บทที่ 2086 – ชิงสุ่ย ข้ายังไม่พร้อม

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2086 – ชิงสุ่ย ข้ายังไม่พร้อม
  เขายกแขนขึ้นเพื่อโคจรพลังเก้าหยาง ด้วยพลังเก้าหยางและรากฐานแห่งลมปราณ เลือดที่หลงเหลืออยู่ของราชาปีศาจก็ค่อยๆเลือนลางหายไป จากนั้นชิงสุ่ยก็กล่าวว่า “ตอนนี้จะไม่มีใครหามันเจออีกแล้ว”
  “พวกเราได้ตกลงกันไว้แล้ว เมื่อข้าใช้ไปถึงระยะเวลาหนึ่ง แล้วข้าจะรีบคืนให้ท่านทันที”เฉินหวงกล่าวขณะที่เธอเก็บเตียงหินหยกเยือกแข็ง
  “อืม ได้เลย ว่าแต่ การพูดการจาของท่านทำไมถึงทำให้พวกเราดูเหินห่างกันขนาดนี้”ชิงสุ่ยจ้องมองเฉินหวงด้วยความสับสน
  สีหน้าการแสดงออกของเฉินหวงดูผิดธรรมชาติเล็กน้อย เมื่อมองไปที่ชิงสุ่ย เธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอควรจะพูดอะไร เธอคือผู้หญิงที่ควรสงวนท่าที แต่ในใจก็ร้อนรุ่มเพราะการช่วยเหลือของเขาที่ช่วยให้เธอรอดชีวิต บางทีในใจของเธอเธอเองก็อยากมีเส้นทางของตัวเอง แล้วตัวเองก็อยากจะจุมพิตกับผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียว
  เมื่อตอนที่เธอออกตามหาชิงสุ่ย เธอวางแผนจะฉลองปีใหม่ร่วมกับเขา แต่ใครจะไปคิดว่าร่างกายของเธอจะทนรอให้พ้นปีใหม่ไม่ได้ เธอไม่ได้คาดคิดว่าร่างกายของชายคนนี้จะเป็นร่างกายที่หายากและช่วยยืดอายุชีวิตของเธอได้อีกแม้แต่นิดหน่อยก็ตาม
  นอกจากนี้ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอก็เป็นคนพยายามทุกวิถีทางแสวงหาโอกาสให้เธอได้มีชีวิตรอดแม้จะริบหรี่ การทุ่มเทแรงกายแรงใจไม่ใช่เรื่องง่าย การเผชิญหน้ากับดินแดนเพลิงระอุก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกทั้งยังอยู่ห่างไกล แต่ชายคนนี้ก็สามารถเดินทางไปยังดินแดนเพลิงระอุได้ภายในเวลาอันสั้น เธอเองก็นึกไม่ออกว่าใครจะมีความสามารถเช่นนี้
  หลังจากนั้น เรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้น ทั้งสองคนได้เผชิญหน้ากับภัยอันตรายแต่ก็สามารถฟันฝ่ามันมาได้อย่างปลอดภัย สุดท้ายทั้งสองคนก็ไม่อาจหาหนอนผีเสื้อเพลิงได้ แต่ได้ไปเจอกับลูกท้อแห่งความอมตะแน ด้วยโชคชะตาหรือฟ้าฝนโดนใจ ทักษะการรักษาของชายคนนี้ก็สามารถกำจัดพิษน้ำแข็งดำได้จนสำเร็จ ทำให้เธอติดหนี้บุญคุณชีวิตเขาอีกครั้ง
  “ข้าเคยบอกไปแล้วว่าท่านคือคนที่ข้าสนิทที่สุดในชีวิต แม้ว่าวันนี้ท่านจะฆ่าข้า ข้าก็พร้อมจะยอมตาย”เฉินหวงกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
  “อย่าพูดเรื่องไร้สาระเลย ข้าจะฆ่าท่านได้อย่างไร”ชิงสุ่ยส่ายหน้า
  “บางเรื่องมันก็ยากที่จะพูด ข้าคงไม่อาจรับประกันได้ว่าในอนาคตเราจะไม่เป็นศัตรูกัน แล้วถ้าวันนั้นมีจริง ท่านจะทำอย่างไร”เฉินหวงกล่าว ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่ชอบคิดการณ์ไกล
  ชิงสุ่ยลูบหัวของตัวเองและกล่าวว่า “ข้าไม่ได้เป็นพวกสูงส่ง ไม่ได้เป็นพวกนักบุญ ไม่ได้ยืนหยัดอยู่บนความยุติธรรม แม้ว่าผู้หญิงของข้าจะเป็นผู้นำของเหล่าปีศาจ ข้าก็พร้อมจะยืนข้างเธอ”เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา
