ตอนที่ 1353 ศัตรูของโลก

Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ

ตอนที่ 1353 ศัตรูของโลก โดย Ink Stone_Fantasy

สัตว์ประหลาดแขนยาวเปลี่ยนทิศทางทันที มันหักหลบเก้าสิบองศา พร้อมกับใช้หมัดทั้งสองข้างโจมตีไปข้างหน้าพร้อมกัน!

แขนของมันยืดออกไปจนสุด ก่อนจะเสียบเข้าไปในตัวรถที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ตัวรถที่บิดเบี้ยวมีรูขนาดใหญ่สองรูปรากฏขึ้นมาทันที!

ถ้ามีคนแอบอยู่ในนั้น คนๆ นั้นจะต้องโดนหมัดนี้โจมตีเข้าอย่างจังแน่

และนี่ก็เป็นวิธีการโจมตีที่สัตว์ประหลาดแขนยาวภาคภูมิใจ

แขนขาที่สามารถยืดหดได้กับเรี่ยวแรงมหาศาลทำให้ที่ผ่านมามันไม่จำเป็นต้องใช้พลังแห่งธรรมชาติในการรับมือผู้ฝึกยุทธ์ ในบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ที่มันกำจัด มีน้อยคนนักที่จะสามารถตั้งตัวได้ก่อนที่มันจะลงมือ สีหน้าไม่อยากจะเชื่อของพวกเขาในตอนที่ตายคือสิ่งที่ทำให้มันมีความสุข

แต่พริบตาที่มันโจมตีถูก สีหน้าของสัตว์ประหลาดแขนยาวพลันเปลี่ยนไปทันที

ด้านล่างตัวรถที่ถูกชกจนกระเด็นลอยออกไปมีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง

ท่าทางของเธอดูไม่เหมือนว่าจะถูกหมัดโจมตีเลย หากแต่คุกเข่าลงไปเล็กน้อย ร่างกายโน้มเอียงไปด้านหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอเตรียมตัวโจมตีเอาไว้แต่แรกแล้ว

ตัวมันคิดว่าตัวเองตอบสนองได้เร็วพอ

แต่อีกฝ่ายเร็วกว่ามันอย่างเห็นได้ชัด

แถมยังเร็วกว่ามากด้วย!

แสงสีเงินเปล่งประกายของมาจากมือของเธออีกครั้ง ก่อนจะกลายสภาพกลายเป็นเหมือนน้ำวนที่หมุนอย่างรวดเร็ว ลำแสงที่แหลมคมไม่เพียงแต่จะฉีกรถเป็นชิ้นๆ แต่ยังฉีกแขนทั้งสองข้างของมันเป็นชิ้นๆ ด้วย

สัตว์ประหลาดแขนยาวส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา มันพยายามดิ้นรนที่จะถอยออกไป ก่อนที่สุดท้ายจะดิ้นหลุดออกมาจากน้ำวนนั้นได้

แต่ว่าแขนที่หดกลับมานั้นเหลือเพียงแต่แขนด้วนๆ เพียงเล็กน้อย เลือดสดๆ ที่ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งหยดกระจายเต็มพื้น

แค่ในพริบตา ฟอลเลนอีวิลประหลาดที่ทำให้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต้องปวดหัวก็ตายไปหนึ่งบาดเจ็บอีกหนึ่ง

“ที่บอกว่าสู้อย่างเท่าเทียมกันคือพวกแกสามตัวรุมเด็กผู้หญิงคนเดียวน่ะเหรอ?” เฟยอวี่หานสะบัดมือทีหนึ่ง แสงที่แสบตากระจายออกมาจากฝ่ามือกลายเป็นดาบยาว “ฉันคิดว่าตอนนี้ต่างหากถึงจะเรียกว่าเท่าเทียมกัน”

“อาจารย์…” ซีโร่รีบคว้ามือของเธอเอาไว้

“ฉันโทรหาคุณอาโรแลนด์ของเธอแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ” เฟยอวี่หานกะพริบตาพร้อมกับพูดเสียงเบาๆ

“เอ๋?” เธองุนงง “แต่เรื่องนี้เราต้องแจ้งทางสมาคมไม่ใช่เหรอคะ ถ้าจะโทรหาคุณอา สู้โทรหาพี่การ์เซียดีกว่า ปกติก็ทำอะไรไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว ถ้ามาที่ีนี่ีมันจะยิ่ง..”

“เรื่องนี้เกรงว่าคงมีแต่เขาเท่านั้นถึงจะจัดการได้” เฟยอวี่หานลูบหัวเธอ “ส่วนหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของเธอในตอนนี้ก็คือรีบหนีออกไปจากที่นี่ เธอทำได้ไหม?”

