ตอนที่ 1978

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,978 : สิ้นสุด

 

นักรบมังกรเก้ากรงเล็บ!

 

สำหรับศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์กับหงชวีแล้ว นี่คือตัวตนที่ดำรงอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น!

 

แต่ทว่าวันนี้…พวกมันกลับได้เห็นตัวตนในตำนานกับตา!

 

ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าทำให้พวกมันรู้สึกเหลือเชื่อเกินจริง ประหนึ่งกำลังอยู่ในห้วงแห่งความฝันก็ไม่ปาน

 

จนกระทั่งพวกมันทดสอบบิดเนื้อหยิกตัว จึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป

 

ทุกเรื่องราวเบื้องหน้าล้วนเป็นความจริง!

 

ต้วนหลิงเทียนเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บจริงๆ!

 

“ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจะเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ…แถมหลังจากแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บแล้ว! กระทั่งศิษย์พี่หงชวีที่ใช้โอสถต้องห้ามยังมิใช่คู่มือ!”

 

“นั่นสิ! พลังสังหารที่ศิษย์พี่หงชวีระเบิดออกมาเมื่อครู่ สมควรเป็นพลังสูงสุดเท่าที่จะทำได้หลังจากกินโอสถต้องห้ามนั่น…ทว่าตอนนี้ผลของโอสถต้องห้ามนั่นท่าทางจะเหลืออยู่อีกมิมากแล้ว คิดจะปลดปล่อยท่าไม้ตายที่รุนแรงเช่นนั้นอีกย่อมเป็นไปไม่ได้!”

 

“ศิษย์พี่หงชวีกำลังจะแพ้!”

 

“แพ้? พวกเจ้าคิดว่าศิษย์พี่หงชวีจะแค่แพ้เฉยๆรึไร? อย่าลืมว่าเมื่อครู่การลงมือของศิษย์พี่หงชวีล้วนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน! ตอนนี้ต่อให้ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนคิดฆ่าคนบ้าง ก็ล้วนเป็นการป้องกันตัวและมิได้ละเมิดกฏใดๆของลัทธิบูชาไฟ! แล้วพวกเจ้าคิดว่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจะปล่อยไปไหมเล่า?”

 

 

เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์กระซิบกระซาบกันดังระงม เมื่อต้วนหลิงเทียนแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ พวกมันก็รู้สึกว่าหงชวีไม่พ้นต้องตายคามือต้วนหลิงเทียนแน่

 

และต้วนหลิงเทียนก็เป็นอย่างที่พวกมันคาด เขาคิดจะฆ่าหงชวีให้ตาย!

 

ฟุ่บ!

 

ด้วยอำนาจของเวทย์พลังเสริมท่าร่างอันเลิศล้ำอย่างปีกอีกาทองคำ ร่างต้วนหลิงเทียนก็พุ่งเข้าหาหน้าหงชวีด้วยความเร็วสูง!

 

ตอนนี้เขาไม่กลัวว่าหงชวีจะว่องไวเหนือเขา

 

นั่นเพราะเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ ว่าผลของโอสถต้องห้ามสมควรเหลืออีกไม่นานแล้ว

 

เหลือเวลาอีกแค่ไม่นานเท่านั้นผลของโอสถต้องห้ามนั่นก็จะหมดไป…หลังจากนั้นหงชวีก็เป็นได้แค่ลูกแกะที่รอรับความตายจากเขา!

 

อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนที่คิดว่าหงชวีจะหนีหลังเห็นเขาพุ่งเข้ามา…

 

เขากลับพบว่าหงชวีไม่คิดจะหนีไปไหน!

 

หงชวีลอยร่างอย่างสงบประหนึ่งท่อนไม้!

 

‘มันคิดจะทำอะไรอีก…’

 

เมื่อเห็นหงชวีเผยทีท่าเช่นนี้ ในใจต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความระแวง เช่นนั้นร่างเขาพลันหยุดลงโดยเว้นระยะห่างจากหงชวีเอาไว้หลายก้าว

 

ถึงแม้เขาคิดจะฆ่าหงชวี

 

แต่ตอนนี้การตอบสนองของหงชวีมันแปลกเกินไป เช่นนั้นเขาจึงไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม

 

“ต้วนหลิงเทียน”

 

และตอนนี้เองหูต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงหนึ่งดังชัด

 

เขาย่อมฟังออกว่ามันเป็นเสียงของหงชวี

 

ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนพลันชักหน้าเข้ม คิ้วยังขมวดเป็นปมขึ้นมา

 

ขนาดนี้แล้ว หงชวียังคิดส่งเสียงมาพูดอะไร?

