บทที่ 1780 ฉากอาชญากรรม

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1780 ฉากอาชญากรรม

 

การโจมตีของตระกูลฟางทําให้ฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกสั่นสะเทือน

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าน่าเกรงขามมาก กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกทั้งหมดถูกข่มขู่ทันที

 

ในไม่ช้าฟางหยวนก็ได้รับข่าวการต่อสู้ครั้งนี้ มันมีทั้งรายละเอียดและภาพการต่อสู้

 

สิ่งนี้ถูกปล่อยออกมาโดยตระกูลฟาง

 

“ตระกูลฟางมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์!” ฟางหยวนค่อนข้างตกใจกับการค้นพบนี้

 

ฟางหยวนต้องนึกถึงไปถึงวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่

 

เขาได้รับวิญญาณอมตะดวงนี้มาจากตระกูลฟาง

 

ตามข่าวลือ ตระกูลฟางได้รับวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่มาโดยบังเอิญจากผู้บ่มเพาะสันโดษที่เข้าร่วมกับพวกเขา

 

“นอกจากวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขายังมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์!”

 

“สมกับเป็นรากฐานของกองกําลังใหญ่จริงๆ”

 

ฟางหยวนสายศีรษะ

 

เช่นเดียวกับบ้านไม้ไผ่สายลมของวุหยง คฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของตระกูลฟางมีท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าที่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์

 

“นี่เป็นการหยุดภัยคุกคามจากกองกําลังอื่น สถานการณ์ของตระกูลฟางจะเปลี่ยนไปเพราะสิ่งนี้ดูเหมือนในชีวิตก่อนหน้าของข้า นี่จะเป็นเหตุผลที่กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกหยุดเคลื่อนไหว

 

ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าสามารถขโมยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันสามารถทําลายแหล่งทรัพยากรตามธรรมชาติ

 

รากฐานของกองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะคือแหล่งทรัพยากรเหล่านี้ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ถูกขโมยไม่สามารถกู้คืน นี่คือการโจมตีรากฐานของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง

 

ด้วยการโจมตีของตระกูลฟาง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลตง ตงลู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่โอเอซิสสมบัติแห่งจันทร์ถูกลบออกไปอย่างสมบูรณ์

 

ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าทําให้กองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกไม่กล้ายั่วยุตระกูลฟางอีก

 

กระทั่งผู้อมตะระดับแปดเช่นตงลู่เฉินก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

 

ฟางหยวนลอบยกย่องการตัดสินใจของฟางตี้เฉิงอย่างลับๆ

 

เขาเลือกศัตรูที่แข็งแกร่งและโจมตีสถานที่ที่ตงลู่เฉินปกป้องโดยตรง

 

นี่เป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง

 

ในเวลาเดียวกันตระกูลฟางก็ไม่ได้ทํามากเกินไป

 

โอเอซิสสมบัติแห่งจันทร์เป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลาง มันไม่ใช่แหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ ตงลู่เฉินฝังภรรยาที่เสียชีวิตไว้ที่นี่ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ของทุกปีเขาจะมาเยี่ยมนาง

 

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่รุนแรงขณะที่ตงลู่เฉินก็ไม่ได้โกรธเป็นพิเศษ หลังจากทั้งหมดมีเพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเท่านั้นที่สูญหายไป หลุมศพภรรยาของเขาไม่ถูกแตะต้อง

 

“พวกเขาเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี ด้วยการใช้ประโยชน์จากการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่เพียงพวกเขาจะสามารถหยุดฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกแต่พวกเขายังต้องการข่มขู่ข้า”

 

ฟางหยวนถือวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลไว้ในมือและหัวเราะเสียงเย็น

 

ในวิญญาณดวงนี้ ฟางตี้เฉิงยังกล่าวถึงน้ําค้างสวรรค์ว่า ควรมีน้ําค้างสวรรค์เพียงเล็กน้อยที่หายไปจากการต่อสู้ มันอาจหายไปเพียงสิบหยดเท่านั้น เขาขอให้ฟางหยวนตรวจสอบรอบๆ เขาอาจพบอีกยี่สิบหยดอยู่ที่ใดสักแห่ง

 

ฟางหยวนนําน้ําค้างสวรรค์สามสิบหยดออกมาก่อนหน้านี้ เขารายงานตระกูลฟางว่ามันเป็นการสูญเสียจากการต่อสู้กับศัตรู

 

นี่เป็นเพียงข้อแก้ตัว ทั้งเขาและตระกูลฟางต่างเข้าใจอย่างชัดเจน

 

แต่ตระกูลฟางไม่อนุมัติเรื่องนี้ พวกเขาเตือนฟางหยวนอย่างอ่อนโยนแต่มีความหมายว่า เจ้าสามารถนําน้ําค้างสวรรค์ไปสิบหยด ส่งมอบอีกยี่สิบหยดคืนมา!

