ตอนที่ 2925 ฝันร้ายอันยาวนานตลอด 80 ปี

Reincarnation Of The Strongest Sword God

ตอนที่ 2925 ฝันร้ายอันยาวนานตลอด 80 ปี

เกาเชิงฮั่ว อดีตหัวหน้ากิลด์อูโรโบรอส ตัวตนของชายผู้นี้นั้นฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของเธอมาหลายปีแล้ว พวกเขาได้ประลองเดิมพันเป็นตาย และทำสัญญาผ่านระบบหลักของ God domain เพื่อกำจัดผู้แพ้ออกไปจาก God Domain อย่างถาวร โชคดีที่เธอเอาชนะมาได้ด้วยความช่วยเหลือของซือเฟิง กับไวโอเล็ตคลาวด์ ซึ่งมันก็ทำให้เกาเชิงฮั่วนั้นถูกกำจัดออกไปจาก God Domain อย่างถาวร แต่กระนั้น อิทธิพลของเขาก็ยังมีผลต่ออูโรโบรอส แถมเขายังปล้นทรัพยากร และแย่งชิงเหล่าสมาชิกกิลด์ที่มีความสามารถมากที่สุดไปอีกด้วย และท้ายที่สุดหลังจากที่เสวี่ยเหวินโหรวผ่านความยากลำบากมามากมาย เธอจึงกลับมาควบคุมกิลด์ได้ได่อย่างเบ็ดเสร็จอีกครั้ง แต่กระนั้นเธอก็ต้องพบว่า กิลด์นี้เป็นดั่งเรือที่ใกล้จะล่มแล้ว

เขาอยู่ในคราบร่างของจ้าวเยว่รู่ได้อย่างไรกัน?

แล้วไวโอเล็ตคลาวด์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องนี้?

“เธอทรยศฉัน” เกาเชิงฮั่วกระซิบข้างๆหูเสวี่ยเหวินโหรว

จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น พยายามฝืนลุกขึ้นมาจากเตียงพลางหายใจหอบเหนื่อย ในขณะที่ร่างกายของเธอ เปียกโชกและเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอกลับมายังห้องหรูหราที่คุ้นเคยแล้ว ซึ่งนี่มันก็เป็นหนึ่งในห้องชั้นบนสุดของคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ระหว่างชั้นพื้นฐานกับชั้นกลางของ Upper Zone เมืองหยวนเทียน

“ฝันร้ายอีกแล้ว…” เสวี่ยเหวินโหรวบ่นกับตัวเองพร้อมกับถอนหายใจ

ถัดจากเตียงของเธอก็เป็นอควาโรสที่มีใบหน้าไร้อารมณ์ตามปกติ เธอเองก็เคยกรีดร้องออกมาเหมือนกัน ซึ่งทั้งสองก็มักจะเกิดอาการเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง

เสวี่ยเหวินโหรวหันไปมองเธอด้วยท่าทางเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด “ก็แค่ฝันร้ายอีกคืน…”

อควาโรสยิ้มให้เธอ นับเป็นรอยยิ้มที่เธอไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่ออกมาจากห้วงมิติที่ปั่นป่วนวุ่นวาย “ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาเธอกลับไปนอน”

อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมาเสวี่ยเหวินโหรวก็รู้สึกเจ็บแปลบ อควาโรสใช้มีดสั้นแทงไปที่หน้าอกของเธอ พร้อมกันนั้นใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มกลับกลายเป็นไร้อารมณ์อย่างที่ควรจะเป็น ….

