ตอนที่ 767: พัฒนาการของเสือขาว (2)
หญิงข้างหน้ามีความสวยงามที่น่าดึงดูด นางคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลคารา เป็นคนที่อยู่ในอันดับที่หนึ่งท่ามกลายเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ทั้งหมด นางคือ คารา ลี่เว่ย
นางดูเหมือนกำลังคิดแล้วคิดอีกในขณะที่นางใช้มือของนางเล่นไปที่ผมสีน้ำตาลของนางซึ่งยุ่งเล็กน้อยอย่างอ่อนโยน นางพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นหยางยู่เทียนมาก่อน แต่ข้าก็ได้เรียนรู้เรื่องของเขามาค่อนข้างมากจากผู้อาวุโสลั่ว ถ้าพวกเราเปรียบเทียบเขากับหยุนเทียน ข้าค่อนข้างที่จะเอนเอียงไปทางเขา แต่ข้าไม่รู้ว่าหยางยู่เทียนเป็นคนเช่นไร สำหรับหยุนเทียนนั้น ข้อเสนอของเขานั้นล่อตาล่อใจทีเดียว แต่ข้าก็ไม่ค่อยเชื่อใจเขาเท่าไร ข้าจะยังไม่เลือกว่าข้าจะสนับสนุนใครจนกว่าข้าจะพบหยางยู่เทียน”
“คุณหนูพูดถูกแล้ว สมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเป็นกองกำลังที่ขึ้นอยู่กับทั้งหยางยู่เทียนและหยุนเทียนที่อาจจะได้ครอบครองมัน อย่างไรก็ตามสองคนนี้ในตอนนี้อยู่คนละฝั่งแล้ว เมื่อหนึ่งในนั้นพลาดท่า พวกเขาก็จะตกที่นั่งลำบาก เราไม่ควรจะปล่อยวางในเรื่องนี้ เมื่อเราไปอิงผิดข้าง ตระกูลคาราของเราอาจจะต้องกลายเป็นศัตรูกับสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง” ชายวัยกลางคนเห็นด้วยกับนาง แม้ว่าพวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องไปก้าวก่ายเรื่องภายในของสมาคม แต่มันก็เป็นโอกาสอันดีที่จะดึงเอาสมาคมมาอยู่ฝ่ายของตัวเองในเวลาเดียวกัน เป็นโอกาสที่ตระกูลคาราจะปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้ง่าย ๆ
ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน คนในกลุ่มก็กำลังบินเหนือเขตแนวภูเขา แต่ในช่วงเวลานั้นเอง สายตาของคารา ลี่เว่ยก็เป็นประกาย นางหยุดบินทันทีและจ้องลงไปด้านล่าง
คนด้านหลังของนางหยุดหลังจากนั้นในไม่ช้า พวกเขาจ้องลงไปข้างล่างด้วยความสนใจ พวกเขารู้ดีว่าเมื่อคุณหนูใหญ่ของตระกูลของพวกเขาแสดงท่าทางแบบนั้นออกมา แสดงว่านางกำลังพบบางอย่างที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม หลังจากมองลงไปค่อนข้างนานแต่ก็ไม่พบอะไรในพื้นที่นั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย ทันใดนั้นเอง มีบางคนที่อดไม่ได้อีกต่อไปและถาม “คุณหนู ท่านเจออะไรอย่างนั้นหรือ ? “
ท่าทางของคารา ลี่เว่ยเริ่มเคร่งครึมขึ้น “ข้ารู้สึกได้ถึงพลังแปลก ๆ ด้านล่าง มัยดูเหมือนจะเป็นพลังงานของม่านพลังที่เซียนผู้คุมกฎเท่านั้นที่จะสามารถใช้ได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งเจ็ดก็เกิดสนใจขึ้นมา พวกเขาไม่รู้สึกแปลกที่คารา ลี่เว่ยสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานจากม่านพลัง เพราะว่าพวกเขารู้ว่าคุณหนูตรงหน้าพวกเขานั้นเป็นคนที่พิเศษ ไม่เพียงแต่นางจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังเซียนธาตุแสงเท่านั้น นางยังสามารถสัมผัสพลังงานในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกด้วย และที่น่าเหลือเชื่อกว่านั้น นางยังสัมผัสได้ถึงพลังธรรมชาติที่สามารถใช้ได้แค่เซียนผู้คุมกฎเท่านั้นตอนที่นางสำเร็จระดับ 6 ข้อเสียอย่างเดียวคือนางสามารถสัมผัสได้ถึงพลังธรรมชาติเท่านั้น แต่ไม่สามารถควบคุมหรือจัดการมันได้
