บทที่ 1061 อำนาจหมัดปีศาจ

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1061 อำนาจหมัดปีศาจ

ครืน!

พายุทอร์นาโดสีแดงเลือดกดลงมา ดวงตาของมู่เฉินก็เปิดออก ไม่มีความกลัวใดๆ ในม่านตาสีดำ ตรงกันข้ามกลับมีประกายแสงลุกโชนให้เห็นได้ชัดจนใจสั่น

แววตาลุกโชนนั้นราวกับปรารถนาในการเดิมพันชีวิตและความตาย

การแสวงหาชีวิตท่ามกลางความตายต้องใช้ความกล้าหาญที่จะเสียสละตัวเอง หากไม่มีความกล้าหาญที่จะเสียสละตัวเองและขี้ขลาด เขาจะแสวงหาชีวิตท่ามกลางความตายได้อย่างไรเล่า?

มู่เฉินลุกขึ้นยืนช้าๆ ในหลุมลึก คลื่นหลิงไร้ขอบเขตรอบตัวค่อยๆ จางหายถูกแทนที่ด้วยรัศมีโลหิตที่ควบแน่นอยู่รอบตัว

รัศมีนี้เต็มไปด้วยจิตสังหารที่น่ากลัวและโหดร้ายอย่างยิ่ง ราวกับว่าเขาต้องการเสี่ยงทุกอย่าง ใช้ชีวิตในการแก้สถานการณ์สิ้นหวังตรงหน้า!

จิตสังหารที่น่าอัศจรรย์พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อตัวเป็นพายุทอร์นาโดรอบๆ ร่างมู่เฉิน กระทั่งก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่โดยรอบก็แตกเป็นฝุ่นล่องลอยไปตามกระแสลม

“เกิดอะไรขึ้น?!”

คนอื่นที่ยืนอยู่ด้านนอกลานประลองเมื่อเห็นฉากนี้ใบหน้าก็เปลี่ยนไป ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ พวกเขาจ้องมองจิตสังหารซึ่งห่อหุ้มร่างมู่เฉินก็อดไม่ได้ที่ดวงตาจะหดลง

นั่นเป็นเพราะจิตสังหารโหดร้ายนั่นทำให้หนังหัวของพวกเขาลุกชัน

รัศมีที่ถูกปล่อยออกมาจากมู่เฉิน ทำให้พวกเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนั้นตั้งใจจะเสี่ยงชีวิต แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการตกอยู่ในนรก เขาก็จะลากคู่ต่อสู้ลงไปด้วย

นั่นเป็นการกระทำของคนบ้าชัดๆ!

หลายคนใบหน้าซีดขาวกับรัศมีของมู่เฉิน พวกเขาใช่ว่าไม่เคยเห็นคนโหด แต่น้อยมากที่จะเห็นใครมีรัศมีโหดเหี้ยมเหมือนมู่เฉินในตอนนี้

“นั่นคือรัศมีหมัดอย่างหนึ่ง! ต้องไม่ใช่เพลงหมัดของวิทยายุทธระดับเสินซู่แน่นอน!” หลายคนมีสายตาเฉียบคม พวกเขาไตร่ตรองชั่วครู่ก่อนร้องอุทานด้วยความตกใจ

ไม่ใช่เพลงหมัดของวิทยายุทธระดับเสินซู่? นั่นหมายความว่าวิชานี้เกินขอบเขตของระดับเสินซู่ไปแล้ว และอะไรคือวิทยายุทธที่เหนือกว่า? นั่นคือขอบเขตของวิทยายุทธระดับเสินทง!

พลังที่มีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนเท่านั้นที่จะครอบครองได้!

นั่นก็หมายความว่ามู่เฉินกำลังใช้เพลงหมัดระดับเสินทงรึ?!