เสวี่ยเหวินโหรวกรีดร้องและลุกขึ้นมา มือกุมหน้าอกไว้มั่น แต่ไม่มีบาดแผล เช่นเดียวกันกับอควาโรสที่ไม่อยู่เสียแล้ว เธอหอบหายใจอย่างหนัก เหงื่อมากมายหลั่งไหลออกมาจนเตียงเปียกชุ่ม

เธอกลับมาอยู่ในห้องอันหรูหราในคฤหาสน์อีกครั้งแล้ว และเธอก็ไม่ได้นอนอีก ฝันร้ายที่วนเวียนอยู่ในฝันร้ายอีกที เป็นฝันร้ายที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ

หลังจากนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็ถอนหายใจอีกครั้งเมื่อพบว่าเธอไม่ได้สูญเสียความทรงจำใดๆ ในขณะที่สภาสิบแปดปีกฉลองให้กับการเลื่อนขั้นของเหล่าสมาชิก ซือเฟิงกลับไม่เคยฉลองให้กับความสำเร็จใดๆของเขาเลย ทำไมคนที่กลายเป็นเทพถึงได้ต่างออกไปนะ? เมื่อซือเฟิงเลื่อนขั้น สภาสิบแปดปีกจะฉลองโดยไม่มีเขาอยู่ด้วย ถึงเธอจะเชิญเขามางานเลี้ยงของตนเอง เขาก็จะปฏิเสธและบอกว่าไม่มีเวลาเป็นแน่ นอกเหนือจากนั้นเผลอๆเขายังจะใช้ให้เธอทำงานที่น่าเบื่ออีกด้วย

‘เสวี่ยเหวินโหรว ช่วยไปที่นี่แล้วเก็บรวบรวมของพวกนี้มาให้ฉันหน่อย เสวี่ยเหวินโหรว เสวี่ยเหวินโหรว เธอไปจับตัวนั้นได้ไหม เสวี่ยเหวินโหรว เธอจัดการเรื่องนี้ให้ได้ไหม’ บอกเลยว่าช่างเป็นอะไรที่น่าโมโหมาก
ทั้งเสวี่ยเหวินโหรวและอควาโรสต่างก็ได้รับบาดเจ็บทางจิตใจ และสมองอย่างรุนแรงหลังจากผ่านโลกพิเศษมา 80 ปี และเมื่อออกมาได้พวกเขาก็ยังต้องเผชิญกับฝันร้ายที่วนเวียนไม่รู้จบ โลกพิเศษนั้นเหมือนกับฉากหนังที่ยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด บางฉากพวกเธอก็ต้องสู้กับมอนสเตอร์มากมาย ในขณะที่คนอื่นๆ เพื่อน หรือคนรู้จักต่างก็พยายามจะเข่นฆ่าเธอให้ได้ ซึ่งมันก็เหมือนกับฝันร้ายที่เธอฝันถึงนั่นแหละ บางฉากเธอก็พบว่าการมีชีวิตรอดมันช่างยากเย็นในขณะที่ความตายก็คืบคลานเข้ามา บางครั้งความตายก็รวดเร็วฉับไว บางครั้งก็นานแสนนานจนยากจะจินตนาการ
ขณะที่อยู่ในโลกพิเศษ ความเจ็บปวดจะไม่ลดลง ทุกๆฉากที่พบเจอล้วนเป็นภาพอันน่าสยดสยอง หากเธอต้องเจอกับฉากที่ยากเกินจนเป็นไปไม่ได้ เธอมักจะเชือดคอตัวเองดีกว่าจะต้องตายอย่างช้าๆ แล้วจึงไปเกิดใหม่ในฉากต่อไป แต่ความทรมานครั้งใหญ่สุดก็คือการยังคงมีความหวังว่าจะพบทางออกซึ่งกินเวลายาวนานถึง 80 ปีเลยทีเดียว

เสวี่ยเหวินโหรวเกลียดความรู้สึกที่เป็นดั่งฝันร้ายเหล่านี้ และนี่มันก็ทำให้เธอต้องออกไปนอนหลับพักผ่อนในโลกแห่งความจริงเสมอ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสมาชิกหลายคนที่สามารถออนไลน์อยู่ในเกมพลางนอนหลับพักผ่อนไปได้ เธอจำเป็นที่จะต้องออกไปนอนหลับนอก God Domain เพื่อประมวลผลความทรงจำและประสบการณ์ที่พบเจอในโลกพิเศษ ไม่เช่นนั้นแล้วสมองของเธอจะไม่ได้พักผ่อนจนก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาว

และแน่นอนว่าอควาโรสก็ทำแบบเดียวกัน ….

