ตอนที่ 2062 ไข่มุกวาฬสีทอง

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

แม้ว่าในใจจะรู้สึกประหลาดใจ แต่หญิงสาวผมสีม่วงยังคงไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา แค่แววตาเปล่งประกายพลางมองการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ของหานลี่ต่อ

แต่จากนี้สายตาของหานลี่พลันกวาดมองชั้นไม้อีกสองสามชั้นที่เหลือ แต่กลับไม่ลังเลอันใดอีก เดินตรงไปที่ชั้นไม้ชั้นสุดท้าย หยิบอาวุธมารที่คล้ายคลึงกับจานตาข่ายออกมา และหันกายเดินออกจากห้องโถง

เมื่อเห็นฉากนี้หญิงสาวผมสีม่วงก็กลอกตาไปมาแล้วหัวเราะน้อยๆ ออกมา

“คาดไม่ถึงว่าพี่หานจะสนใจจานตาข่ายทมิฬ เป็นการกระทำที่ชาญฉลาดจริงๆ มีสิ่งนี้แม้ว่าจะเข้าไปในดินแดนที่อันตรายอย่างทะเลทรายฮ่วนเซี่ยว ก็ไม่ต้องกลัวหลงทาง ดูแล้วสหายคงเข้าใจทะเลทรายฮ่วนเซี่ยวมากกว่าที่ข้าคิดไว้

“ไม่มีอันใด ข้าน้อยแค่หลอมอาวุธมารที่ค่อนข้างพิเศษอยู่ชิ้นหนึ่ง และต้องให้ทองคำมารจำนวนมากพอดี ยามนี้ได้พบในคลังของเจ้า ย่อมไม่ยอมปล่อยไปแน่” หานลี่ใช้น้ำเสียงราบเรียบตอบกลับอย่างคลุมเครือ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง เช่นนั้นข้าก็ขอแสดงความยินดีกับพี่หานด้วย ยามนี้สหายตามข้าออกจากคลังเถิด เขตแดนต้องห้ามของที่นี่ถูกปิดไว้ชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่นานก็จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ” หญิงสาวผมสีม่วงรู้สึกไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้ซักถามต่ออย่างรู้จักวางตัว

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เชิญท่านเซียนเถิด!” หานลี่ตอบรับ และสาวเท้ากลับไปข้างกายของหญิงสาว

หญิงสาวใช้มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศในห้องโถง แผ่นป้ายหยกที่สลายหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้งและกลายเป็นลำแสงสีขาวบินกลับมา

ยามนี้หญิงสาวถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมา รู้สึกผ่อนคลายลง

แม้ว่าคลังนี้จะเป็นแค่คลังที่มีมูลค่าน้อยที่สุดในบรรดาคลังของตระกูลไป๋ แต่ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ศิษย์ตระกูลไป๋จำนวนนับไม่ถ้วนสะสมกันมาหลายหมื่นปี แน่นอนว่าจึงไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดอันใด

“ข้าน้อยยังมีเรื่องอยากถาม ท่านเซียนจะอธิบายให้ฟังได้หรือไม่” ยามที่หานลี่เดินตามหญิงสาวผมสีม่วงออกจากเจดีย์ ก็เอ่ยถามขึ้น

“พี่หานพูดมาเถิด ข้าและสหายนับว่ามีความสัมพันธ์อันดีต่อกันแล้ว ยังมีอันใดให้ถามไม่ได้อีก” แววตาของหญิงสาวผมสีม่วงฉายแววประหลาดใจ แต่ทันใดนั้นก็ปกปิดเอาไว้และตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นข้าน้อยก็จะถามตรงๆ ผู้แซ่หานอยากรู้ว่าทองคำมารประหลาดในคลังมีแหล่งกำเนิดจากที่ใด ตระกูลไป๋ได้มาได้อย่างไร” หานลี่เอ่ยถามอย่างราบเรียบ

“ทองคำมารประหลาด! จุ๊ๆ หากเป็นวัตถุดิบมารอื่น น้องอาจจะต้องหาคนมาซักถาม แต่หากเป็นสิ่งนี้ข้านั้นรู้ดีมาก” หญิงสาวผมสีม่วงพลันตะลึงงัน แต่ทันใดนั้นก็เอ่ยปากด้วยรอยยิ้มบางๆ

“อ้อ หวังว่าท่านเซียนจะชี้แนะ!” หานลี่รู้สึกยินดีอยู่ในใจ กลับเอ่ยถามด้วยใบหน้าราบเรียบ

