กู้ชูหน่วนเคาะโต๊ะหินในถ้ำหินเบาๆด้วยมือที่เห็นข้อกระดูกชัดเจน ตกเขาไปสู่ภวังค์ความคิด

นางก็คิดไม่ถึงว่าการปะปนเข้าไปในเผ่าเทียนเฟิ่นครั้งนี้จะราบรื่นได้ขนาดนี้ ราบรื่นซะจนทำให้นางแปลกใจเล็กน้อย

เสี่ยวลู่กล่าว “นายหญิง ท่านว่าสงครามภายในเผ่าเทียนเฟิ่นครั้งนี้ รองหัวหน้าเผ่าซือคงหรือเวินเส้าหยีจะมีโอกาสชนะมากกว่ากันเจ้าคะ?”

กู้ชูหน่วนส่ายหน้า

“เรื่องนี้พูดยากจริงๆ แต่ว่าโอกาสชนะของรองหัวหน้าเผ่าซือคงน่าจะมีมากกว่า”

“หากว่าเวินเส้าหยีไม่ได้สูญเสียวิทยายุทธไป สุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนไม่ได้โดนยาพิษไปด้วย เช่นนั้นโอกาสชนะก็เป็นของเวินเส้าหยีอย่างแน่นอน”

“แต่ตอนนี้ แม้ว่าเวินเส้าหยีจะเก่งกาจเพียงใด อบรมบ่มเพาะยอดฝีมือที่ปราดเปรียวออกมามากมาย แต่ยังไงก็ไม่มีขั้นสูงสุดระดับหก แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคง ตัวเขาเองก็เป็นยอดฝีมือระดับหกแล้ว บวกกับสุดยอดผู้อาวุโสตงหลิงรวมทั้งบรรดาผู้อาวุโสกลุ่มใหญ่ไปอีก ซึ่งรองหัวหน้าเผ่าซือเองคงก็ตั้งใจวางแผนการมานานขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้เตรียมพร้อมมาสักนิดอย่างแน่นอน”

เสี่ยวลู่พยักหน้า “ให้หมากัดกันไปก่อน ดีที่สุดกัดให้ฝ่ายตรงข้ามให้ตายไปทั้งหมดจะยิ่งดี”

รอบเดียวต่อเนื่องกันหลายวัน แสงไฟของในเผ่าเทียนเฟิ่นพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า เสียงการฆ่าฟันดังสนั่น เผ่าเทียนเฟิ่นที่ยิ่งใหญ่ไม่มีแม้สักที่เดียวที่เงียบสงบอย่างสมบูรณ์

รองหัวหน้าเผ่าซือคงและเวินเส้าหยียิ่งทำสงครามก็ยิ่งดุเดือดขึ้น

ในตอนแรกเวินเส้าหยีมีความคิดจะอ่อนข้อให้ ไม่อยากฆ่าคน แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคงกลับลงมือสังหารอย่างอำมหิตทุกทาง

บังคับให้เขาจำเป็นต้องให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะทำการระงับไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาทางนี้ก็จะต้องแพ้อย่างแน่นอน

คนของกู้ชูหน่วนก็ฉวยโอกาสจากสงครามภายในของพวกเขาค่อยๆปะปนเข้ามาแล้ว

ในถ้ำ

ลูกน้องของกู้ชูหน่วนแต่ละคนรายงานสถานการณ์ของเผ่าเทียนเฟิ่น

“นายหญิง ไอแก่ชั่วซือคงได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วง ผู้อาวุโสคนสนิทใต้บังคับบัญชาทั้งหมดสิบแปดคนถูกคนของเวินเส้าหยีสังหารไปทั้งหมด”

“ผ่านไปห้าวันเต็มๆแล้ว กำลังภายในของตาแก่ชั่วซ่งหยวนนั่นไม่เพียงไม่ฟื้นคืนมา แต่พลังก็กลับสูญสิ้นไปอย่างต่อเนื่องอีก เวินเส้าหยีเจ้าสุนัขนั่นหาวิธีการมากมายก็ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของตาแก่ชั่วซ่งหยวนได้”

