บทที่ 1613 จริงๆ แล้วฉันก็คือเนี่ยอู๋โยว / บทที่ 1614 คนที่อยากเจอที่สุดก็คือถังถัง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1613 จริงๆ แล้วฉันก็คือเนี่ยอู๋โยว

ผู้อาวุโสสูงสุดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวอย่างที่เยี่ยหวันหวั่นให้เขามาเป็นของใครกันแน่

แต่ดูจากท่าทางของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสสูงสุดก็พอจะเดาได้บ้างแล้ว น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเยี่ยหวันหวั่นไม่น้อย

“อืม…ไม่เป็นไร” เยี่ยหวันหวั่นได้สติ หันไปยิ้มให้ผู้อาวุโสสูงสุดเล็กน้อย “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว สองวันนี้รบกวนคุณแล้ว คุณไปทำงานเถอะ”

“ท่านหัวหน้า ถ้ามีเรื่องอะไรโปรดอย่าปิดบังพวกผมเลยนะครับ” ผู้อาวุโสสูงสุดรู้สึกได้รางๆ ว่าผลการพิสูจน์ครั้งนี้จะนำไปสู่เรื่องราวใหญ่โต

เอ่ยจบ ผู้อาวุโสสูงสุดก็หมุนตัวเดินออกจากห้องทำงาน

พอผู้อาวุโสสูงสุดออกไป ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็มีแต่ความสงสัยและตื่นตะลึง

การพิสูจน์ DNA ครั้งนี้ เยี่ยหวันหวั่นมั่นใจได้ว่าเส้นผมเป็นของเธอ เพราะเธอเป็นคนยื่นมันให้ผู้อาวุโสสูงสุดเองกับมือ ไม่ผิดแน่…

ซึ่งก็หมายความว่า ตัวอย่างของเธอกับถังถังไม่มีทางผิดพลาดแน่…เมื่อเป็นอย่างงั้น ผลการพิศุจน์ ก็ไม่มีทางผิดพลาดเหมือนกัน…

“ฉัน…ฉันเป็นแม่แท้ๆ ของถังถัง?!” เยี่ยหวันหวั่นปากอ้าตาค้างอย่างไม่อยากเชื่อ

อีกอย่าง นอกจากเธอจะเป็นแม่ของถังถังแล้ว ยังเป็นคุณหนูรองของตระกูลเนี่ย แล้วก็เป็นน้องสาวของเนี่ยอู๋หมิงด้วย!!

“เป็นไปได้ยังไง…” เยี่ยหวันหวั่นพึมพำ ชั่วขณะหนึ่งเธอรู้สึกทำใจเชื่อได้ยาก

ก็หมายความว่า ก่อนหน้านี้ ทหารรับจ้างคนนั้นก็พูดความจริงน่ะสิ เขาไม่ได้โกหก…คนที่พวกเขาไล่ล่าที่ประเทศจีน คือเนี่ยอู๋โยว หรือก็คือเธอจริงๆ…

วินาทีนี้ เยี่ยหวันหวั่นตกอยู่ในสภาวะสับสนงุนงงอย่างสิ้นเชิง

เธอไปที่โรงเรียนชื่อเยี่ยนโดยบังเอิญ แล้วก็บังเอิญเจอหลี่ซิน แถมยังเจอพี่ใหญ่ของหลี่ซินโดยบังเอิญอีก ต่อมาก็นึกครึ้มอกครึ้มใจพิสูจน์ DNA ของตัวเองกับถังถังอีก…แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่เท่าไหร่ สิ่งที่น่าแปลกใจมากที่สุดก็คือผลการพิสูจน์ DNA ที่บอกว่าเธอก็คือเนี่ยอู๋โยวแห่งตระกูลเนี่ยที่หายตัวไปหลายปีคนนั้นจริงๆ!

ชั่วขณะหนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นความคิดสับสนวุ่นวาย จับต้นชนปลายไม่ถูก

ถ้าเธอคือเนี่ยอู๋โยว งั้นพ่อของถังถังคือใครล่ะ?!

ตอนนั้นที่เธอยังเป็นเนี่ยอู๋โยวและอยู่ในรัฐอิสระ เธอรู้จักซือเยี่ยหานแล้วเหรอ? ถ้ารู้จักกันแล้ว ซือเยี่ยหานจะใช่พ่อของเด็กรึเปล่านะ?

แต่ถ้าเธอมีลูกกับซือเยี่ยหานจริงๆ ซือเยี่ยหานจะไม่รู้เรื่องซักนิดเลยเหรอ?!