ม่านพลังที่ถูกร่ายจากเซียนผู้คุมกฎถูกเปลี่ยนมาจากพลังธรรมชาติ ดังนั้นคารา ลี่เว่ย จึงรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน
“รอที่นี่กันพักหนึ่ง ข้าจะลงไปดูสักหน่อย ! ” คารา ลี่เว่ยลดระดับลงจากอากาศไปที่ป่าหนาทึบข้างล่างและตามความรู้สึกของนางไป นางพบถ้ำที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยกิ่งไม้ในที่สุด
คารา ลี่เว่ยมองไปรอบรอบอย่างระมัดระวัง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสนใจและนางก็พึมพำกับตัวเอง “กิ่งไม้นี้ยังไม่แห้งเลย ดังนั้นมันต้องถูกหักมาเมื่อไม่นานนี้เป็นแน่ และถ้ำนี้ถ้าดูจากร่องรอยแล้ว คงน่าจะเพิ่งถูกขุดมาไม่นาน ใครกันที่ทำแบบนี้ ? “
คารา ลี่เว่ยขมวดคิ้วของนาง หลังจากนั้นไม่นาน นางก็คิดอะไรได้บางอย่างและท่าทีของนางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางพึมพำกับตัวเอง “มีม่านพลังรอบ ๆ ถ้ำที่เพิ่งขุดมาใหม่นี้ บางทีอาจจะมีเซียนผู้คุมกฎอยู่ในวัตถุเซียนนี้ก็เป็นได้ ? ” แม้ว่านางจะได้ข้อสรุปแบบนั้น แต่นางก็ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่านางไม่เคยพบเซียนผู้คุมกฎ แต่นางยังเคยติดต่อกับเซียนราชามาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเซียนผู้คุมกฎจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับนางเลย
นางจ้องไปที่ถ้ำสีดำสนิทและเริ่มลังเลสักพัก หลังจากนั้นนางก็ยกแขนที่เรียวเล็กของนางขึ้น และกระบี่พลังเซียนธาตุแสงก็ปรากฏขึ้นมาทันทีในมือที่ขาวดั่งหยกของนาง โดบการโบกสะบัดของนาง กระบี่ก็กลายเป็นลำแสงสีขาวและพุ่งไปที่ถ้ำ
ปัง ! เสียงดังก้องกังวานออกมาจากถ้ำ ในขณะที่พลังงานเริ่มที่จะรั่วไหลออกมาจากปากทางเข้าถ้ำ ปากทางเข้าถ้ำกว้างสองเมตรขยายเพิ่มออกเป็น 2 เท่า ในขณะที่ภูเขาทั้งลูกสั่นเล็กน้อยจากการโจมตีนั้น
ม่านพลังที่ซ่อนถูกซ่อนไว้ภายในตัวถ้ำ แต่การโจมตีของคารา ลี่เว่ยไม่สามารถทำอะไรม่านพลังนั้นได้เลย
ในเวลาเดียวกัน ในที่ซึ่งห่างออกไป 100 กิโลเมตร เจี้ยนเฉินเพิ่งสังหารสัตว์อสูรแมงป่องพิษระดับ 6 ไป ในตอนที่เขากำลังจะเก็บศพของมันเข้าไปที่แหวนมิติ ตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เขาพูดด้วยเสียงทุ้ม “แย่ละ ! ม่านพลังถูกโจมตี ดูเหมือนที่ซ่อนของเสือขาวจะถูกพบเข้าให้แล้ว ข้าต้องรีบกลับไปทันที” เจี้ยนเฉินไม่ได้ทำตัวสบาย ๆ เหมือนก่อนหน้านี้ เขาโบกมือและศพใหญ่ของแมงป่องก็ถูกเก็บเข้าไปในแหวนมิติ และเขาก็รีบจากไปด้วยความเร็วสูง
ข้างนอกถ้ำ ความวุ่นวายที่เกิดจากคารา ลี่เว่ยได้ยินไปถึงเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่อยู่บนท้องฟ้า พวกเขารีบลดระดับลงมาทันทีและมาอยู่ข้างข้างคารา ลี่เว่ย พวกเขาถาม “คุณหนู เกิดอะไรขึ้น ? “
คารา ลี่เว่ยยังคงเงียบอยู่ นางจ้องเขม็งไปที่ม่านพลังที่ถูกซ่อนลึกอยู่ในถ้ำ นางป้องมือไปที่ทางเข้า นางพูด “ข้าน้อยมาจากตระกูลคารา ข้าสงสัยว่าท่านผู้อาวุโสผู้ใดกำลังเก็บตัวฝึกฝนอยู่ที่นี่” นางไม่มีความตั้งใจที่จะทำลายม่านพลังเหมือนกับการโจมตีก่อนหน้านี้ นางเพียงตั้งใจจะเตือนคนที่อยู่ข้างใน มันดูเหมือนจะเป็นการไม่สุภาพ แต่คารา ลี่เว่ยไม่ได้สนใจเซียนผู้คุมกฎเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งฐานะและตัวตนของนางในตระกูลคารานั้น นางไม่จำเป็นที่จะต้องไปก้มหัวให้เมื่ออยู่ต่อหน้าเซียนผู้คุมกฎ