 

น้ําค้างสวรรค์เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด ตระกูลฟางไม่ต้องการละทิ้งสิ่งนี้

 

นี่ยังเป็นการปราบปรามฟางหยวน พวกเขาต้องการบอกว่า เจ้าพึ่งเข้าร่วมกับพวกเราเร็วๆ นี้ แต่เจ้ากลับต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เพื่อตนเองงั้นหรือ? ควบคุมตัวเอง! ดูการต่อสู้ครั้งนี้ ตระกูลฟางของเรายังแข็งแกร่งมาก เจ้าควรพิจารณาผลประโยชน์ส่วนตนอย่างระมัดระวัง!

 

นี่คือความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในจดหมายของฟางตี้เฉิงถึงสวนงูจิน

 

การสนทนาระหว่างสมาชิกฝายธรรมะมักอยู่ภายใต้ถ้วยคําที่สวยงาม มันไม่ตรงไปตรงมาเหมือนฝ่ายปีศาจ

 

“แต่ความจริงก็คือตอนนี้พวกเจ้าอ่อนแอมาก!” ฟางหยวนเข้าใจอย่างชัดเจน

 

การต่อสู้ครั้งนี้ตระกูลฟางไม่ได้ใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่น นี่แสดงให้เห็นว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขายังไม่ได้รับการซ่อมแซมหลังจากการต่อสู้เพื่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ตระกูลฟางใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม ท่าไม้ตายอมตะที่พวกเขาใช้มีพลังโจมตีระดับแปด แต่ฟางหยวนสามารถมองเห็นจุดบกพร่อง

 

มันไม่เสถียร!

 

หากท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าสามารถใช้งานได้ตามความปรารถนา ตระกูลฟางคงใช้มันไปนานแล้ว พวกเขาจะไม่รอจนถึงตอนนี้

 

ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าเป็นไพ่ตายของตระกูลฟาง พวกเขาไม่ต้องการใช้มันแต่พวกเขาไม่มีทางเลือก

 

บางทีตระกูลฟางอาจไม่มีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นวิญญาณหรือบางที่พวกเขาอาจยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้

 

ผู้อมตะส่วนใหญ่ของตระกูลฟางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งค่ายกล พวกเขาไม่คุ้นเคยกับเส้นทางแห่งการโจรกรรม

 

ฟางหยวนตอบจดหมายฟางตี้เฉิง

 

ในจดหมาย เขากล่าวว่าเขาพบน้ําค้างสวรรค์ยี่สิบหยดแล้ว ก่อนหน้านี้เขาประมาทเกินไป

 

หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น ถึงเวลาแล้ว!

 

ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยก!

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะของโอเอซิสน้ําค้างสวรรค์ เขายังจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะใหม่ขึ้นมาภายในเพื่อสร้งภาพลวงตาว่าเขายังอยู่ที่นี่

 

ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกได้รับการพัฒนาเช่นกัน มันใช้งานได้เร็วขึ้น กลิ่นอายที่รั่วไหลออกมาที่ปลายทางก็มีน้อยลง มันไม่สะดุดตาเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป

 

ฟางหยวนเดินทางมายังทะเลทรายนิ่งห้อย สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของหิงห้อยเพลิง

 

พวกมันจะให้กําเนิดวิญญาณหิงห้อยเพลิงระดับสามถึงระดับห้า

 

นี่เป็นแหล่งทรัพยากรของตระกูลฟาง

 

พวกเขาจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ที่นี่เช่นกัน ค่ายกลวิญญาณอมตะของที่นี่จะสร้างสภาพแวดล้อมบนเส้นทางแห่งไฟเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟ

 

สถานที่แห่งนี้ได้รับการปกป้องโดยผู้อมตะระดับหกของตระกูลฟาง

 

ฟางหยวนใช้ใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวและโจมตีโดยตรง

 

เขาสังหารผู้อมตะของตระกูลฟางและทําลายทะเลทรายนิ่งห้อยทั้งหมด

 

สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปฐพี

 

ในคลังสมบัติของนิกายหลางหยามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีอยู่หลายดวง มันยังมีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีจํานวนมาก

 

หลังจากกระทําการเรียบร้อย ฟางหยวนก็กลับไปยังโอเอซิสน้ําค้างสวรรค์

 

จากได้รับจดหมายตอบกลับของฟางหยวน แต่ในไม่ช้าเขาก็ได้รับข่าวร้ายว่า ทะเลทรายหิงห้อยถูกทําลาย

 

ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาของตระกูลฟางตกตะลึง

อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

 

สมาชิกของตระกูลฟางเสียชีวิต!

 

ทะเลทรายตะวันตกไม่สําคัญ สิ่งสําคัญคือชีวิตของผู้อมตะตระกูลฟาง!

 

ตระกูลฟางขาดแคลนผู้อมตะมาตลอด เปรียบเทียบกับกองกําลังฝ่ายธรรมะอื่นๆของทะเลทรายตะวันตก พวกเขาค่อนข้างเสียเปรียบ หลังจากพวกเขานําผีเฒ่าไปจุน นางสนมอินทรีย์ และชวนปู่จินเข้ามา สถานการณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไป

 

แต่คนทั้งสามเป็นคนนอก พวกเขาไม่มีสายเลือดตระกูลฟาง มันไม่สามารถทดแทน

 

ผู้อมตะของตระกูลฟางเสียชีวิต แม้เขาจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก แต่มันยังถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของตระกูลฟาง

 

ฟางกงให้ความสําคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขารีบหารือกับฟางตี้เฉิง

 

หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ ฟางกงเฝ้าอยู่ที่ฐานทัพใหญ่ของพวกเขาขณะที่ฟางตี้เฉิงออกไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

 

“คนร้ายสังหารผู้อมตะของเรา!”

