิบัติระดับนี้ มีเพียงแต่เทพเจ้าเท่านั้นแหละที่จะจัดการได้”

แปะ

แปะ แปะ

แปะ แปะ แปะ แปะ แปะ

“เฮ้ย อะไร”

“ตั๊กแตนตกลงมา”

ตั๊กแตนตัวสีน้ำตาลร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า บ้างก็บินหมุนวนอย่างเจ็บปวด และเมื่อหล่นลงมาก็ได้แต่ดิ้นรนอยู่ที่พื้น

และก่อนที่จะมีใครตั้งตัวได้ทัน

แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ซ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

“แว้กกก เกิดอะไรขึ้น”

“ทำไมตั๊กแตนตกลงมา เกิดอะไรขึ้น”

เสียงซ่าดังประดุจดั่งฝนตก หากแต่เป็นห่าฝนตั๊กแตน พวกมันที่พยายามบินขึ้นท้องฟ้ากลับตกลงมาตายอยู่ที่พื้น

ชั่วเวลาเพียง 30 นาที ทุกอย่างก็สงบลง

ตั๊กแตนหิวโหยที่เป็นภัยพิบัติระดับอาณาจักรที่เคยสร้างความอดอยาก บัดนี้ กองอยู่ที่พื้นดินของหมู่บ้านโอลเซ่น กองพะเนิน เป็นความสูงกว่าครึ่งหน้าแข้ง

ตาย!

ตั๊กแตนตายหมดแล้ว!

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมตั๊กแตนตายหมด”

“แล้วใครกันที่ทำลายตั๊กแตนนี้ได้ ใครกัน”

แล้วใครบางคนก็นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของรอนตอนที่ปักเสาลงไปได้

“ย้ากกกกกกกก ไอ้ตั๊กแตนบ้า ทำไมพวกแกไม่ตายไปให้หมดซะ!”

แล้วทุกสายต่างก็หันไปมอง เสาที่รอนปัก

รูปเคารพท่านนิชลีนส่องแสงสว่างเรืองรอง แสงสีขาวอันน่าเคารพยำเกรง  ตัดไปกับสีน้ำตาลอันน่าขยะแขยงของตั๊กแตนเหล่านั้น

“มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้”

“โอ้ ท่านเทพ ท่านเทพนิชลีน”

“ปาฏิหารย์!”

แล้วผู้คนก็ก้มลงหมอบกราบแสงความเคารพต่อหน้าเสาไฟประดับตุ๊กตาหน้ารถบรรทุกตัวนั้น ท่ามกลางความงงงันของรอน

๑๑๑๑๑๑๑๑

“อ๋อ เจ้าตั๊กแตนนี่น่าจะตายเพราะกินพืช BT เข้าไปน่ะ” เสียงของพิเชฐดังมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์

“เอ๊ะ พืชBTเกี่ยวอะไรด้วย”

“ก็ที่นายเล่าคร่าวๆมาว่ามีผีเสื้อกลางคืนหนอนกระทู้มาลง จากนั้นหนอนที่ฟักออกจากไข่ก็ตายจนหมด” พิเชฐบอก “ยังจะตั๊กแตนนี่อีก นายดูข้างในสิ ทางเดินอาหารของมันบวมเป่งขนาดนั้น แปลว่ามันเจอพิษในทางเดินอาหารเข้าไป”

รอนพลิกดูตั๊กแตนที่ชำแหละแล้วVDO call ให้พิเชฐดู … ไหนกนทางเดินอาหาร

“ในท้องตลาดตอนนี้มีข้าวโพด ถั่วเหลือง ฝ้าย และพืชอีกหลายชนิดที่ตัดต่อพันธุกรรมโดยใส่ยีนของแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงจิเนนซิสเข้าไป” พิเชฐบอก

“บาซิลัส จิงจิงจิงเนนสัส?” รอนย้ำ

“เรียกสั้นๆว่า BTก็พอ ช่างมันเถอะ” พิเชฐโบกมือ “ยีนจากเชื้อนี้จะทำให้พืชสร้างผลึกสารพิษที่ทำลายทางเดินอาหารแมลงได้ขึ้นมา ปกติเค้าเอาไว้ปลูกเพื่อลดการใช้ยาฆ่าแมลง ทำให้เกษตรกรไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงมากๆ รักษาสิ่งแวดล้อม”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ว่าแต่ตั๊กแตนนี่จะกินได้ไหม” รอนถาม