ดวงตาทุกคนวาวโรจน์เมื่อจ้องมองที่มู่เฉิน นั่นคือวิทยายุทธระดับเสินทงแม้กระทั่งในเผ่าของพวกเขาก็เป็นสมบัติที่หายากยิ่ง หากไม่ใช่จอมยุทธ์ที่มีคุณูปการต่อเผ่า แม้แต่ผู้อาวุโสเผ่ายังไม่สามารถเข้าถึงได้

แต่ตอนนี้มู่เฉินกลับครอบครองวิชาดังกล่าวแล้วพวกเขาจะไม่อิจฉาได้อย่างไร?

“หมัดระดับเสินทง?”

เวลาเดียวกันไป๋หมิงที่อยู่บนท้องฟ้าก็จ้องมองมู่เฉินด้วยหัวใจสั่นเทิ้ม ความไม่เชื่อปรากฏบนใบหน้าดุร้ายเป็นครั้งแรก

เผ่าหงส์ฟ้าก็มีวิทยายุทธระดับเสินทงเหมือนกัน แต่มีเพียงผู้อาวุโสบางส่วนเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้ แม้เขาจะน้ำลายสอมานาน แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึง

แต่ตอนนี้…วิทยายุทธระดับเสินทงกลับอยู่กับมนุษย์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดเท่านั้น!

“แกทำให้ข้าตกใจจริงๆ ฮึ่ม วิชาหมัดระดับเสินทงรึ? ดี เมื่อไรที่ข้าจัดการแกได้ สมบัติทั้งหมดของแกจะเป็นของข้า!” แต่ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ที่ไป๋หมิงจะถูกมู่เฉินกำราบ นอกจากนี้แม้ว่าวิทยายุทธระดับเสินทงจะทรงพลัง แต่ก็ยากมากที่จะฝึกฝน ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถรับการถ่ายทอดวิทยายุทธระดับเสินทงของเผ่าได้

ดังนั้นเขาก็ไม่เชื่อว่ามู่เฉินจะสามารถฝึกฝนได้ด้วยขุมพลังจื้อจุนเจ็ด!

“ตาย!” ไป๋หมิงคำรามขณะที่กางกรงเล็บออก พายุทอร์นาโดสีแดงเลือดที่โอบล้อมมู่เฉินส่งเสียงครามกระหึ่ม แรงผลักดันราวกับต้องการทำลายล้างโลก

ตู้ม! ตู้ม!

พายุทอร์นาโดเย็นเยือกกวาดลงมาพร้อมกับรัศมีที่น่าตกใจ ขยายตัวอย่างรวดเร็วในม่านตามู่เฉิน เขาเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะกำหมัดแน่น พายุที่ปกคลุมเขาไว้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นโดยมีจิตสังหารโหดร้ายพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า

ดวงตาของมู่เฉินค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นหมัดที่กำแน่นก็ชกออกไป

หมัดนี้เรียบง่ายมากราวกับว่าชกออกไปโดยไม่ตั้งใจ แต่เมื่อมู่เฉินชกหมัดออกไป ฟ้าดินก็สั่นคลอน ทุกคนสามารถเห็นรัศมีโลหิตรอบๆ มู่เฉินรวมตัวกันอย่างบ้าคลั่งบนกำปั้น ก่อนที่จะพุ่งออกไป

วิทยายุทธระดับเสินทง หมัดปีศาจพลีชีพ!

ฮึ่ม!

ริ้วแสงโลหิตพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า หมัดสีแดงเข้มขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น ประหนึ่งว่าหมัดสร้างขึ้นจากความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของมู่เฉินโดยมีเจตจำนงว่า…ไม่รอดก็ตาย!

หากใครคิดขัดขวางก็ต้องตายไปพร้อมมู่เฉิน!