  “โอ้ จริงหรือ?”เฉินหวงจ้องมองชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้ม
  “จริงๆแล้ว ข้าไม่เคยสนใจความคิดของคนอื่น ตราบใดที่ข้าพยายามรักษาผู้ใด ข้าก็จะทุ่มเททั้งชีวิต อย่าลืมสิว่าข้าคือหมอเทวดา”ชิงสุ่ยพูด
  “ช่วงนี้ท่านจะต้องระวังให้มาก ข้าคงต้องขอแยกตัวเข้าฌานฝึกปราณ”เฉินหวงตัดสินใจเส้นทางเดินของเธอ
  ชิงสุ่ยค่อนข้างแปลกใจ แต่เมื่อนึกถึงผลประโยชน์มากมายที่เธอเพิ่งได้รับ โดยเฉพาะเตียงหินหยกเยือกแข็ง การแยกตัวฝึกฝนอย่างสันโดษคงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และหลังจากที่เธอฝึกฝนเสร็จสิ้น เธอจะต้องออกมาด้วยความแพรวพราวสุกสกาวยิ่งกว่าดวงดาว เฉินหวงคงจะกลายเป็นเทวดาที่สยายปีกบินไปทั่วทั้งสวรรค์ชั้นเก้า และกลายเป็นวิหคเพลิงที่แท้จริง
  “ในตอนที่ท่านฝึกตนก็อย่าลืมข้า และเมื่อท่านออกมา ก็อย่าลืมว่าข้าเป็นใคร”ชิงสุ่ยพูดอย่างจริงใจ
  “แม้ว่าข้าจะลืมถึงขั้นที่ว่าตัวเองนั้นเป็นใคร แต่ข้าจะจดจำท่าน จดจำสิ่งที่ท่านปฏิบัติต่อข้า ให้ได้มากกว่าชีวิตตัวเอง”เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
  คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่ออกมาจากคนที่ใกล้ชิดกันมากที่สุดเท่านั้น
  “สิ่งของเหล่านี้เป็นของท่านแล้ว พวกมันจะช่วยเหลือท่าน วิธีใช้งานอยู่ข้างใน”ชิงสุ่ยมอบยาอันแสนล้ำค่าให้กับเธอ เพื่อให้เธอได้ใช้ยามแยกตัวฝึกฝนละทางโลก
  “อืม”เฉินหวงตอบอย่างนิ่มนวลขณะรับสิ่งของ
  “ข้าเองก็คงต้องขอตัว!!”ชิงสุ่ยกล่าว
  ภายนอกอาจจะดูสงบ แต่ภายในใจของเฉินหวงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย ชิงสุ่ยยิ้มรับรอยยิ้มที่เธอมอบให้เขา และหันหลังกลับไป
  “ชิงสุ่ย!!”   น้ำเสียงที่แสนนุ่มนวลของเธอมันทำให้ร่างกายของชิงสุ่ยตั้งสถาน ก่อนที่เขาจะได้หันหลังกลับไป เขาก็รู้สึกได้ถึงร่างอันแสนบอบบางกำลังกอดเขา เขาจึงหันกลับไปกอดเธอแน่น
  “หยุดก่อน ข้ายังเสียความบริสุทธิ์ของข้าไม่ได้ ด้วยทักษะการฝึกฝนที่ข้าฝึกฝน มันไม่ได้จริงๆ”เฉินหวงจับมือของชิงสุ่ยที่กำลังเลื้อยเข้าไปในแผ่นหลังของเธอ
  “ไม่ได้จริงหรือ?” ชิงสุ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
  “ข้าก็ไม่รู้ ข้ารู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้”เฉินหวงหน้าแดงก่ำ
  ชิงสุ่ยกอดเธอ คำพูดของเธอพิสูจน์แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนนั้นสนิทสนมกันมากเพียงใด และการกระทำก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างดี แต่น่าเสียดายที่เธอทำไม่ได้และชิงสุ่ยก็ไม่กล้าแตะต้องตัวเธอ อย่างไรก็ตามเขาก็ปกติข้างหูเธอว่า “เออ แล้วท่านอยากให้ข้าทำให้ท่านมีความสุขเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่?”