 

หรือคิดขอความเมตตาจากเขา?

 

“ต้วนหลิงเทียนข้ารู้ดีว่าตอนนี้เจ้าคงอดทนรอฆ่าข้าไม่ไหวแล้ว…แต่นั่นก็สมควร เพราะอย่างไรเหตุผลที่ข้ามาวันนี้ก็คือฆ่าเจ้า…”

 

เสียงของหงชวียังคงดังสืบต่อ “ตอนนี้ที่ข้าส่งเสียงถึงเจ้ามิใช่เพื่อใดอื่นหากแต่เพื่อครอบครัวของข้า…ข้ารู้ว่าตอนนี้ต่อให้ยังเหลือผลของโอสถต้องห้ามแต่ข้าก็ไม่ใช่คู่มือเจ้าในร่างนักรบมังกร! ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ของโอสถต้องห้ามที่ข้ากินไปอย่าง ‘โอสถกุ่ยจิน’ ก็เริ่มเสื่อมลงแล้ว เช่นนั้นข้าคงไม่มีปัญญาฆ่าเจ้าได้อีกต่อไป…”

 

ได้ยินคำของหงชวี คิ้วที่ขมวดของต้วนหลิงเทียนค่อยคลายลงเล็กน้อย

 

หงชวีคนนี้อย่างน้อยก็ยังรู้สภาพตัวเอง!

 

“โอสถกุ่ยจินที่ข้าใช้ แม้จะมองทั่วภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าก็ยังถือเป็นโอสถต้องห้ามลือชื่อ…หากแต่โอสถกุ่ยจินที่ข้ารับประทานป็นเพียงโอสถกุ่ยจินคุณภาพต่ำเท่านั้น…”

 

“หากเป็นโอสถกุ่ยจินคุณภาพสูง มันแม้กระทั่งยกระดับพลังของตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ให้เพิ่มพูนขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆได้…ซึ่งโอสถกุ่ยจินระดับนั้นนับเป็นอะไรที่มีราคาค่างวดมหาศาลนัก และมีเพียงปรมาจารย์เซียนหลอมโอสถระดับกึ่งสวรรค์เท่านั้น ที่จะหลอมปรุงมันออกมาได้”

 

หงชวีกล่าวสืบต่อ

 

หากกล่าวว่าก่อนหน้าต้วนหลิงเทียนไม่ทราบเรื่องของโอสถกุ่ยจินเลยล่ะก็

 

หลังได้ฟังคำของหงชวี เขาก็ได้รับทราบเรื่องของโอสถกุ่ยจินกระจ่าง ‘โอสถที่ว่านั่นมีแต่ปรมาจารย์เซียนหลอมระดับเทียมสวรรค์เท่านั้นที่หลอมได้?’

 

“ที่ข้ากล่าวบอกเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง เพราะหวังว่าเจ้าจะมีใจช่วยเหลืออะไรข้าสักเล็กน้อย…หลังจากที่ข้าตายรบกวนเจ้าช่วยไปแจ้งข่าวแก่ตระกูลข้าเพื่อให้ทุกคนอพยพให้เร็วที่สุด!”

 

เสียงของหงชวียังคงถูกส่งเข้าหูต้วนหลิงเทียนไม่หยุด

 

“และเพื่อตอบแทนความเมตตาของเจ้าครั้งนี้ข้ายินดีจะบอกความลับบางอย่างต่อเจ้า…เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นเพราะอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬเรา หลี่อัน! มันใช้คนทั้งตระกูลข้ามาบีบคั้นให้ข้าต้องทำแบบนี้! กระทั่งโอสถกุ่ยจินก็เป็นมันที่มอบให้ข้าใช้!!”

 

เมื่อหงชวีกล่าวถึงหลี่อัน คนก็กัดฟันดังกรอดๆ

 

“หลี่อัน!?”

 

สีหน้าต้วนหลิงเทียนกลายเป็นอึมครึมทันใดเมื่อได้ยินคำพูดของหงชวี

 

เขาย่อมเชื่อคำพูดของหงชวี

 

นั่นเพราะเขาจดจำได้ดีถึงแววตาของหงชวีตอนที่ได้พบเขาครั้งแรก ในนั้นคล้ายมีความทดท้อจนปัญญาแฝงเร้นอยู่!

 

ก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจว่าไฉนแววตาของหงชวีจึงคล้ายอับจนเช่นนั้น

 

แต่ตอนนี้หลังได้ฟังเรื่องราวจากหงชวีเขาพลันเข้าใจทุกอย่างได้ทันที

 

และตอนนี้เขายังเข้าใจได้ชัดเจน ว่าในใจของหงชวีรู้สึกสิ้นหวังและไร้หนทางถึงเพียงใด

 

ภายใต้การข่มขู่บีบคั้นของหลี่อัน…

 

หงชวีไร้ซึ่งทางเลือกอันใด!