“บางที่อาจจะมีเซียนผู้คุมกฎอยู่ที่นี่ ? ” เซียนผู้คุมกฎคนอื่น ๆ จ้องไปที่ถ้ำและแสดงท่าทีตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินว่ามีเซียนผู้คุมกฎอยู่ในวัตถุเซียน
พวกเขารออยู่หน้าถ้ำสักพัก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
“คุณหนู พวกเราไปกันเถอะ บางทีผู้อาวุโสนี้อาจจะไม่ต้องการที่จะพบเรา เราไม่จำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลาที่นี่” หลังจากพักใหญ่ ชายวันกลางคนก็หมดความอดทน และแนะนำนางอยู่ข้าง ๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น คารา ลี่เว่ยก็นิ่งเงียบคิดสักพัก ก่อนที่จะถอนหายใจเบา ๆ “ถ้างั้นพวกเราไปกันเถอะ” หลังจากพูดจบ นางก็หันหลังและเตรียมจะจากไป
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง พลังที่แข็งแกร่งก็ปรากฏออกมาจากในถ้ำทันที พลังนั้นเต็มไปด้วยความเคารพและเป็นพลังที่เหมือนกับนายเหนือหัวสูงสุด มันทะลุผ่านออกมาจากม่านพลังและกระจายออกมาอย่างรวดเร็วปกคลุมทั่วทั้งแนวภูเขาในไม่ช้า
กลุ่มคนเหล่านั้นหยุดทันที พวกเขาลอยอยู่กลางอากาศด้วยเมฆของพวกเขา และจ้องไปที่ถ้ำ
“ไม่ แม้ว่าพลังนี้จะแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ยังห่างไกลนักจากเซียนผู้คุมกฎ มันมีลักษณะเฉพาะอยู่” ชายชราพูดด้วยเสียงทุ้มในขณะที่เขาจ้องไปที่ถ้ำ
“สิ่งที่อยู่ในถ้ำนั้นเต็มไปด้วยเกียรติยศและพลังอำนาจ และดูเหมือนจะมีความรุนแรงลาง ๆ อยู่ภายในนั้น บางทีอาจจะเป็นคนที่กระหายเลือดที่อยู่ด้านในนั้น” ชายวัยกลางคนพูดด้วยท่าทีมืดมน
“ไม่ใช่” คารา ลี่เว่นส่ายหัวเบา ๆ นางจ้องไปที่ถ้ำด้วยตาที่สวยงามที่เป็นประกายแปลก ๆ ของนาง และพูดอย่างช้าช้า “ถ้าข้าเดาไม่ผิด นี่คงเป็นพลังของสัตว์อสูร”
“อะไรนะ ! ? สัตว์อสูร ! ? ” เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งหมดตกตะลึง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาก็คิดว่ามันสมเหตุสมผล
“สัตว์อสูรนี้ยังไม่แข็งแกร่งมาก แล้วมันจะร่ายม่านพลังเพื่อปกป้องตัวเองได้อย่างไร ? อีกทั้งดูเหมือนมันจะกำลังตัดผ่านจากระดับ 5 ไปยังระดับ 6 ถ้ามันเป็นระดับ 7 พลังของมันคงเป็นอะไรที่พวกเรารับรู้ได้” ชายชราวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความสงสัย
“พวกเรามารอที่นี่และคอยดูกัน” คารา ลี่เว่ยยังคงสงบนิ่ง แต่สายตาของนางก็ยังคงสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้น พวกเขาก็รออย่างเงียบเงียบภายนอกถ้ำ กลางอากาศ พวกเขาต้องการที่จะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ครึ่งชั่วยามผ่านไป แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นมาจากไกลไกล ไม่ต้องแปลกในเลย ที่มันพุ่งมายังที่ที่กลุ่มของคารา ลี่เว่ยอยู่
การมาของบุคคลนั้นทำให้กลุ่มสนใจ สายตาของคนหลายคนในกลุ่มเย็นชา และคนหนึ่งก็เย้ยขึ้นมา “มีคนที่บินไปมามั่วซั่วด้วยตัวคนเดียว เขาคงต้องค่อนข้างแข็งแกร่ง และบางทีเขาอาจจะมีคะแนนหลายคะแนนอยู่กับเขาก็เป็นได้”
“ฮาฮ่า นายหญิงน้อยยังขาดคะแนนอยู่พอดี ทำไมเราไม่เอามาจากคนคนนั้นเลยล่ะ ? ข้าหวังว่าคะแนนของเขาคงไม่น้อยจนทำให้เราผิดหวังหรอกนะ” ชายชราหัวเราคิกคักออกมา