เดิมสาวน้อยคิดอยากจะพูดอะไร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสายตาที่คร่ำเคร่งของอีกฝ่าย สุดท้ายเธอจึงได้แต่กัดฟันแล้วหมุนตัววิ่งออกไปยังชายขอบของม่านพลังที่อยู่ด้านหลัง

“บัดซบ เจ้ารอดจากการโจมตีแบบนั้นได้ยังไง!” สัตว์ประหลาดแขนยาวคำรามออกมา

“เหตุผลง่ายๆ….แค่เหมือนกับพวกแกก็พอ” เฟยอวี่หานยักไหล่ พลังแห่งธรรมชาติปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ

ดวงตาของสัตว์ประหลาดแขนยาวหดเล็กลง “ใช้พลังจากภายนอกทำให้การโจมตีไร้ผลเหรอ? นี่ต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับผู้คุมถึงจะทำได้ไม่ใช่เหรอ!” มันจ้องมองเธออย่างตกตะลึง “หรือว่า…แกคือคนที่ถูกสมาคมขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะคนนั้น…”

“ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะมีอะไรแปลก เพราะว่าแม้แต่ฟอลเลนอีวีลที่ระดับต่ำที่สุดก็ยังทำได้เลยไม่ใช่เหรอ?” เฟยอวี่หานพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ว่าแต่พวกเจ้านั่นแหละ เดิมฉันคิดอยากจะดูหน่อยว่ามีพวกแกซุ่มอยู่กี่คน แล้วค่อยคิดหาทางรับมือ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าฉันจะได้มายินเรื่องที่น่าสนใจขนาดนี้ ฉันต้องขอขอบคุณนะ เป็นเพราะพวกแก ฉันถึงได้พิสูจน์ข้อสงสัยที่เก็บเอาไว้ในใจมานานได้”

“ท่านทูต เจ้านี่…” สีหน้าของสัตว์ประหลาดแขนยาวดูแย่ขึ้นมาทันที ความดุร้ายบนใบหน้าที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ก็หายไปจนหมด แถมยังเผลอถอยหลังต่อหน้าผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัวด้วย

เดลต้ายกแขนขวาขึ้นมาคว้าจับฟอลเลนอีวิลเอาไว้ เสียงของอีกฝ่ายเหมือนค้างติดอยู่ในลำคอ ร่างกายมันแข็งทื่อขึ้นมาเหมือนกับถูกมือยักษ์บีบเอาไว้แน่นอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นก็มีเสียงกระดูกหักดังขึ้นมา แกนพลังสีแดงที่อยู่ตรงหน้าอกหลุดออกมาจากทางด้านหลัง ก่อนจะลอยขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของเทวทูต

สัตว์ประหลาดแขนยาวที่สูญเสียแกนพลังไปนอนแน่นิ่งไปกับพื้นด้วยสีหน้าแปลกใจ

ส่วนฟอลเลนอีวิลการ์กอยล์ที่ถูกเฟยอวี่หานสังหารก็ถูกดึงเอาแกนพลังกลับไปเหมือนกัน แกนพลังที่ตกอยู่บนพื้นของมันลอยขึ้นมา ก่อนจะไปรวมกันอยู่ที่มือของมัน

แกนพลังที่หยุดนิ่งหมุนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง มันกลายสภาพเป็นหมอกสีแดงไหลเข้าไปในร่างกายของเดลตา

“ผู้ที่หวาดกลัวศัตรูไม่คู่ควรต่อพลังของพระเจ้า หน้าที่ของพวกเจ้าจบลงแต่พวกเท่านี้” เดลตาพูดโดยน้ำเสียงไม่เปลี่ยน เหมือนว่ามันแค่กำจัดขยะที่ติดอยู่บนมือทิ้งไปเท่านั้น มันมองมาทางเฟยอวี่หาน “ช่างน่าขันเสียจริง…เห็นๆ อยู่ว่าผู้ที่สร้างโลกต่างหากคือเป้าหมายที่แท้จริงที่ต้องรีบกำจัด แต่พวกมันกลับถูกเปลือกนอกมาทำใหดวงตามืดบอด แล้วก็หวาดกลัวต่อผู้ฝึกยุทธ์เพียงแค่คนเดียว นี่เป็นเพราะว่าพวกมันเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของพวกเจ้า หรือเป็นเพราะสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมามักจะมีสายตาที่ั้สั้น? ก็เหมือนอย่างเจ้า…”