รัศมีโหดร้ายพุ่งออกมาจากหมัด ทำให้จอมยุทธ์จำนวนมากรู้สึกว่าหนังหัวชาวาบไปหมด ประจันหน้ากับหมัดที่เดิมพันด้วยชีวิตคนคนหนึ่ง ไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งนี้ได้

หากมีคนที่ไม่แน่วแน่ในปณิธาน พลังการต่อสู้ก็จะหายไปเมื่อเผชิญหน้ากับหมัดนี้

หมัดสีแดงเข้มพุ่งขึ้นไปห่อหุ่มร่างไป๋หมิง รัศมีการเดิมพันนี้ทะลุทะลวงหัวใจของไป๋หมิง ทำให้เขารู้สึกว่าหัวใจเย็นเยือกลง วินาทีนั้นเขามีความคิดที่จะหลบหนีทันที

ทว่าตัวเขาเป็นจอมยุทธ์รุ่นใหม่ชั้นนำของเผ่าหงส์ฟ้าและมีประสบการณ์ในสงครามนองเลือดมามากมาย ดังนั้นในช่วงเวลาวิกฤตนี้เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ระงับการเต้นของหัวใจ

เขารู้ว่าเมื่อการต่อสู้มาถึงขั้นนี้ ใครก็ตามที่ถอยออกไปก่อนจะเป็นผู้แพ้

“คิดจะข่มขวัญข้าด้วยการวางก้ามนี่เรอะ? ตลกล่ะ!” แสงเย็นวาบขึ้นในดวงตาของไป๋หมิงขณะสาดรอยยิ้มน่าขนลุก มือฟาดลงไปอย่างไร้ปรานี พายุทอร์นาโดสีแดงเลือดที่อัดแน่นไปด้วยพละกำลังพุ่งเข้าปะทะหมัดที่ส่งเสียงครางกระหึ่ม

ครืน!

ทันทีที่ปะทะ ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นกระแทกน่าสะพรึงกลัวที่สำแดงฤทธิ์บนท้องฟ้ายามนี้ พลังนั้นแม้จะมีแท่นบูชาคอยสกัดกั้นไว้ แต่ก็ทำให้กระแสเลือดและรัศมีที่อยู่ในร่างกายกวนตัว พวกเขาแทบจะกระอักโลหิตออกมาจากปาก

ทว่าหลายคนก็ไม่สนใจสภาพของตน สายตาของพวกเขาจ้องเขม็งไปที่จุดระเบิดสีแดงเข้มข้นบนท้องฟ้า กระทั่งมิติก็บิดเบี้ยวจากคลื่นกระแทกที่น่ากลัว

แสงโลหิตไร้ขอบเขตกวาดออกไปบนเส้นขอบฟ้า ทำให้พวกเขาไม่สามารถมองผ่านไปได้

สายตาของไป๋หมิงจับจ้องไปที่การระเบิด ครู่เดียวสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปรุนแรง เนื่องจากเขารู้สึกได้ว่าการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเองกำลังสลายไปด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

บนลานประลองมู่เฉินที่ยืนนิ่งไม่แสดงสีหน้าใดก็ปรากฏแววกระหายเลือดที่มุมปาก แสงสีแดงวูบวาบในดวงตาขณะที่เขากำมือจากระยะไกลตะโกนว่า “แตก!”

ปัง!

ลูกไฟสีแดงเข้มระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า พายุทอร์นาโดสีแดงเลือดขนาดใหญ่ก็ระเบิดออก กระแสคลื่นเย็นเยือกกวาดออกมา ขณะที่หมัดสีแดงเข้มฉีกขาดพายุทอร์นาโดออกเป็นชิ้นๆ ในลักษณะที่ทำลายไม่ได้ ก่อนที่จะพุ่งไปทางไป๋หมิงที่อยู่บนท้องฟ้า

ทุกคนสูดอากาศเย็นเข้าปอด การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของไป๋หมิงถูกทำลายโดยมู่เฉิน!

“เป็นไปได้ยังไง?!” ใบหน้าของไป๋หมิงซีดลงขณะที่คำรามด้วยความเคียดแค้น เพื่อเอาชนะมู่เฉิน เขาไม่ลังเลที่จะทำลายอาวุธเสมือนมหสวรรค์ของตนเอง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถหยุดมู่เฉินได้เรอะ?

มนุษย์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดคนนี้ยากที่ต่อกรอะไรขนาดนี้!