ร่างที่ไกล ๆ นั้นมาถึงที่ที่พวกเขาอยู่ในไม่ช้า และยืนห่างออกไป 20 เมตร ในตอนนั้นเอง คารา ลี่เว่ยก็เห็นรูปร่างของคนคนนั้น เขาอายุยี่สิบกว่ากว่าและเป็นชายหนุ่มที่รูปงามมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คารา ลี่เว่ยประหลาดใจก็คือภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มนั้นกลับมีความเด็ดเดี่ยวอยู่
มันเป็นความเด็ดเดี่ยวประเภทที่จะปรากฎบนนักสู้ที่มีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวและเคยเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยงชีวิตมานับไม่ถ้วนแล้วเท่านั้น แต่มันปรากฏอยู่บนตัวเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง คนที่ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย นี่ทำให้คารา ลี่เว่ยประหลาดใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งสายตาที่เย็นชาของชายคนนั้น คารา ลี่เว่ยถึงกับเข้าใจผิดว่าชายหนุ่มคนนี้ที่อยู่ตรงหน้านางเป็นนักสู้ที่พึ่งพาได้และไม่ใช่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้คารา ลี่เว่ยประหลาดในมากที่สุดคงจะเป็นเรื่องที่รูปร่างหน้าตาของนางไม่มีผลกระทบกับชายหนุ่มนั้นเลย สายตาที่เย็นชาของเขาไม่แม้แต่จะหยุดมองที่ใบหน้าของนาง และมองผ่านไปอย่างไร้ความรู้สึก
คิดกลับไปแล้ว ถ้ามีคนที่ไม่หลงใหลเมื่อเห็นใบหน้าของนาง คนผู้นั้นก็ต้องมีหน้าแดงบ้าง แม้แต่เซียนผู้คุมกฎแก่ ๆ ที่โหดร้ายเมื่อได้เห็นนางแล้ว สายตาของพวกเขายังส่องประกายไปด้วยความชื่นชม ไม่มีใครที่จะสงบนิ่งได้หลังจากที่เห็นใบหน้านางเป็นครั้งแรก หรือแม้แต่แสดงท่าทีที่เย็นชาแบบนี้ สำหรับคารา ลี่เว่ยแล้ว นางรู้สึกว่าชายตรงหน้านางนี้ช่างแตกต่างมากเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ
“เจ้าหนู ส่งคะแนนของเจ้ามาซะดี ๆ แล้วถอนตัวไปซะถ้าเจ้าไม่อยากจะเจ็บตัว” ชายวัยกลางคนด้านหลังคารา ลี่เว่ยคำรามไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่จ้องไปที่เขาอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของเจี้ยนเฉินก็เย็นชา เขายกมือขึ้นและกระบี่พลังเซียนธาตุแสงก็ควบรวมขึ้นมาทันที
“เป็นการควบรวมที่เร็วอะไรแบบนี้ ! ” เมื่อพวกนั้นได้เห็นสิ่งที่เจี้ยนเฉินทำ พวกเขาก็นิ่งอึ้ง แม้แต่ตาของคารา ลี่เว่ยยังหรี่ลงอย่างรวดเร็ว สายตาที่นางมองไปที่เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นี้เป็นเพราะความเร็วในการรวบรวมพลังเซียนธาตุแสงของเจี้ยนเฉินนั้นรวดเร็วเกินไป เร็วจนนางก็ยังทำไม่ได้
“เกราะพลังเซียนธาตุแสง ! ” เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงของตระกูลคารานั้นเตรียมพร้อมสู้อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาควบรวมเกราะพลังเซียนธาตุแสงเพื่อปกป้องพวกเขาด้วยความเร็วที่สุดยอด และพร้อมที่จะต่อสู้
ในเวลาเดียวกันนั้น กระบี่ในมือของเจี้ยนเฉินได้พุ่งไปยังคนที่พูดกับเขา มันทำให้เกราะของคนนั้นแตกสลายไปตอนที่ยังควบรวมไม่เสร็จดี ก่อนที่จะกระแทกอย่างแรงไปที่หน้าอกของคนผู้นั้น
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงผู้นั้นร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนที่เสาแสงใหญ่จะลดลงมาจากท้องฟ้า และพาเขาไป เขาถูกส่งออกไปจากการแข่งขัน