เฟยอวี่หานลงมือในเสี้ยววินาทีนั้นเอง

สิ่งที่เธอรออยู่นั้นไม่ใช่ว่ารอให้ศัตรูประมาท หากแต่รอให้ซีโร่ไปอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา คนที่ยิ่งคิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่นนั้นมักจะรู้สึกโกรธในตอนที่ถูกขัดจังหวะการพูด อารมณ์ที่พลุ่งพล่านเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลกระทบต่อการต่อสู้ เธอจำเป็นต้องใช้ทุกโอกาสที่เป็นไปได้ในการสู้กับศัตรู

การวิเคราะห์เพียงหนึ่งเดียวของเฟยอวี่หานในตอนนี้คือความสามารถของคนสวมใส่หน้ากากนี้อยู่คนละระดับกับพวกฟอลเลนอีวิลเมื่อครู่นี้ วิธีการโจมตีของมันเองก็ค่อนข้างอันตราย ถ้าอยากจะป้องกันมันไม่ให้โจมตีซีโร่ วิธีที่ดีที่สุดก็คือใช้โจมตีต่อเนื่องปิดตายการเคลื่อนไหวของมันเอาไว้!

เธอดึงแท่งเหล็กที่ถูกชนหักขึ้นมา ก่อนจะขว้างใส่เดลต้าสุดแรง

อีกฝ่ายจำต้องปิดปากลง ก่อนปัดแท่งเหล็กให้กระเด็นออกไป

แต่วินาทีต่อมาเฟยอวี่หานก็มาอยู่ตรงหน้ามันแล้ว

นับตั้งแต่ที่เธอเชี่ยวชาญการเปลี่ยนพลังเแห่งธรรมชาติให้มีรูปร่าง เธอก็แทบจะไม่พกอาวุธเลย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าอาวุธจะไร้ประโยชน์ การเอาพลังไปเคลือบไว้บนวัตถุไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดแรงในการแปลงพลังให้เป็นรูปร่าง แต่มันยังช่วยเพิ่มระยะในการโจมตีให้กว้างขึ้นด้วย เนื่องจากบนเวทีประลองห้ามใช้อาวุธ จึงมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วฝีมือของเธอในการฟันดาบเหนือกว่าการใช้หมัดและเท้ามาก!

มีดที่ถูกเคลือบด้วยพลังแห่งธรรมชาติฟันออกไป ต่อให้ร่ายกายของอีกฝ่ายทำขึ้นมาจากเหล็กก็จะต้องถูกพลังของเธอฟันจนขาด

แต่ปลายมีดยังไม่ทันถูกตัวอีกฝ่าย มันก็ถูกคลื่นพลังที่ไร้รูปร่างมากันเอาไว้

ถึงแม้มันจะไร้รูปร่าง แต่มันกลับแข็งแกร่งยิ่งนัก!

นั่นจะต้องเป็นพลังที่มาจากแหล่งเดียวกับพลังแห่งธรรมชาติอย่างไม่ต้องสงสัย

เฟยอวี่หานยังคงตั้งท่าโจมตีเอาไว้ เธอยกเท้าซ้ายขึ้นมาก่อนจะบิดเอวไปทางเทวทูต

ครั้งนี้เธอเตะถูกเป้าหมาย

เอวของเทวทูตหักงอ ก่อนจะกระเด็นลอยออกไปกระแทกเข้ากับตู้บรรทุกสินค้าอย่างแรง

ศัตรูใช้พลังติดต่อกันไม่ได้? หรือว่า…มันจำเป็นต้องใช้คู่กับมือทั้งสองข้าง?

ความคิดภายในหัวของเธอวิ่งอย่างรวดเร็ว แต่ความเคลื่อนไหวของเธอกลับไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เธอรีบพุ่งตามเข้าไปที่ตู้บรรทุกสินค้า

ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที เฟยอวี่หานได้ปะทะกับอีกฝ่ายไปสิบกว่ากระบวนท่าแล้ว เทวทูตถูกฟันไปหลายครั้ง บนตัวของมันมีบาดแผลอยู่หลายแห่ง แต่บาดแผลที่พอจะทำให้คนธรรมดาเสียชีวิตได้เหล่านี้กลับไม่สามารถส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของมันได้เลย ดูเผินๆ แล้วเหมือนเธอจะโถมโจมตีใส่อีกฝ่าย แต่เธอรู้ดีว่าศัตรูไม่มีทางแพ้เพราะการโจมตีแบบนี้แน่

ต้องโจมตีใส่จุดตายเหรอ?