แต่ไป๋หมิงก็ไม่ได้แผดเสียงคำรามต่อ เนื่องจากเขาหวาดผวาไปเมื่อเห็นหมัดสีแดงเข้มพุ่งเข้าหา ทันใดนั้นเขาก็ตกใจกลัวจนขาดสติ ปีกที่อยู่ข้างหลังสะบัด ถอยหนีออกมาอย่างน่าสมเพช

แต่ถึงกระนั้นหมัดสีแดงเข้มก็ไล่ตามเขาเหมือนหนอนไชกระดูก ไม่สามารถสะบัดหลุดไปได้

เมื่อไป๋หมิงเห็นฉากนี้ก็เปล่งเสียงคำราม แสงหลิงที่ไร้ขอบเขตระเบิดออกมาก่อตัวเป็นหงส์ฟ้าน้ำแข็งขนาดหลายพันจั้ง

“ศูนย์สัมบูรณ์!”

เขาคำราม แสงหลิงไร้ขอบเขตก็พวยพุ่งก่อร่างเป็นชั้นน้ำแข็งหนาปกคลุมเขาทันท่วงที

เขาสามารถสัมผัสได้ว่าหมัดของมู่เฉินทรงพลังแค่ไหน เขาจึงยอมแพ้ในการตอบโต้และใช้พลังทั้งหมดในการป้องกัน

ตู้ม!

หมัดสีแดงเข้มที่โหดเหี้ยมกระแทกลงบนหงส์ฟ้าตัวมหึมาที่ปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งภายใต้สายตาตกตะลึงจำนวนมาก

ท้องฟ้าสั่นไหวในขณะนี้ อึดใจเสียงแตกก็ดังทอดยาว ในปราการน้ำแข็ง หงส์ฟ้าตัวมหึมาฉายความกลัวในสายตาขณะมองรอยแตกกระจายไปอย่างรวดเร็ว ไป๋หมิงไม่คิดเลยว่าการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาจะถูกทำลายอย่างง่ายดายขนาดนี้

หมัดของมู่เฉินน่ากลัวปานใดกันแน่?!

ปัง!

รอยแตกกระจายออกไปแล้วระเบิดเป็นเกล็ดหิมะก่อนที่หงส์ฟ้าจะส่งเสียงโศกเศร้าก้องกังวาน ไป๋หมิงถลาออกมา เลือดสดไหลออกมาจากร่างอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างกายของเขาก็ถูกย้อมเป็นสีแดง มองจากที่ไกลดูราวกับไก่เพลิงตัวใหญ่เลยทีเดียว

บนแท่นบูชาทุกคนตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ หงส์ฟ้าตัวมหึมาย้อมด้วยเลือดดิ่งพสุธาลงมาจากท้องฟ้า ราวกับผีพุ่งไต้กระแทกกับพื้นดินที่มืดดำด้านนอกแท่นบูชา เลือดสดพุ่งออกมาเป็นทะเลสาบเลือด

ทั้งแท่นบูชาเงียบกริบไม่มีคำพูดสักคำ

รอยยิ้มบนใบหน้าไป๋ปิงและคนที่เหลือชะงักไปนานแล้ว ในตอนนี้ความไม่เชื่ออัดแน่นในดวงตา ท่าทางของพวกเขาดูตลกอย่างยิ่ง

คนอื่นก็มีสีหน้าตกตะลึง พักใหญ่กว่าจะฟื้นจากอาการ ทันใดนั้นพวกเขาก็สูดอากาศเย็นเยือกเข้าไปสุดปอด มองดูร่างเงาสูงโปร่งที่ยังยืนไว้สง่าบนลานประลองด้วยความอึ้งทึ่ง ระลอกคลื่นดันตัวขึ้นในหัวใจพวกเขา

ใครจะไปคิดได้ว่าจอมยุทธ์ชั้นนำของเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็งที่มีขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดแท้จริงอย่างไป๋หมิงจะพ่ายแพ้ในน้ำมือของมนุษย์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ด แม้ว่าจะงัดทักษะต่างๆ นานามาใช้แล้วก็ตาม

มนุษย์คนนี้เป็นสัตว์ประหลาดแท้จริง!