แววตาคู่งามของหญิงสาวผมสีม่วงเลื่อนมาที่ใบหน้าของหานลี่สองคราไม่เห็นความผิดปกติอันใด ก็รู้สึกผิดหวังเล็กๆ หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เอ่ยด้วยสีหน้าลึกลับ

“ทองคำมารประหลาดก้อนนี้อยู่ในคลังของเรามาหลายปีแล้ว แม้กระทั่งประวัติความเป็นมาของมันพี่หานก็น่าจะรู้ตั้งนานแล้ว”

“ข้ารู้ตั้งนานแล้ว!” หานลี่ได้ยินคำนี้พลันตกตะลึง และรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“ใช่แล้ว เรื่องเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตพี่หานเคยถามข้าและศิษย์พี่มิใช่หรือ ทองคำมารประหลาดก้อนนี้ก็มาอยู่ในมือของพวกเราเหมือนๆ กัน สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือยามที่แลกเปลี่ยนในปีนั้น เมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตเป็นวัตถุดิบหลัก ทองคำมารประหลาดก้อนนี้เป็นแค่ของที่มาพร้อมกันเท่านั้น” หญิงสาวผมสีม่วงเอ่ยด้วยท่าทีราบเรียบ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! เช่นนั้นทองคำมารประหลาดก้อนนี้ก็อาจจะมีแหล่งกำเนิดเดียวกันกับเม็ดฟันโลหิต” หานลี่ลูบใต้คางแล้วเอ่ยด้วยท่าทีครุ่นคิด

“เรื่องนี้ข้าก็ไม่กล้ารับประกัน กล่าวได้แค่ว่าผู้ที่แลกเปลี่ยนเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตกับตระกูลไป๋ของพวกเราน่าจะมีที่มาจาก ‘ทะเลสาบน้ำตกสีน้ำเงิน’ หญิงสาวผมสีม่วงกะพริบตาคู่งามขณะเอ่ย

“ขอบพระคุณท่านเซียนที่บอก ความสัมพันธ์นี้ผู้แซ่หานยินดีรับเอาไว้” หานลี่พยักหน้าแล้วคารวะหญิงสาวเล็กน้อย

“แค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้น บุญคุณที่สหายช่วยเหมืองเมฆาเพลิงเอาไว้ น้องยังไม่ทันได้ขอบคุณเลย” หญิงสาวผมสีม่วงฉีกยิ้มงดงาม แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ

เมื่อเห็นหญิงสาวมีท่าทีไม่ใส่ใจ หานลี่ก็หัวเราะน้อยๆ ออกมาไม่ได้เอ่ยอันใดอีก พลางเดินไปที่ห้องโถงกับอีกฝ่าย

รอจนกลับมาในห้องโถง หานลี่ก็พบชายร่างใหญ่ผมสีเหลืองอีกครั้ง หลังจากพูดคุยกันกับอีกฝ่ายเล็กน้อย ก็ขอตัวกล่าวลา

ครั้งนี้บรรพชนทั้งสองของตระกูลไป๋มาส่งหานลี่ที่ประตูป้อมปราการของตระกูลไป๋ด้วยตนเอง แล้วถึงได้กลับไปที่ห้องโถงอีกครั้ง

“คนผู้นี้เลือกสมบัติอันใด น้องห้าเล่าให้ฟังหน่อยสิ” เมื่อกลับมานั่งที่เก้าอี้ ชายร่างใหญ่ก็เอ่ยถามหญิงสาวผมสีม่วงทันที

เมื่อครู่ยามที่อยู่ต่อหน้าหานลี่ เขาไม่ได้เอ่ยถึงสิ่งนี้เลยสักนิด

“ไข่มุกวาฬสีทองหนึ่งกล่อง ทองคำมารประหลาดหนึ่งก้อน รวมทั้งจานตาข่ายทมิฬ!” หญิงสาวผมสีม่วงตอบกลับตามความจริง

“เอ๋ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสามสิ่งนี้ พวกมันไม่ใช่สมบัติที่มีมูลค่ามากที่สุดในคลัง แปลกจริงๆ” ชายร่างใหญ่ได้ยินก็ขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย

“จุดนี้น้องก็รู้สึกแปลกๆ ไข่มุกวาฬสีทองและจานตาข่ายทมิฬก็ช่างเถิด ในสายตาข้าทองคำมารประหลาดก้อนนั้นมีมูลค่าไม่สูงเลย” หญิงสาวผมสีม่วงเองก็พยักหน้าขณะเอ่ย

“เขาไม่ได้เอ่ยอันใดหรือ”

