รถม้าคันนี้ คือรถม้าที่องค์ชายรองฉินฝานนั่ง ลู่ฝานกับสิบสามเดินตรงเข้าไปทันที แต่เห็นเพียงองครักษ์เกราะทอง ไม่เห็นตัวองค์ชายรองฉินฝาน

องครักษ์เกราะทองคนหนึ่งพูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณชายลู่โปรดรอสักครู่ เตี้ยนเซี่ยรอคุณชายอยู่นอกเมือง!”

“นอกเมืองเหรอ”

ลู่ฝานพูดอย่างสงสัย “บอกว่าไปในเมืองไม่ใช่เหรอ”

องครักษ์เกราะทองไม่พูดอะไรแล้ว ทำเพียงยืนนอบน้อมอยู่ข้างๆ เหมือนหุ่นเชิดตัวหนึ่ง

ลู่ฝานก็ไม่ถามอะไรมากอีก เห็นได้ชัดว่าถึงถามไปก็ไม่มีคำตอบ รถม้าเคลื่อนตัวพุ่งเข้าไปในอุโมงค์ข้ามมิติ

หลับตาลงพักสายตา ลู่ฝานตัดสินใจนั่งรออยู่ตรงนั้น

ในเวลาเดียวกัน สิบสามยืนเล่นก้อนหินเล็กๆ ในมืออยู่ข้างๆ

หลังเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป รถม้าหยุดลง

เมื่อเดินออกจากรถม้า สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาคือ คฤหาสน์ที่เงียบสงบไร้ผู้คนแห่งหนึ่ง

ลู่ฝานคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีสถานที่แบบนี้ในเมืองหลวง เขาเข้าใจว่าเมืองหลวงจะมีแต่สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ตระการตา คิดไม่ถึงว่าจะมีคฤหาสน์ที่เงียบเหงาแบบนี้ด้วย

เมื่อมองไป บริเวณรอบๆ สิบลี้ มีหญ้ารกสูงประมาณครึ่งตัวคน

เรือนโดดเดี่ยวแห่งหนึ่ง ประตูเปิดอยู่ข้างหนึ่งส่วนอีกข้างปิดไว้ อีกทั้งยังผุเป็นรูใหญ่ ขนาดที่คนสามารถมุดเข้าไปได้ ไม่รู้ว่าประตูนี้ยังใช้งานอะไรได้อีก

องครักษ์เกราะทองกลุ่มหนึ่งเดินออกมา หัวหน้าองครักษ์เกราะทองพูดกับลู่ฝานว่า “เชิญครับคุณชายลู่!”

ลู่ฝานขมวดคิ้วแน่น สูดหายใจลึกแล้วเดินช้าๆ เข้าไปข้างใน

เดินผ่านประตูใหญ่ที่ผุพัง ผ่านกำแพงกระดำกระด่าง เดินผ่านลานด้านหน้ามาถึงด้านในสุดของคฤหาสน์

องครักษ์เกราะทองพาลู่ฝานมาถึงด้านนอกห้องห้องหนึ่ง ห้องที่เต็มไปด้วยใยแมงมุม ดูเหมือนไม่มีคนอยู่นานมาก ใยแมงมุมหน้าประตูเกือบรวมกันเป็นกำแพงแล้ว

องครักษ์เกราะทองพูดกับลู่ฝานว่า “เชิญข้างในครับคุณชายลู่!”

ลู่ฝานจ้ององครักษ์เกราะทองเขม็ง เพื่อให้แน่ใจว่าไอ้ตัวใหญ่นี่ไม่ได้ล้อเขาเล่น ลู่ฝานกัดฟันเดินผ่านใยแมงมุมไป

ลู่ฝานยื่นมือออกมา จะดึงใยแมงมุมออก แต่มือเพิ่งสัมผัสกับใยแมงมุม จู่ๆ ลู่ฝานกลับรู้สึกว่าหัวของตัวเองทะลุผ่านไป เหมือนทะลุม่านน้ำหนึ่งชั้น

วิชาพรางตา!

ลู่ฝานก้าวเข้าไปหนึ่งก้าวทันที จู่ๆ สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือวังแห่งหนึ่ง วังสีทองระยิบระยับ!

ข้างบนวัง ฉินฝานนั่งทำสมาธิอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นลู่ฝานก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ลู่ฝาน นายมาแล้วเหรอ มาดูของที่ฉันเตรียมไว้ให้นายสิ!”

จู่ๆ ลู่ฝานมองเข้าไปในโถงใหญ่ เห็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่สองสามตัวกำลังต้มยา หม้อยาขนาดใหญ่หนึ่งหม้อ ของเหลวสีเขียวในหม้อมีความหนืด อีกทั้งยังเดือดปุดจนเป็นฟองอย่างต่อเนื่อง สัตว์อสูรหัวเป็นวัว ตัวเป็นสิงจำนวนสามตัว ตัวสูงประมาณสามเมตรกว่า ต่างถือกระบองกระดูกขนาดใหญ่ไว้ในมือคนละอัน กำลังกวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ของเหลวจับตัวกัน ด้านล่างหม้อยักษ์ มีเปลวไฟสีขาวดำลุกโชนอยู่อย่างต่อเนื่อง “นี่คืออะไร”

ลู่ฝานเดินไปข้างหน้า พลางถามออกมา

ฉินฝานหัวเราะเสียงดัง ลุกขึ้นมาจากบัลลังก์ ชี้ของเหลวในหม้อขนาดใหญ่แล้วพูดว่า “น้ำหุ่นเชิดสัตว์จิตเย็น เคยได้ยินไหม”

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่เคยได้ยินเลยครับ”

ฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่อีกชื่อหนึ่งนายน่าจะเคยได้ยิน ยาเปลี่ยนโลหิต!”

ทันใดนั้น ลู่ฝานชะงักฝีเท้าลง พูดอย่างตะลึงว่า “คุณว่าอะไรนะ นี่คือยาเปลี่ยนโลหิตเหรอ”

ฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ถ้าพูดให้ถูก นี่คือยาเปลี่ยนโลหิตที่ฉันเพิ่มความแข็งแกร่งเข้าไป เป็นยาเปลี่ยนโลหิตที่สามารถทำให้นายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอด ภายในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ลู่ฝาน นายมาลองสิ!”