  ร่างอันแสนผอมเพียงของเฉินหวงสั่นสะท้าน ในที่สุดเขาก็ใช้ทักษะหัตถ์พลิ้วไหวสะเทือนวิญญาณในการนวดไปตามกระดูกของเธอ ทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วน แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่พอใจมากนัก แต่การได้เห็นผู้หญิงของเขามีสีหน้าที่มีความสุข หัวใจของเขาก็เป็นสุข
  เฉินหวงรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่แข็งตัวและกำลังดันร่างกายส่วนล่างของเธอ แน่นอนว่ามันคือส่วนที่เธอเคยจับมาก่อน เธอหน้าแดง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจและเปล่งประกายเสน่ห์ที่รุนแรง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ร่วมรักกัน ชิงสุ่ยก็เลือกที่จะเห็นธนาการความหลงใหลในวันที่เขาได้ทำกับเธอจริงๆ
  “ท่านกำลังจินตนาการถึงสิ่งใด…..”เฉินหวงไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
  ชิงสุ่ยบ่นพึมพำอะไรบางอย่างข้างหูของเธอ มันทำให้เธอสั่นและครางออกมา
  ชิงสุ่ยรอเฉินหวงเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะส่งเธอกลับไปยังภูเขาวิหคเพลิงและจากไป
  เขาใช้ย่างก้าว 9 เทวาเพื่อเดินทางกลับไปยังหอคอยจักรพรรดิแห่งเมืองรุ้งคราม
  การเดินทางเพียงไม่กี่วันของเขา เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย เขาสังหารคนที่อยู่ในสังกัดพระราชวังราชาปีศาจไปถึง 4 คน พวกเขาอาจจะเป็นคนของประตูอสูรปีศาจก็เป็นได้ แต่มันก็ยังเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน
  เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาจะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มประตูอสูรปีศาจที่แท้จริงและกลุ่มพระราชวังสวรรค์ มันคือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับใคร ผู้ที่แข็งแกร่งสุดก็จะมีอำนาจสูงสุดเสมอ
  เขาคือเทพสงครามทองคำ ผู้นำแห่งเหล่าเทพสงคราม เขาไม่อาจยืนยันได้ว่าตัวเขานั้นเป็นเพียงแค่คนเดียวที่ได้รับตำแหน่งนี้ แต่ถ้าหากยังมีลูกหลานของเทพสงครามทองคำหลงเหลืออยู่ ผู้ที่แข็งแกร่งสุดก็จะได้ตำแหน่งผู้นำแห่งเทพสงคราม ชิงสุ่ยพร้อมที่จะมอบตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือการพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเอง พลังป้องกันของเขาสูงก็จริง แต่พลังโจมตีของเขาช่างน่าสมเพช หากเปรียบเทียบกับเฉินหวงแล้ว ระดับมันต่างกันเกินไป ต่อให้เขาใช้ภูเขา 9 เทวาเข้าช่วย มันก็ไม่อาจลดช่องว่างความแตกต่างพลังได้
  ตอนนี้เสือใหญ่กลายเป็นเสาหลักของหอคอยจักรพรรดิ เขาทุ่มเททั้งชีวิตอุทิศให้กับการทำงาน แต่ช่างน่าเสียดายที่ความสามารถของเขายังห่างไกลกับชิงสุ่ย ความแข็งแกร่งของเขายังไม่ถึงระดับมาตรฐานของผู้คนชั้นสูง ดังนั้นทักษะการแพทย์ของเขาจึงถูกจำกัดด้วยพลัง อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยเองก็ได้สอนทักษะการฝังเข็มง่ายๆหลายอย่างที่ไม่ต้องใช้พลังมาก แม้ผลลัพธ์จะไม่ดีเท่า แต่ก็เป็นประโยชน์มาก