 

ตอนนี้ความระแวงและความคิดฆ่าฟันของต้วนหลิงเทียนที่มีต่อหงชวีก็ลดลงทันที

 

กระทั่งต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้ เขาไม่คิดฆ่าหงชวีอีกต่อไป

 

ตอนนี้เขากลับสงบนัก ดั่งน้ำนิ่งในบ่อโบราณอันเยียบเย็น

 

ที่แท้ทุกอย่างเป็นฝีมือหลี่อัน!

 

“เจ้าไปหาอาวุโสคุมกฏกัวฉงเพื่อแจ้งเรื่องนี้ก็ได้ ทำไมไม่ทำ?”

 

ต้วนหลิงเทียนมองหงชวีพร้อมกล่าว “หากเจ้าคิดว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะแจ้งเรื่องนี้ต่ออาวุโสคุมกฏ เช่นนั้นเจ้าเพียงรอให้ผ่านการทดสอบรับศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน พอเป็นศิษย์ฝ่ายในแล้วเจ้าค่อยไปแจ้งที่หอคุมกฏในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อฟ้องร้องมันโดยตรงก็ได้!”

 

“ล้วนไร้ประโยชน์…”

 

หงชวีกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ข้าฟ้องมันแล้วอย่างไร ต่อให้ข้าฟ้องร้องจนชนะคดีความ แต่อย่างดีลัทธิบูชาไฟก็ลงโทษมันสถานเบาเท่านั้น…หลังจากมันถูกลงโทษแล้วมันย่อมผูกใจเจ็บมากกว่าเดิม”

 

“ถึงตอนนั้นต่อให้มันไม่กล้าแตะต้องข้าเพราะกฏลัทธิบูชาไฟ…แต่ครอบครัวข้าเล่า? ยังจะรอดพ้นเงื้อมมือมันได้หรือ   เมื่อมันฆ่าข้าไม่ได้มันย่อมเอาโทสะไปลงที่ครอบครัวข้าอยู่ดี…”

 

“หากไม่ใช่เพื่อครอบครัว ข้าไม่มีวันทำตามคำสั่งของมัน! เพราะหากอยู่ในลัทธิบูชาไฟแห่งนี้ มันก็ไม่มีวันทำอะไรข้าได้!”

 

กล่าวถึงจุดนี้หงชวีได้แต่เผยยิ้มขื่นขม “และก่อนที่ข้าจะถูกส่งมามันยังบอกข้าอีกว่า…หากข้าฆ่าเจ้าล้มเหลว ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรมันก็ไม่คิดละเว้นครอบครัวข้าเช่นกัน!”

 

“เช่นนั้น…ต้วนหลิงเทียน ข้าหวังว่าเจ้าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อแจ้งข่าวนี้ให้แก่ครอบครัวข้า! ให้ทุกคนอพยพหลบหนีไปให้พ้นมือของหลี่อัน!”

 

“ตราบใดที่เจ้าช่วยข้า…ขอเพียงชาติหน้ามีจริง ข้ายินดีเป็นม้าเป็นวัวของเจ้า!”

 

หงชวีกล่าวไม่ทันขาดคำ มือของมันก็ผนึกควบพลังขุมหนึ่งกอนจะตบฟาดลงกลางกระหม่อมด้วยความฉับไวปานฟ้าผ่า!

 

ตุบ!

 

ไม่จนกระทั่งร่างของหงชวีร่วงตกกระแทกพื้นส่งทำนองทึบหม่น ต้วนหลิงเทียน รวมถึงศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ถึงค่อยรู้สึกตัว…

 

บัดนี้นอกจากต้วนหลิงเทียนที่เผยสีหน้าซับซ้อนแล้ว ก็เหลือเพียงซากร่างไร้ชีวิตของหงชวีบนพื้นเกาะลอยเกาะหนึ่ง…

 

เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะตะลึง “ศะ…ศิษย์พี่หงชวีฆ่าตัวตาย?”

 

“ดูเหมือนจะกลัวถูกต้วนหลิงเทียนทรมาน! หาไม่แล้วจะกระทำการวู่วามอย่างฆ่าตัวตายเช่นนี้หรือ?”

 

“ฆ่าตัวตายถือว่าวู่วามอันใด? อย่างไรก็ต้องตาย เช่นนั้นฆ่าตัวตายเสียยังถือว่าจบเรื่องได้รวดเร็ว และรวบรัดกว่ากันมาก!”

