Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 827 ฆ่าอย่างไร้ความปรานี
อาคารแองเจิ้ลอินเวสเม้นท์ คนธรรมดาอพยพไปแล้ว เย่เซิ่งเทียนไม่ได้ห้ามพวกเขา
เชื่อว่าอีกไม่นานทางฝั่งประเทศอเมจะได้รับข่าวนี้ และก็จะมีคนมา
สิ่งที่เย่เซิ่งเทียนต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้ เขาต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู ฆ่ากลุ่มผู้คนทางฝั่งนี้ เพื่อเตือนผู้ที่อยู่เหนือกฎหมายพวกนั้น
คิดจะมายุ่งกับคนในครอบครัวของเขา งั้นก็เตรียมตัวตายก่อนเลย!
“ยังมีใครอีก? ไอ้พวกกลุ่มเศษขยะ กล้ามาแตะต้องประเทศต้าเซี่ยของฉัน!”
ศพนับสิบนอนกองอยู่บนพื้น ล้วนแล้วเป็นสมากชิกขององค์กรgod
จ้านอู๋ซวงยืนอยู่ตรงหน้าศพ ใบหน้าเย็นชา ออร่าการสังหารบนตัว ราวกับเป็นตัวตนที่แท้จริง ซึ่งทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญหาย
ล็อบบี้ชั้น 1 เปรียบได้เหมือนนรก บนพื้นนองไปด้วยเลือด มีกลิ่นฉุนของคาวเลือด
นี่ก็คือการแก้แค้นของเย่เซิ่งเทียน!
ผู้ใดที่มายุ่งคนสนิทของเขา จะต้องถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี!
ผู้ใดที่มาแตะต้องประเทศต้าเซี่ย จะต้องฆ่าอย่างไร้ความเมตตา!
“พวกแกเป็นใครกันแน่!!”
ชายคนหนึ่งที่มีท่าทางเป็นหัวโจกพาลูกน้องหนึ่งกลุ่มเล็กๆซึ่งมี 5 คนพุ่งเข้ามา พร้อมถือปืนมาด้วย
เมื่อดูออร่าของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา
ตามระบบของนักบู๊ของโลกบู๊แห่งประเทศต้าเซี่ย อยู่ในระดับปรมาจารย์
อย่ามองว่าช่วงเวลานี้ เย่เซิ่งเทียนต่อสู้กับเทพบู๊ และนักบู๊เหนือโลกีย์มากมายก่ายกอง นั่นเป็นเพียงสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น
มรดกของตระกูลเก่าแก่ผู้ดีที่ถ่ายทอดกันมาเป็นพันปี ใช้ทรัพยากรมากมายนับไม่ถ้วน
และโลกมนุษย์ โดยพื้นฐานแล้วจะมองไม่เห็น
นักบู๊ อาจารย์บู๊ ปรมาจารย์ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ พญาบู๊ ราชาบู๊ เซียนบู๊ เทพบู๊ นี่คือระบบของนักบู๊ทั้งหมดของโลกมนุษย์
และในโลกมนุษย์ พลังต่อสู้ที่เหนือสุดก็คือเทพบู๊ และเป็นระดับเทพสงครามในกองทัพ
ระดับพญาบู๊ขึ้นไป ส่วนมากต่างก็อยู่ในกองทัพ ประเทศต้าเซี่ยกับประเทศมหาอำนาจตะวันตกต่างก็เป็นเช่นนี้
พญาบู๊หนึ่งคนปรากฏตัวในโลกมนุษย์เป็นครั้งเป็นคราว ซึ่งเป็นการมีอยู่ที่สุดยอดมากๆแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับคนทั่วไปแล้ว ก็ไม่ได้รู้จักโลกบู๊สักเท่าไหร่
โดยเฉพาะตอนนี้อาวุธปืนเป็นที่นิยม แม้ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งแดนเหนือโลกีย์ ก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับอาวุธปืนที่มีขนาดใหญ่
นี่ก็เป็นเหตุผลที่พลังของโลกมนุษย์สามารถควบคุมผู้บำเพ็ญตนได้