“แค่พูดเหตุผลส่งๆ เท่านั้น แต่ซักถามประวัติความเป็นและแหล่งกำเนิดของทองคำมารประหลาดก้อนนี้” หญิงสาวผมสีม่วงตอบกลับอย่างไม่ต้องขบคิด

“เช่นนี้เขาก็คงสนใจทองคำมารประหลาดจริงๆ ดูเหมือนจะต้องการจำนวนไม่น้อยเสียด้วย แต่หากข้าจำไม่ผิดละก็ ตามร้านค้าในเมืองฮ่วนเย่ก็มีคนขายทองคำมารประหลาดนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเขาไปหาซื้อเลย” ชายร่างใหญ่ผมสีเหลืองมีท่าทีไม่เข้าใจเล็กๆ

“หรือว่าทองคำมารประหลาดในคลังมีประโยชน์อื่น” หญิงสาวผมสีม่วงย้อนนึกถึงสถานการณ์ในคลัง คาดไม่ถึงว่าจะรู้สึกเหมือนพูดความจริงออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“จะมีประโยชน์อันใด! ทองคำมารประหลาดก้อนนี้ เจ้ากับข้าตรวจสอบด้วยตัวเองแล้วถึงได้วางไว้ในคลังเป็นแค่ทองคำมารขนาดใหญ่หน่อยเท่านั้น!” ชายร่างใหญ่กลับสั่นศีรษะอย่างไม่คิดเช่นนั้น

“ช่างเถิด ไม่ว่าจะมีความลึกลับอันใด เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋ของพวกเรา การออกไปครั้งนี้พี่ใหญ่เสียปราณแท้ไปเล็กน้อย ต้องกักตัวสักระยะถึงจะหายดี ช่วงนี้ก็ให้น้องนั่งบัญชาการตระกูลก็แล้วกัน เพื่อจะได้ไม่ถูกตระกูลอื่นถือโอกาสนี้ทำอันใด” หญิงสาวผมสีม่วงพลันฉีกยิ้ม แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าผ่อนคลายลง

“นั่นมันก็ใช่ ไม่ว่าเจ้าเด็กน้อยหานจะมีแผนอะไร ขอแค่ไม่ได้มีเจตนาเป็นศัตรูกับตระกูลไป๋ของพวกเราก็พอแล้ว เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะเริ่มกักตน เรื่องน้อยใหญ่ในตระกูลก็ให้เจ้าจัดการก็แล้วกัน” ชายร่างใหญ่ผมสีเหลืองครุ่นคิด แล้วตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะแหบพร่า

หญิงสาวผมสีม่วงย่อมรับปากและพูดคำพูดที่ทำให้ชายร่างใหญ่วางใจ

……

ยามที่หานลี่โดยสารอยู่บนรถอสูรกลับไปยังที่พัก ท้องฟ้าก็ค่อยๆ มืดมน

จูกั่วเอ๋อร์เห็นหานลี่กลับมา ใบหน้ายินดีอย่างปิดไม่มิด หากไม่มีหานลี่ผู้ซึ่งเป็นจอมมารผู้นี้คอยปกป้อง เกรงว่าอีกไม่นานนางคงหนีโชคชะตาการถูกกดขี่ไม่ได้

แม้ว่าก่อนหน้านี้หานลี่จะค้นวิญญาณของนางไปครั้งหนึ่ง แต่จากนี้ก็ไม่ได้ปฏิบัติกับนางอย่างโหดร้ายทารุณเลยสักนิด นี่ย่อมทำให้หญิงสาวผู้นี้ไม่ยอมเปลี่ยนมารผู้เป็นเจ้านายอีก

หานลี่เอ่ยพึมพำสองสามประโยค ก็ไล่หญิงสาวออกจากชั้นบนของเจดีย์ และเปิดเขตอาคมเดิมเต็มอัตรา แล้วนั่งสมาธิอยู่บนฟูก

เขาครุ่นคิดเล็กน้อยก็พลิกฝ่ามือ ชั่วขณะนั้นกล่องหยกก็ปรากฏขึ้นในมือ

ปัดแขนเสื้อไปบนฝ่ากล่อง ชั่วขณะนั้นรัศมีสีเขียวก็บินออกมา ยันต์บนฝากล่องสองสามแผ่นบินม้วนวนออกมา

ฝากล่องเปิดออกโดยอัตโนมัติ เผยไข่มุกทรงกลมสีทองเรืองรองเม็ดหนึ่งออกมา ขนาดเท่าหัวแม่มือ ผิวเรียบลื่น และแผ่กลิ่นคาวคละคลุ้งออกมา

หานลี่แววตาเปล่งประกาย นิ้วชี้ไปที่ไข่มุกกลม ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวดีดออกมา และเปล่งแสงสว่างวาบพลางจมหายไป

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ผิวของไข่มุกทรงกลมก็ระเบิดเสียงคลื่นมหาสมุทรดังขึ้น จากนั้นรัศมีลำแสงสีทองอันอ่อนโยนก็สลายออก และผนึกรวมกันคาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นเงาลวงตาวาฬขนาดจิ๋วตัวหนึ่ง บินวนโคจรล้อมรอบไข่มุกทรงกลม

เงาลวงตามีขนาดสองสามฉื่อ เคลื่อนไหวไปมาเสมือนจริง!