ปัจจุบันจากการตรวจสอบโดยแพทย์ของบริษัทกรีนก๊อดยังไม่พบความเสียหายอื่นใดนอกเหนือจากนี้ และมันก็โชคดีที่พวกเธอไม่สูญเสียความทรงจำ ไม่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต หรือสติปัญญาลดลง รวมถึง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ความเร็วในการตอบสนอง หรือการแยกประสาทต่างๆ ที่ไม่ลดลงด้วยเช่นกัน
ซือเฟิงได้ให้ น้ำแห่งชีวิตเอาไว้กับพวกเธอสองคน มันมาจาก Upper Zone ชั้นกลาง ซึ่งมันจะช่วยในการประมวลผลความทรงจำและประสบการณ์ต่างๆ โดยหากพวกเธอไม่มี น้ำแห่งชีวิต จิตใจของพวกเธอก็คงต้องได้บาดเจ็บหนักก่อนจะสามารถประมวลผลความทรงจำ และประสบการณ์ 80 ปีนี้ได้หมดแน่

ฝันร้ายในครั้งนี้ก็คล้ายๆกับทุกครั้งที่ฝันถึง แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปเล็กน้อย

เสวี่ยเหวินโหรวรู้สึกอิจฉาหลังจากที่เห็นไวโอเล็ตคลาวด์กับซือเฟิงในลักษณะนั้น เธอก็รู้สึกอิจฉาอย่างมากจริงๆ …. แต่กระนั้นเพื่อปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด เธอจึงได้เลือกที่จะกำจัดอารมณ์ต่างๆออกไป และเมื่อผ่านวันเวลาในโลกพิเศษไป 80 ปี เธอก็ลืมอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นไปแล้ว ไม่สิ เธอยังรู้สึกได้อยู่

ความอิจฉาไงล่ะ
เสวี่ยเหวินโหรวพอใจกับกระบวนการคิดของเธอ ในที่สุดเธอก็รู้สึกได้แล้ว แต่ก็ยังสับสนกับอารมณ์เหล่านั้นอยู่ เธอดื่มน้ำแห่งชีวิตไปอีกหนึ่งหยด ก่อนที่จะไปอาบน้ำชำระล้างคราบเหงื่อบนร่างกายของเธอ และเมื่อตัวเธอแห้งแล้ว เธอก็ปีนขึ้นไปยังห้องเกมเคบินเฟียร์เลส

จักรวรรดิมังกรไฟ เมืองมิลเลี่ยนฟอเรสต์:

เมือง NPC -ขนาดยักษ์นั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นและ NPC จำนวนมหาศาล โดยที่เหล่าผู้เล่นต่างพูดคุยเรื่องการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เมื่อไม่นานมานี้กันอย่างตื่นเต้น

สนามรบนอกเมืองกลับกลายเป็นภูมิทัศน์แห่งใหม่ไปโดยปริยาย เนื่องด้วยการโจมตีทำลายล้างของขั้น 6 ที่ปะทะกัน ก่อให้เกิดหุบเขา, ภูเขา และแม่น้ำขึ้นมาใหม่ แผนที่ของจักรวรรดิมังกรไฟต้องถูกวาดขึ้นใหม่

ขณะเดียวกันมันก็มีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งล้านคนกำลังกวาดล้างดินแดนทั้งหมดนี้ เพราะมันอาจจะยังมีอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆที่ผู้เล่นจากโลกอื่นดรอปเอาไว้หลังตาย แม้ว่าเวลามันจะผ่านมาประมาณหนึ่งแล้วก็ตาม

ภายในเมืองฝูงชนที่อยู่บนถนนสายหนึ่งเต็มไปด้วยความสับสน และวุ่นวาย ซึ่งนั่นเป็นเพราะมีสาวงามคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาพร้อมกับออร่าขั้น 6 ปัจจุบันนี้ทั่วทั้งโลก God Domain มีผู้เล่นขั้น 6 นับได้ด้วยสองมือด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงนับว่าเป็นของแปลกสำหรับคนทั่วไป

“โอ้วววว ออร่าแบบนี้!”
“โว้ววว ผู้เล่นขั้น 6!”
“ว้าววว เธอสวยจังเลย ใครน่ะ?”