 

“พวกเขาทําลายแหล่งทรัพยากรของเรา!”

 

“เห็นได้ชัดว่านี้ไม่ได้เกิดจากความโลภแต่เป็นการแก้แค้น!”

 

ฟางตี้เฉิงตรวจสอบพื้นที่และพบสัญญาณของความโกรธและความเกลียดชังถูกทิ้งไว้

 

“มันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งปฐพี….นี่เป็นการแก้แค้นของตระกูลตงงั้นหรือ?”

 

ฟางตี้เฉิงคิดถึงตระกูลตงเพราะพวกเขาเชี่ยวชาญเส้นทางแห่งปฐพี แต่ในไม่ช้าเขาก็ส่ายศีรษะ

 

“ร่องรอยที่ทิ้งไว้ชัดเจนเกินไป มันต้องเป็นกองกําลังอื่นที่พยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้”

 

“สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย…”

 

การแสดงออกของฟางตี้เฉิงกลายเป็นมืดครื้ม

 

กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกอาจต้องการยั่วยุตระกูลฟางแต่ไม่กล้าเปิดเผยต่อสาธารณะ พวกเขาจึงซ่อนอยู่เบื้องหลังและใช้แผนการบางอย่าง

 

สิ่งสําคัญคือตระกูลฟางขาดผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล ฟางตี้เฉิงเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล

 

หากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมาที่นี่ พวกเขาอาจพบร่องรอยหรือหลักฐานที่นําไปสู่ฟางหยวน

 

แต่ตระกูลฟางไม่มีความสามารถนั้น

 

ตระกูลฟางไม่สามารถเชิญผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมาจากกองกําลังอื่น หากพวกเขาต้องการเชิญผู้บ่มเพาะสันโดษหรือปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล คนผู้นั้นต้องเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

 

แต่ในฐานะกองกําลังฝายธรรมะ ตระกูลฟางไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บ่มเพาะสันโดษหรือปีศาจอมตะ

 

ฟางตี้เฉิงไม่พบเบาะแสสําคัญใดๆ เขากลับฐานทัพตระกูลฟางด้วยการแสดงออกที่มืดมน

 

กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันออกได้รับข่าวนี้ในไม่ช้า

 

ผู้อมตะระดับแปดผู้หนึ่งถามตงลู่เฉินทันที

 

ตงลู่เฉินได้ยินและกลายเป็นมีนงง

 

เขาต้องสูดหายใจลึกเพื่อยับยั้งความโกรธ สารเลวตัวใดที่พยายามใส่ร้ายตระกูลตงของข้า! ตระกูลฟางขโมยเต๋า แต่พวกเขาไม่ได้ทําลายแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ของเรา!”

 

“คนผู้นี้ใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปฐพีขณะที่ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปฐพีของตระกูลตง พวกเขาพยายามหว่านความเกลียดชัง ร้ายกายและชั่วร้ายนัก! แต่ข้าไม่สามารถทําสิ่งใด”

 

ตงลู่เฉินแทบไม่สามารถสะกดข่มความโกรธ

 

เขาไม่สามารถเดินไปรอบๆและตะโกนว่าเขาไม่ใช่คนร้าย

 

หาเขาในที่สาธารณะขณะที่เขาก็ไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอด้วยการประกาศ ว่าตนเองบริสุทธิ์

 

นั่นไม่เพียงจะเป็นการทําลายชื่อเสียงของเขาแต่มันยังจะส่งผลกระทบต่อตระกูลตงอีกด้วย

 

แม้ตงลู่เฉินจะต้องการประกาศความบริสุทธิ์ของตน แต่ต่อหน้าผู้อมตะระดับแปดที่ถามเขา เขาก็ทําได้เพียงกันเสียงเย็น “ฮีม ผู้ใดทําเรื่องนี้? ข้าจะให้รางวัลใหญ่กับพวกเขา!”

 

“ฮ่าฮ่า” ผู้อมตะระดับแปดตอบอย่างมีความหมาย

 

หัวใจของตงลู่เฉินยิ่งจมดิ่งลง

 

“ฮ่าฮ่า มารดาเจ้าสิ!”

 

“เจ้าคิดว่าข้ามีช่วงเวลาที่ง่ายดายงั้นหรือ!?”

 

“ตระกูลตงอยู่ติดกับตระกูลฟาง ตระกูลฟางถูกกดดัน ดังนั้นพวกเขาจึงโจมตีตระกูลของข้าเพื่อข่มขู่ทุกคน คราวนี้ผู้อมตะตระกูลฟางเสียชีวิต หากพวกเขาตอบโต้ ตระกูลตงของข้าต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งใหญ่!”