“กินได้สิ สารพิษที่ว่ามันมีพิษแต่กับแมลง ไม่มีพิษกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม” ว่าแล้วพิเชฐก็หรี่ตา “แต่ถามอะไรหน่อยสิ ตั๊กแตนนี่นายเอามาจากไหนกัน”

“ทำไมเหรอ” รอนถามอย่างงงๆ

“ปกติตั๊กแตนทั่วไปมันทนต่อพิษจากเชื้อ BT อยู่ระดับนึง ไม่น่าจะถึงตายได้” พิเชฐหรี่ตา “ยังกับมันเป็นตั๊กแตนที่ผ่านการวิวัฒนาการมาโดยไม่เคยพบเชื้อ BT มาก่อนยังไงยังงั้น”

“โอเคขอบคุณมาก แค่นี้ก่อนนะเรามีธุระ” รอนตัดบทเตรียมกดตัดสาย

“ล้อเล่นๆ เราไม่ถามนายหรอกว่าไปเอาตั๊กแตนนี่มาจากไหน” พิเชฐบอก “สัปดาห์หน้าจะมีแข่งขันเกมที่ประเทศUA นายจะไปด้วยไหม”

“ไม่ล่ะ เราเลิกเล่นเกมแล้ว” รอนตอบ

“น่าเสียดาย โอเค แค่นี้ก่อนแล้วกัน ใกล้เที่ยงแล้วเดี๋ยวเรากลับห้องก่อน”

“ขอบใจมากนะพิเชฐ”

รอนปิดคอมห้องสมุดก่อนจะเดินไปสวมเสื้อคลุมทับชุดนักเรียน รอเวลาเที่ยงวัน

5 .. 4 .. 3 .. 2 .. 1 วาร์ป

รอนกลับมาโผล่ที่หมู่บ้านโอลเซ่นอีกครั้ง เขายืนอยู่ที่ข้างเสาไฟที่มีตุ๊กตาหน้ารถบรรทุก รอบกาย ชาวบ้านมากมายกำลังก้มลงกราบตุ๊กตานิชลีนอยู่

“ทุกคนครับ ฟังผมก่อน”

ทุกคนเงยหน้ามองรอน

“พืชผลทั้งหมดถูกทำลายแล้วก็จริง แต่ว่าอย่าเพิ่งหมดหวังไปครับ เรายังมีนี่” รอนชี้ไปที่ตั๊กแตน “ตั๊กแตนทั้งหมดนี่กินได้”

ชาวบ้านทั้งหลายตาเป็นประกาย

“ใช่แล้ว ตั๊กแตนนี้เอาไปทอดได้”

“แล้วเราจะกินได้เหรอ มีพิษหรือเปล่า”

“พูดบ้าๆ อาหารที่ท่านเทพนิชลีนประทานมาก็ต้องกินได้เซ่”

“พวกเรา ช่วยกันเก็บตั๊กแตน เราจะเอาไปทอดกัน” พ่อเฒ่าเบรเซอร์ประกาศ

“พ่อเฒ่า แต่ให้กินแต่ตั๊กแตนอย่างเดียวไม่ไหวนะ” ชาวบ้านคนนึงประท้วง

“ไม่ต้องห่วงครับ ถึงพืชผลจะถูกทำลายไม่เหลือ แต่ถ้าทุกคนช่วยกันทอดตั๊กแตนจากนั้นแพ็คส่งขายเมืองอื่นๆ แลกเป็นอาหารอื่นๆกลับมาก็ได้นี่ครับ” รอนเสนอ

“จริงด้วย เยี่ยมไปเลย”

คืนนั้นตั๊กแตนขนาดเท่าภูเขาย่อมๆที่กวาดมาจากรัศมี10กิโลเมตร ถูกทอดและบรรจุส่งออกไปยังเมืองใกล้เคียง และนั่นคือจุดกำเนิดของสินค้าโอลเซ่นท็อป

และในอีก1000ปีต่อจากนั้นเสาที่รอนปักเอาไว้ได้กลายเป็นที่ตั้งของมหาวิหารนิชลีนที่สำคัญที่สุดของแอสคาลอน