“ตอนนี้ผู้คนของเผ่าเทียนเฟิ่นล้วนรู้สึกหวาดผวา เหล่าประชาชนต่างพากันหลบอยู่ในบ้านไม่กล้าออกมา”

“คนที่อยู่เป็นกลางกลับถูกบังคับให้เลือก คนบางส่วนเลือกซือคงไอแก่ชั่ว คนบางส่วนเลือกเวินเส้าหยี แม้ว่าจะมีคนคิดจะยืนเป็นตรงกลางต่อ แต่สถานการณ์ก็ทำให้พวกเขายืนอยู่เป็นกลางไม่ได้”

“หัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นจิตมารครอบงำ นอนอยู่บนเตียงมาโดยตลอดไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้ ข่าวลือบอกว่าอาการป่วยอยู่ในภาวะอันตรายมาก สามารถสิ้นใจได้ทุกเมื่อ หัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่นถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงควบคุมไว้เวินเส้าหยีกำลังคิดหาวิธีช่วยเหลือหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นอยู่ขอรับ”

“ตอนนี้ผลแพ้ชนะยังไม่แน่นอน ทั้งสองฝั่งบาดเจ็บหนักทั้งคู่ ไม่มีผลดีต่อผู้ใดเลย”

ห้าวันแล้ว

ห้าวันนี้คนของเผ่าเทียนเฟิ่นล้มตายไปเยอะมากจริงๆ

นางอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลมากเช่นนี้ ก็ยังสามารถได้กลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรงได้

นางก็ไม่อยากให้ผู้คนล้มตายมากขนาดนี้

แต่ถ้าพวกเขาไม่ตาย คนที่ตายก็คือประชาชนของเผ่าหยก

ต้องการจะจบทุกอย่าง ก็ทำได้เพียงใช้คนจำนวนน้อยมาช่วยให้คนจำนวนมากสมหวัง

“นายหญิง ท่านเดาไม่ผิด รองหัวหน้าซือคงชนะดังคาด แม้ว่าเวินเส้าหยีจะวางแผนเผด็จศึกอยู่แนวหลัง และผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนก็มีฝีมือยอดเยี่ยม แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคงใช้แข็งชนแข็ง ร่วมมือกับผู้อาวุโสและสุดยอดผู้อาวุโสกลุ่มหนึ่งออกโรงพร้อมกัน ทำให้กองกำลังฝีมือดีของเวินเส้าหยีได้รับบาดเจ็บสาหัส เวินเส้าหยีล้มลุกคลุกคลานอย่างสาหัสหนักหน่วง”

“ผู้อาวุโสเฉินคนสนิทของเวินเส้าหยีตายในสงคราม ซ่งอวี่ก็ถูกไอ้แก่ชั่วตงหลิงทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สามารถพูดได้ว่ามือขวามือซ้ายถูกหักไปหมดแล้วขอรับ”

“นายหญิง เวินเส้าหยีช่วยหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นออกมาได้แล้ว แต่พวกเขาถูกล้อมไว้หมดแล้วขอรับ”

“ล้อมอยู่ที่ไหน?” กู้ชูหน่วนเอ่ยถาม

“ตำหนักเทียนตู”

เมื่อกู้ชูหน่วนขยับท้าก็คิดจะปะปนเข้าไปดูที่ตำหนักเทียนตูทันที

แต่เมื่อคิดถึงหน้าที่ของตัวเอง นางก็เก็บเท้าที่ยกออกไปกลับมาแล้ว

ช่างเถอะ

สงครามภายในของพวกเขา เกี่ยวข้องอะไรกับนางด้วย

ไม่ใช่ว่าเดาได้นานแล้วหรือว่าเวินเส้าหยีจะต้องแพ้แน่นอน และ จุดจบก็ไม่ได้ดีเป็นแน่?