ดูก็รู้แล้วว่าซือเยี่ยหานไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของถังถังเลย…

ถ้าถังถังไม่ใช่ลูกของเธอกับซือเยี่ยหาน งั้นเธอมีลูกกับใครกันแน่…หรือจะเป็นคู่หมั้นของเธอ จี้ซิวหร่าน?!

ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็ตัดความคิดนี้ทิ้งไป ถ้าเป็นจี้ซิวหร่าน จี้ซิวหร่านมีเหรอจะไม่ออกตัวยอมรับว่าเป็นพ่อของถังถัง แม้แต่ตระกูลจี้ก็ต้องยอมรับหลานชายคนนี้อยู่แล้ว…

อีกอย่าง เนี่ยอู๋หมิงเคยบอกว่าถังถังเป็นลูกของน้องสาวเขากับชายชู้ ฉะนั้น ชายชู้คนนั้นต้องไม่ใช่จี้ซิวหร่านอย่างแน่นอน…

“ชายชู้เหรอ…” เยี่ยหวันหวั่นพึมพำ ใครกันแน่คือชายชู้ที่เนี่ยอู๋หมิงพูดถึง

แน่นอนว่าใจของเยี่ยหวันหวั่นเอนเอียงไปทางซือเยี่ยหานมากที่สุด แต่ตอนนี้นายแห่งอาชูร่าซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซือเยี่ยหานมากที่สุด กลับไม่ยอมรับซักทีว่าเขาคือซือเยี่ยหาน ถึงเธอจะโดนกู่พิษ นายแห่งอาชูร่าก็ยังนิ่งเฉย…

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เบาะแสทุกอย่างชี้ไปที่ซือเยี่ยหาน ขอแค่นายแห่งอาชูร่ายอมรับว่าตัวเองคือซือเยี่ยหาน คำตอบมากมายก็จะปรากฏเอง!

แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอจำได้ จะให้ดียังไงก็ต้องขอความช่วยเหลือจากผอ.โรงเรียนชื่อเยี่ยนคนนั้นให้ได้ ไม่งั้น ถึงเยี่ยหวันหวั่นจะรู้ว่าตัวเองคือเนี่ยอู๋โยว แต่ก็ยังจำอะไรไม่ได้อยู่ดี

“ฉัน…ไม่นึกเลยว่าฉันคือเนี่ยอู๋โยวจริงๆ…”

ในห้องทำงาน เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ตกตะลึงอยู่อย่างงั้น

————————————————————————————-

บทที่ 1614 คนที่อยากเจอที่สุดก็คือถังถัง

เยี่ยหวันหวั่นจ้องผลพิสูจน์ในมือด้วยความช็อก ตั้งแต่เกิดใหม่ ความทรงจำทั้งหมดก็แล่นเข้ามาในสมองเหมือนโคมม้าวิ่ง…

เธอเกิดใหม่สองชาติ แต่กลับไม่เคยรู้ว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ จนกระทั่งวันนี้…

แต่มีเรื่องที่เธอไม่เข้าใจมากเกินไป ทำไมเรื่องที่คุณตาพูดกับเธอในความทรงจำ ไม่ตรงกับชีวิตจริงซักนิดเลยล่ะ?

ในเมื่อเธอคือเนี่ยอู๋โยว แล้วเธอจะเป็นคนจีนได้ยังไง พ่อแม่ของเธอจะตายหมดได้ยังไง เห็นอยู่ว่านายหญิงตระกูลเนี่ยกับผู้นำตระกูลเนี่ยยังมีชีวิตอยู่

เธอถึงขั้นคิดเชื่อมโยงไปถึงการตายของตัวเองในชาติก่อน ว่ามีเงื่อนงำอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า หรือเกี่ยวข้องกับรัฐอิสระหรือไม่…

แล้วก็ยังมีซือเยี่ยหานอีก เขาสับเปลี่ยนความทรงจำของเธอเพื่ออะไรกันแน่ ปีนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงได้พาเธอออกจากรัฐอิสระ…

เยี่ยหวันหวั่นกำเอกสารในมือแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุดก็รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง แต่เธอกลับรู้สึกว่าข้างในหนักอึ้งกว่าเดิม

เห็นชัดว่าตอนนี้ตระกูลเนี่ยโดนเนี่ยหลิงหลงหลอกกันหมด แต่สิ่งที่เธอมั่นใจได้ก็คือ กลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเนี่ยหลิงหลงต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่งั้นคงซื้อตัวหน่วยงานนิติเวชมากมายในรัฐอิสระไม่ได้ ยิ่งไม่มีทางใช้เนี่ยอู๋โยวตัวปลอมหลอกทุกคนได้อย่างนี้

