บทที่ 442

แต่ว่า ได้พบกันเมื่อครู่ ก็ได้จุดประกายความหวังที่มีต่อหวั่นถิงที่อยู่ในใจลึกๆ ของเขาขึ้นมา

ดังนั้น เขาก็เลยอยากจะดูรูปบนหน้าวีแชทของซ่งหวั่นถิงทุกรูปให้หมด

เขาตั้งใจสังเกตรูปทุกรูปบนหน้าวีแชทของซ่งหวั่นถิง ดูไปชื่นชมไป ช่างเป็นผู้หญิงหนึ่งในหมื่นที่สวยจริงๆ ทั้งเรือนร่าง ไม่มีที่ติเลย

ดังนั้น ในใจเขาก็ได้สาบานขึ้นในใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะต้องได้ซ่งหวั่นถิงมาครอบครองให้ได้!

……

ซ่งหวั่นถิงและซ่งหรงวี่กำลังอยู่บนทางกลับบ้าน ซ่งหรงวี่ก็หลอกถามซ่งหวั่นถิงว่า “หวั่นถิง พี่ดูอู๋ซิน เหมือนว่าเขาจะมีใจให้เธอนะ”

ซ่งหวั่นถิงพูดออกมานิ่งๆ เพียงคำเดียวว่า “อ่อ”

“อ่อ?” ซ่งหรงวี่ถามอย่างสงสัยว่า “ทำไมเย็นชาเช่นนี้?”

“ทำไมล่ะคะ?” ซ่งหวั่นถิงพูดว่า “เขาจะคิดอย่างไรกับหนู แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับหนูล่ะคะ หรือจะต้องให้หนูแสดงอาการดีใจขึ้นมา ถึงจะพอใจ?”

ซ่งหรงวี่ถามไปอีกว่า “อู๋ซินก็รูปร่างหล่อดี เธอไม่รู้สึกอะไรกับเขาบ้างเลยหรือไง?”

ซ่งหวั่นถิงส่ายหน้า แล้วพูดว่า “หนูไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลย ในสายตาหนู แม้แต่เพื่อนก็ยังไม่นับ อย่างมากก็เป็นแค่คนที่เกือบรู้จักกัน”

ซ่งหรงวี่รีบพูดโน้มน้าวว่า “แกโง่รึไง? ตระกูลอู๋มีกำลังมากนะ! เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนาน ถ้าแกได้อยู่กับอู๋ซินละก็ สำหรับตระกูลซ่งแล้ว ก็เป็นเสมือนเสือติดปีกเลยเชียวนะ”

“หนูไม่รู้อะไรกับเขา” ซ่งหวั่นถิงตั้งใจพูด “หนูจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รู้สึกอะไรด้วย ต่อให้เป็นคนรวยระดับโลกก็เหมือนกัน”

ซ่งหรงวี่พูดอย่างตกใจว่า “แกคงจะไม่ใช่ไปชอบไอ้เย่เฉินอะไรนั่นแล้วหรอกนะ?!”

ซ่งหวั่นถิงก็มองซ่งหรงวี่ ด้วยทีท่าไม่ค่อยอยากจะคุยต่อ

ซ่งหรงวี่ก็ถอนหายใจ พูดว่า “น้องสาวของพี่ แกว่าแกโง่ไหมล่ะ? คุณปู่ก็เลอะเลือน ให้แกไปตามจีบไอ้เย่เฉินนั่น แกคิดว่าจะจีบติด

หรือ? เขามีเมียอยู่แล้ว แกล่ะ? เป็นผู้หญิงที่สูงส่งกว่าผู้หญิงในเมืองจินหลิงทั้งหมด จะไปอยู่กับผู้ชายอย่างนั้นได้อย่างไร?”

ซ่งหวั่นถิงก็พูดอย่างหลบเลี่ยงว่า “พี่คะ เรื่องของหนู พี่ก็ไม่ต้องมาเหนื่อยใจเลยค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการเอง”

“เฮ้อ!” ซ่งหรงวี่แกล้งทำเป็นถอนหายใจด้วยความเสียดาย แล้วพูดว่า “พี่น่ะ เห็นแกโตมา พี่ก็อยากจะให้แกได้แต่งานกับผู้ชายที่คู่ควรกัน และเป็นผู้ชายที่ไม่เคยแต่งงานเหมือนกับแก ถ้าให้แกไปแต่งกับเย่เฉินที่แต่งมาสองรอบแล้ว พี่ก็รู้สึกเสียดายแทนแกเลย!”

พูดจบ ซ่งหรงวี่ก็เสริมไปอีกว่า “แล้วอีกอย่าง เย่เฉินคนนี้เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง มันจะเหมาะสมกับแกได้อย่างไรกัน?”

ซ่งหวั่นถิงเอียงหน้ามา แล้วมองซ่งหรงวี่ พร้อมตั้งใจพูดว่า “พี่คะ อาจารย์เย่ไม่ได้แย่อย่างที่พี่พูด เพียงแต่พี่ยังไม่ได้เห็นจุดเด่นในตัวของอาจารย์เย่ก็เท่านั้น”

ซ่งหรงวี่ก็พูดอย่างไม่พอใจเล็กๆ ว่า “เขาน่ะหรือจะมีอะไรดี? ก็แค่ทำยาได้แค่นั้นไม่ใช่หรือ? พี่ว่าก็ไม่ได้มีอะไรดี”

ซ่งหวั่นถิงส่ายหน้า แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ทุกๆ คนก็มีหลายด้าน ในสายตาคนมากมาย อาจารย์เย่เป็นเหมือนคนไม่เอาไหน เป็นเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง แต่ในสายตาหนู เขาเป็นอาจารย์คนหนึ่ง เขาไม่เหมือนกับใครๆ เลย!”

ซ่งหรงวี่ก็บึนปากพูดว่า “แกคงไม่ใช่คิดว่าเขาเป็นมังกรอะไรนั่นเหมือนกันหรอกนะ? พี่อยากจะขำตายเพราะคำนี้!มังกรในโลกมนุษย์ ถุย!”

ซ่งหวั่นถิงก็มองซ่งหรงวี่ รู้ว่าซ่งหรงวี่ตอนนี้ เหมือนกับคนปัญญาอ่อน

ส่วนในใจของซ่งหรงวี่กลับรู้สึกว่า ถึงเวลาที่ต้องให้ซ่งหวั่นถิงและพ่อได้แหกตาดูกันใหม่แล้วว่า โฉมหน้าที่แท้จริงของเย่เฉินนั้นเป็นเช่นไร

เย่เฉินมียาไหล่มังกรแท้ในโลกมนุษย์ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นผมก็จะหาทางให้อู๋ซินหลายเป็นเทพนาจา ถลกหนังเขาเสีย ดึงเส้นเอ็นเขาเสีย!

————