 

 

ถึงแม้จะเห็นหงชวีฆ่าตัวตายไปง่ายๆแบบนี้จะทำให้ศิษย์แท่นบูชาอึ้งไปอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดก็เข้าใจการกระทำของหงชวีได้

 

“ช่างไร้ประโยชน์นัก!”

 

ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่หลี่อันส่งมาจับตามองพลันขมวดคิ้วทันที เมื่อเห็นหงชวีฆ่าตัวตายไปง่ายๆแบบนี้

 

อย่างไรก็ตามเมื่อมันละสายตาไปมองร่างที่ลอยอยู่ห่างไกลของต้วนหลิงเทียน แวตาของมันก็อดไม่ได้ที่จะเผยความหวาดกลัวออกมา “และ…เจ้าต้วนหลิงเทียนผู้นี้ มันกลับเป็นถึงนักรบมังกร 9 กรงเล็บ! ข่าวนี้ข้าต้องรีบแจ้งไปให้ถึงอาวุโสหลี่อันโดยเร็วที่สุด!!”

 

มันรู้ดีว่า ‘นักรบมังกร 9 กรงเล็บ’ หมายความว่าอะไร

 

หลังจากนั้นไม่นานนัก อาวุโสในเขตลงทัณฑ์ของเหมืองลำดับที่ 1 ก็มาถึงจุดเกิดเหตุ

 

ผู้มาเป็นอาวุโสเพลิงทองแดงถึง 4 คน และแต่ละคนก็มาจากแท่นบูชาจตุรลักษณ์แต่ละแห่ง!

 

พอได้รับแจ้งเรื่องนี้พวกมันทั้งหมดก็รุดเร่งมาที่นี่โดยเร็วที่สุด ระหว่างทางในใจของพวกมันยังกังวลไม่น้อย ด้วยรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนไม่น่าจะรอดไปได้…

 

บางทีหงชวีในยามปกติอาจไม่สามารถฆ่าต้วนหลิงเทียนได้

 

อย่างไรก็ตามเมื่อหงชวีใช้โอสถต้องห้าม พอพลังเพิ่มพูนขึ้นมาจนกล้าแข็งกว่าเดิม น่ากลัวว่าคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะฆ่าต้วนหลิงเทียน!

 

นี่คือความในใจของพวกมัน

 

พวกมันรีบร้อนรุดมาเพราะกังวลว่าต้วนหลิงเทียนจะมีอันเป็นไป!

 

ถึงแม้พวกมันจะยังไม่ทราบว่าต้วนหลิงเทียนที่แท้มีความเป็นมาอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม หลังตัดสินจากความจริงที่ว่าต้วนหลิงเทียนคนนี้ แม้แต่หอคุมกฏในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังคล้ายจะเข้าข้าง!  เช่นนั้นภูมิหลังของต้วนหลิงเทียนก็สมควรไม่ธรรมดาแน่!!

 

หาไม่แล้วไหนเลยต้วนหลิงเทียนจะได้รับความคุ้มครองจากอาวุโสคุมกฏรวมถึงหอคุมกฏในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ได้ แม้จะเป็นเพียงผู้มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลือง?

 

พวกมันย่อมเป็นกังวลใจหนักหนาว่าทางหอคุมกฏจะคาดโทษพวกมัน เพราะความตายของต้วนหลิงเทียน!

 

อย่างไรก็ตาม พอพวกมันมาถึงจุดเกิดเหตุ พวกมันก็ถึงกับต้องตกตะลึง!

 

เพียงเพราะทุกเรื่องราวเบื้องหน้า ช่างเป็นอะไรที่อยู่เหนือจินตนาการขอพวกมันนัก!

 

“หงชวีตายแล้วหรือ?”

 

ไม่ทันไรก็เป็นอาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่สังเกตเห็นซากร่างของหงชวีก่อนใคร สีหน้าของมันยังแลดูน่ากลัวไม่น้อย

 

หลังจากละสายตาเงยหน้าขึ้นมาจากซากร่าง มองไปสักพบมันก็พบร่างต้วนหลิงเทียนในที่สุด

 

“เจ้านั่นคือต้วนหลิงเทียนหรือ?”

 

ขณะเดียวกันสายตาของอาวุโสเพลิงทองแดงอีก 3 คนก็มองตามสายตาของอาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชาเต่าทมิฬไปจนพบต้วนหลิงเทียนในที่สุด

 

และตอนนี้สายตาของอาวุโสเพลิงทองแดงทั้ง 4 ก็เผยความไม่อยากจะเชื่อทั้งประหลาดใจออกมา!