รวมถึงกลุ่มอำนาจหลายกลุ่มในตระกูลเนี่ย เกรงว่าคงตกอยู่ในกำมือของเนี่ยหลิงหลงแล้ว…

เธอไม่อาจคาดเดาความจริงใจหรือเสแสร้งของเนี่ยหลิงหลงได้เลย

หลังจากรู้ผลการพิสูจน์ DNA ความคิดแรกของเธอก็คืออยากบอกความจริงให้คนในครอบครัวรู้…แต่พอนึกถึงเรื่องราวพวกนี้ เธอก็ต้องใจเย็นลงทันที

ตอนนี้ห้ามวู่วามเด็ดขาด ไม่งั้นอาจนำอันตรายมาให้ตระกูลเนี่ย แล้วก็ถังถังได้

เธอต้องสืบให้ได้ว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเนี่ยหลิงหลงคือใคร รวมถึงเป้าหมายของเธอคืออะไรกันแน่ เธอต้องเตรียมแผนรับมือให้พร้อมทุกด้าน…

เธออยู่ในฐานะไป๋เฟิ่งกลับทำให้สืบหาความจริงได้สะดวกกว่า

สุดท้าย เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจลึกๆ ลุกขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปที่ตระกูลเนี่ย

ตอนนี้ คนที่เธออยากเจอมากที่สุด…ก็คือถังถัง…

……

หน้าคฤหาสน์ตระกูลเนี่ย

เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งจะมาถึง ก็เห็นเงาร่างเล็กๆ ของถังถังอยู่หน้าบ้าน ด้านหน้าถังถังมีชายแต่งกายชุดพ่อบ้านคนหนึ่งยืนขวางอยู่ เหมือนกำลังคุยอะไรบางอย่างกับเขา

พ่อบ้านตระกูลเนี่ยเป็นชายชราไม่ใช่เหรอ?

ทำไมถึงเปลี่ยนคนแล้วล่ะ?

สีหน้าถังถังเหมือนกำลังโกรธจัด

“หลีกไป!” เด็กน้อยจ้องพ่อบ้านหนุ่มด้วยสายตาเย็นเยียบ

“คุณชายน้อยโปรดกลับเข้าไปเถอะครับ” พ่อบ้านโค้งกายอย่างนอบน้อม แต่แววตากลับไร้ซึ่งความเคารพและเกรงกลัว ทว่าแฝงไว้ด้วยความอวดดีเหมือนมีคนคอยให้ท้ายยังไงยังงั้น

ถังถังแววตาคมปลาบ “สามหาว คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งผม?”

พ่อบ้านหนุ่มเหมือนสะดุ้งแววตาคมปลาบและรังสีเยือกเย็นของเด็กน้อย เขาสงบสติอารมณ์ แล้วพยายามพูดด้วยท่าทางเหมือนใจดีสู้เสือ “คุณชายน้อย ไม่ใช่ว่าผมออกคำสั่งคุณนะครับ แต่นี่เป็นคำสั่งของคุณแม่ของคุณชายน้อย พักนี้รัฐอิสระเหตุการณ์ไม่ค่อยสงบ คุณชายน้อยออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านอย่างงี้อันตรายเกินไป ถึงคุณชายน้อยจะโวยวายจนเรื่องไปถึงหูคุณผู้หญิงกับท่านผู้นำตระกูลก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ”

“สามหาว นี่คุณกำลังขู่ผมงั้นเหรอ?”

“ผมไม่กล้าหรอกครับ ผมแค่ทำตามคำสั่งของคุณหนูรองเท่านั้น คุณหนูรองทำไปก็เพราะหวังดีต่อคุณชายน้อยนะครับ! เด็กๆ พาคุณชายน้อยกลับไปส่งที่ห้อง!”

ถังถังราวกับหมดความอดทน เขาไม่สนใจพ่อบ้านหนุ่ม แต่เดินตรงออกไปนอกบ้านทันที

พ่อบ้านหนุ่มตะโกนเสีงเย็น “มัวยืนทำอะไรอยู่ ยังไม่ห้ามคุณชายน้อยอีก”

บอดี้การ์ดชุดดำสามสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งเดินไปขวางถังถังตามคำสั่ง ส่วนพ่อบ้านหนุ่มคนนั้นก็คว้าแขนถังถัง แล้วทำท่าจะลากเขากลับเข้าบ้าน…