“อะไรนะ? แกไปอยู่ไหนมา? นั่นคือรองหัวหน้ากิลด์สภาสิบแปดปีก เสวี่ยเหวินโหรวไงล่ะ พวกเราควรอยู่ห่างๆสักหน่อย เดี๋ยวเธอจะโกรธเอา” ผู้เล่นขั้น3 เลเวล 163 กระซิบบอกผู้เล่นขั้น 2 เลเวล138 ด้วยเสียงอันแผ่วเบา
เสวี่ยเหวินโหรว สาวงามดั่งเทพธิดาจุติลงมาจากสวรรค์ไม่ได้สนใจเสียงนกเสียงกาจากฝูงชนเพราะเธอกำลังวุ่นอยู่กับอินเตอร์เฟสของเธอเอง

“หืม? ซือเฟิงออนไลน์แล้วเหรอ? เขาตื่นแล้วหรือไงนะ?” เสวี่ยเหวินโหรวรีบวีดีโอคอลไปหาทันที

“หัวหน้ากิล คุณเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
“ฉันสบายดี ขอบคุณนะ ว่าแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เธอช่วยเอาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ของเราไปที่เมืองหินโบราณให้หน่อยสิ ฉันต้องรีบใช้โดยด่วน”

“…..” นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่เคยอยากติดต่อหาซือเฟิง เขามักจะใช้งานเธอเสมอ! และเธอก็ยุ่งมากพออยู่แล้วในฐานะรองหัวหน้ากิลด์!

การเคลื่อนย้ายคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ก็เป็นงานที่หนักหนาสาหัสด้วยเช่นกัน เพราะมันไม่สามารถบรรจุลงในกระเป๋าได้ มันจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายด้วยตนเอง อีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถเทเลพอร์ตได้ด้วย นี่มันจึงหมายความว่าต้องใช้วิธีอื่นในการเคลื่อนย้ายมัน และซือเฟิงบอกว่าต้องการมันโดยด่วน เธอจึงต้องใช้เรือเหาะแทน

“พวกเราเพิ่งจะเอามันไปที่เมืองหินโบราณให้คุณเป็นจำนวนสี่แสนชิ้นเลยนะ นั่นยังไม่พออีกหรอ?” เสวี่ยเหวินโหรวเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความงุนงง

“เอ่อ เรื่องนั้น…” ซือเฟิงพึมพำ

“อะไรนะ? คุณใช้หมดแล้ว?!” เสวี่ยเหวินโหรวตะโกนใส่หน้าจอนั่น ดีที่มันเป็นการคุยในช่องส่วนตัว ผู้เล่นคนอื่นที่อยู่รอบๆจะไม่ได้ยินเสียงเธอ

นั่นคือคริสตัลเจ็ดลูมินารี่จำนวนสี่แสนชิ้นเลยนะ !!! หากซื้อขายในราคาตลาด มูลค่าของมันมากพอที่จะซื้อได้หลายประเทศในโลกจริงเลยทีเดียว

“เอาเถอะน่า มันได้ถูกใช้ไปกับเรื่องดีๆนั่นแหละ …. โอ้แล้วก็เธอเองก็ควรมาที่เมืองหินโบราณด้วยนะ” หลังจากนั้นซือเฟิงก็ตัดสายไป ทิ้งให้เสวี่ยเหวินโหรวถอนหายใจอย่างหงุดหงิด และแน่นอนว่าเสวี่ยเหวินโหรวก็ใช้เวลาไม่นานที่จะค้นพบว่าเธอรู้สึกหงุดหงิดแล้ว

“หมอนี่… ชอบทำให้อารมณ์ขึ้นอยู่เรื่อยเลย…” เธอบ่นพลางถอนหายใจแล้วติดต่อหาผู้ช่วยนับสิบคนเพื่อทำการขนส่งคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ไปยังเมืองหินโบราณตามคำสั่งของซือเฟิง