หานลี่มองเห็นฉากนี้ก็ไม่มีสีหน้าอันใด แต่กลับมีแขนสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกยื่นออกมาจากแขนเสื้อ และกางนิ้วทั้งห้าออกพลางยื่นเข้าไปในลำแสงสีทอง และตะปบไข่มุกทรงกลมเม็ดนั้นเอาไว้ในมือ

แต่ลำแสงสีเขียวพลันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายไป ชั่วขณะนั้นพลังปราณบริสุทธิ์พลันบรรจุเข้าไปในไข่มุกไม่หยุด

ครู่ต่อมาไข่มุกทรงกลมสีทองเปล่งแสงสีทองออกมา เงาลวงตาวาฬสีทองขนาดสองสามฉื่อพลันขยายใหญ่ขึ้นยี่สิบสามสิบเท่า จนมีความยาวสิบจั้งเศษ แทบจะเต็มชั้นบนสุดของเจดีย์

เงาลวงตาวาฬสีทองขนาดใหญ่ บนหัวขนาดใหญ่มีเขาเดี่ยวสีทองความยาวสองสามฉื่อเพิ่มขึ้นมา ผิวหนังมีเกล็ดสีทองขนาดน้อยใหญ่ไม่เท่ากัน เผยท่าทางโหดเหี้ยมน่ากลัวออกมา

หานลี่เผยสีหน้ายินดีออกมา นิ้วทั้งห้าคลายออก พลังปราณที่บรรจุเข้าไปในไข่มุกถูกตัดออก

ชั่วขณะเงาลวงตาวาฬก็กลายเป็นลำแสงสีทองสลายออก ไข่มุกสีทองหม่นแสงลงแล้วฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ

หานลี่ถึงได้เก็บไข่มุกสีทองกลับเข้าไปในกล่องหยก และติดแผ่นยันต์ลงไปเก็บลงไปในกำไลเก็บของอีกครั้ง

สาเหตุที่เขาเลือกไข่มุกวาฬสีทอง ย่อมมีเจตนาอื่น แต่สุดท้ายจะใช้ของสิ่งนี้ได้หรือไม่ กลับเป็นเรื่องที่พูดยาก

ทว่าของล้ำค่าที่สุดที่ได้จากการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่ไข่มุกหายากเม็ดนี้ แต่เป็นทองคำมารประหลาดขนาดเท่าศีรษะ

หานลี่นึกถึงทองคำมารก้อนนั้น ใบหน้าก็อดที่จะฉายแววตื่นเต้นอย่างหาได้ยากขึ้นมาไม่ได้ หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ถึงได้สะบัดกำไลเก็บของบนข้อมือ

ชั่วขณะนั้นแร่ศิลาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางลำแสงสีดำขาว และลอยนิ่งอยู่ตรงหน้าเขาไม่ขยับเขยื้อน

นิ้วชี้ขยับวาดกลางอากาศไปทางแร่ศิลา

เสียง ‘พรึ่บ’ พลันดังขึ้น!

ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป แร่ศิลาที่อยู่ท่ามกลางสีดำขาวพลันแยกออกเป็นสองส่วน ของขนาดเท่าไข่ไก่ร่วงลงมา

มือหนึ่งตะปบออกไป พลังไร้รูปร่างม้วนวนออกมา ชั่วพริบตาของที่เผยออกมาก็ถูกดูดเข้ามาในมือ เป็นสิ่งของขนาดเท่าลูกผลึกสีเทาเม็ดหนึ่ง

หานลี่มองไปยังลูกผลึกสีเทาขาวเม็ดหนึ่ง แววตาฉายแววร้อนแรง ยกแขนข้างหนึ่งขึ้น และตะปบไปที่ลูกผลึกอย่างแช่มช้า

ท่ามกลางขั้นตอนนี้แขนเสื้อบนแขนพลันฉีกออกเป็นริ้วๆ เผยเกล็ดสีทองเรืองรองออกมา แขนทั้งแขนขยายใหญ่ขึ้นเท่าหนึ่ง