เมื่อดูจากร่างกายของเทวทูตแล้ว จุดที่น่าสงสัยที่สุดเกรงว่าคงจะเป็นหน้ากากอันนั้น อย่างน้อยในระหว่างการปะทะกันก่อนหน้านี้ การป้องกันที่ส่วนหัวของมันก็ดูจะแน่นหนามากที่สุด

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฟยอวี่หานก็จงใจผ่อนการโจมตีลง แล้วถอยไปข้างหลังก้าวนึง

เดลต้าที่มีเวลาพักหายใจยื่นมือไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล

เฟยอวี่หานกระทืบพื้นแล้วพุ่งตัวกลับไปข้างหน้า เธอเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นดาบ แล้วแทงเข้าไปที่ศัตรูด้วยความเร็วปานสาฟ้า การเปลี่ยนจากถอยกลายเป็นบุกดูเหมือนจะง่าย แต่การจะทำมันด้วยความเร็วสูงนั้นจำเป็นต้องเอาชนะแรงเฉื่อยอันมหาศาล อาศัยเพียงแค่ข้อต่อกับร่างกาย ยังไงก็ไม่มีวันที่จะทำได้ มีแต่ต้องควบคุมพลังแห่งธรรมชาติได้อย่างแม่นยำจนถึงขีดสุดจึงจะสามารถทำการเคลื่อนไหวแบบนี้ออกมาได้อย่างลื่นไหล ถ้าหากช้าไปแม้แต่เพียงเสี้ยววิเดียวก็อาจจะถูกพลังที่มองไม่เห็นนั้นคว้าจับเอาไว้ได้ เธอถึงขนาดสัมผัสได้ถึงลมที่กวาดผ่านแผ่นหลังของตัวเองไปเหมือนคมดาบ

เฟยอวี่หานฉวยโอกาสที่เทวทูตคว้าจับพลาด แทงดาบเข้าไปในหน้ากากมันเต็มแรง

“แคร่ก!”

หน้ากากที่มีลวดลายแปลกๆ ปริแตกออก

แต่เธอกลับสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

ตามหลักแล้วการโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะโจมตีถูกหน้ากาก หากแต่หัวของอีกฝ่ายก็น่าจะถูกแทงทะลุด้วย

วินาทีที่แสงเข้าไป เฟยอวี่หานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีอะไรมาขวางกั้นดาบของเธอเอาไว้ ตัวดาบเองก็แทงทะลุหน้ากากไปมากกว่าครึ่ง แต่เธอกลับมองไม่เห็นปลายดาบที่แทงทะลุออกมาจากด้านหลังศีรษะของอีกฝ่าย ราวกับว่ามันจมหายไปในหัวของศัตรูอย่างไรอย่างนั้น

ในตอนที่หน้ากากร่วงหล่นลงมา เฟยอวี่หานถึงกับสูดปากด้วยความตกใจ

เธอเห็นหัวของมันเป็นสีดำมืดเหมือนกับหลุมดำที่มองไม่เห็นก้นหลุม และในหลุมดำนั้นก็มีดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังหมุนวนกลายเป็นเหมือนกาแลคซี่ขนาดใหญ่ ดาบในมือของเธอจมหายไปในกาแลคซี่ ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

ใช่แล้ว ในภารกิจกวาดล้างฟอลเลนอีวิลครั้งก่อน สัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวอยู่ในโรงงานร้างก็เหมือนจะมีของแบบนี้เหมือนกัน

ภาพที่น่าเหลือเชื่อนี้ได้ทำให้การถอยของเฟยอวี่หานช้าไปจังหวะหนึ่ง

และการช้าไปเสี้ยววินาทีนี้เองก็ทำให้เธอไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งที่สองของเทวทูตได้

พลังที่ไร้รูปร่างกระแทกเข้ามาที่ร่างกายด้านข้างของเธอจนเธอกระเด็นลอยออกไป!

พลังแห่งธรรมชาติสามารถป้องกันอาวุธธรรมดาได้ แต่มันไม่สามารถป้องกันการโจมตีของพลังที่มาจากแหล่งเดียวกันได้

เธอรับรู้ได้ถึงอวัยวะภายในที่สั่นสะเทือน ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจุกอยู่ที่ลำคอ แต่เธอกลับส่งเสียงร้องไม่ออก เธอกลิ้งไปกับพื้นหลายตลบกว่าจะหยุดร่างกายตัวเองได้ เธอฝืนลุกยืนขึ้นมา เลือดสดๆ ทะลักออกมาจากปากของเธอ!

……………………………………………………………..