ในเวลานี้ หัวโจกระดับปรมาจารย์คนนี้ ที่พากลุ่มเล็กๆมากลุ่มหนึ่ง และสมาชิกในกลุ่มเล็กๆนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา แข็งแกร่งกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่าตัว
อีกอย่าง มองจากฝีเท้าและการเคลื่อนไหวของปืน มีออร่าของกองทัพที่เห็นได้ชัดเจน และมีแนวโน้มที่อาจจะเคยเข้าร่วมการฝึกฝนกับกองทัพของประเทศอเมแล้ว
พวกเขาทุกๆคน ต่างก็อยู่ในระดับอาจารย์บู๊
ในกองทัพ ทีมเล็กนี้ ถือได้ว่าเป็นยอดหัวกะทิของยอดหัวกะทิอีกทีหนึ่ง และเป็นกองกำลังทหารพิเศษของกองกำลังทหารพิเศษอีกทีหนึ่ง
ในความเป็นจริง กลุ่มเล็กๆนี้ก็คือกลุ่มสุดยอดหัวกะทิที่องค์กรเทพเจ้าทุ่มเงินมหาศาลในการฝึกฝน ถือได้ว่าเป็นกำลังหลักขององค์กรgodเลยก็ว่าได้
ที่องค์กรgodมีได้ทุกวันนี้ ก็เป็นคุณงามความดีของกลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้
กระบอกปืนเล็งไปที่เย่เซิ่งเทียนและจ้านอู๋ซวง
ขณะที่กำลังพูด ก็ได้ลั่นไกปืนแล้ว
ปังปังปัง
กระสุนพุ่งออกไป!
การเคลื่อนไหวของพวกเขาว่องไวอย่างยิ่ง
รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคือผู้แข็งแกร่ง ไม่มีทางต่อสู้ซึ่งหน้าได้เลย
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวก็คือ กระสุนอยู่ตรงหน้าจ้านอู๋ซวงเพียงไม่กี่เซนติเมตร ก็ไม่สามารถยิงเข้าไปได้อีก กระสุนทั้งหมดตกลงบนพื้น
นัยน์ตาของจ้านอู๋ซวงส่องประกายความโหดเหี้ยม มีเจตนาฆ่าอย่างยิ่ง
“ดูเหมือนว่า เบื้องหลังของพวกแกมีกองทัพประเทศอเมสนับสนุนอยู่ ไอ้พวกที่รนหาที่ตาย ครั้งก่อนฉันยังฆ่าพวกแกน้อยเกินไปสินะ!”
หัวโจกตกใจจนพูดไม่ออก
สมาชิกทุกคนต่างก็รู้สึกหมดหวัง
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ นี่อย่างน้อยก็เป็นความแข็งแกร่งระดับนายพล!”
นายพล นี่คือฉายาของผู้แข็งแกร่งเซียนบู๊ในกองทัพ
จากจุดนี้ ก็สามารถชี้ขาดได้อย่างสมบูรณ์ ว่าสุดยอดกะทิกลุ่มเล็กกลุ่มนี้ขององค์กรgod มาจากกองทัพประเทศอเม！
“ถอยทัพ รีบถอยทัพ!”
หัวโจกตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ในการเผชิญหน้ากับนายพลผู้แข็งแกร่งระดับนี้ แม้ว่าทีมเล็กของพวกเขาจะมีปืน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
ยกเว้นว่ามีอาวุธปืนขนาดใหญ่ อย่างพวกบาซูก้า ถึงจะต่อกรกับอีกฝ่ายได้
แต่ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะมีบาซูก้า แต่ก็ต้องอาศัยในช่วงที่อีกฝ่ายไม่สนใจถึงจะได้
มิเช่นนั้นอีกฝ่ายหลบเลี่ยง ก็ยากที่จะต่อสู้
นี่เป็นสาเหตุประเทศต่างๆทั่วโลกจัดระเบียบมาตรฐานนักบู๊ได้ ผู้ที่เข้าร่วมกองทัพได้ก็พยายามรับเข้าร่วม จากนั้นก็ใช้ระเบียบและวินัยทางทหารเพื่อควบคุมพวกเขา
ผู้ที่ไม่สามารถรับเข้าร่วมกองทัพได้ ก็จะมีการควบคุมทางกฎหมายที่สอดคล้องกัน ไม่อย่างนั้นคนเหล่านี้เมื่อเกิดความวุ่นวาย ก็จะนำมาซึ่งหายนะได้
“อยู่ต่อหน้าฉัน ยังคิดจะหนีเหรอ?”