บทที่ 1793 เทพปีศาจน้อย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1793 เทพปีศาจน้อย

 

“ดังนั้นผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ก็ตายอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา!”

 

“ไม่น่าเชื่อ จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเป็นตัวตนในตำนาน นางเคยต่อสู้กับเทพปีศาจจิต วิญญาณเฉินอี้เป็นอดีตผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ เขาครอบครองมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์!”

 

“ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่สองคนตายในมือของฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ? ผู้ใดจะคิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้”

 

“มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด!”

 

“เขาใช้รากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาต่อต้านวังสวรรค์ เขาใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาต่อต้านผู้อมตะภาคใต้”

 

“มีประเด็นที่น่าสงสัยมากเกินไป กระทั่งตอนนี้ข้าก็ยังไม่อยากจะเชื่อ”

 

“มันควรเป็นเรื่องจริง วังสวรรค์และภาคใต้ไม่ได้ปฏิเสธ!”

 

“ฟางหยวน ปีศาจตนนี้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขากลับสามารถสังหารและจับกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดและระดับแปด!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ครั้งนี้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้เสียหน้าอย่างมาก”

 

“นั่นไม่เป็นความจริงทั้งหมด แม้แต่วังสวรรค์ยังล้มเหลวในการเผชิญหน้ากับฟางหยวน”

 

“ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด เขาทำเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?”

 

“ในที่สุดข้าก็เข้าใจ คนเช่นฟางหยวนไม่สามารถตัดสินได้ด้วยสามัญสำนึก”

 

“เขามีกลิ่นอายของเทพปีศาจ! เทพปีศาจทั้งหมดเป็นเช่นนี้เมื่อพวกเขายังเด็ก พวกเขาต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกว่าและสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปด!”

 

“นั่นเป็นเรื่องจริง”

 

“น่าเสียดายที่มีเพียงเทพอมตะแห่งความฝันเท่านั้นที่จะถือกำเนิดขึ้นในอนาคต ไม่มีเทพปีศาจ นี่ไม่ใช่ยุคของฟางหยวน”

 

“ท่านคิดผิดแล้ว เทพปีศาจบัวแดงทำลายวิญญาณชะตากรรม อนาคตไม่แน่นอน!”

 

“ฟางหยวนชั่วร้ายมาก เขาก่ออาชญากรรมมากมาย จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเขาก้าวเข้าสู่ระดับแปด?”

 

“ถูกต้อง ในขณะที่เขายังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เราต้องฆ่าเขา นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะกำจัดเขา”

 

“ยาก! กระทั่งวังสวรรค์ยังไม่พบที่อยู่ของเขา”

 

“ฟางหยวนไม่เพียงชั่วร้าย เขายังฉลาดแกมโกง เขาเป็นปีศาจต่างโลกที่เดินทางมาจากอนาคต เขามีวิธีการมากมาย มันเป็นเพียงการรนหาที่ตายหากผู้อมตะทั่วไปต้องการเข้าใกล้เขา แม้แต่ผู้อมตะระดับแปดยังต้องระวังตัว”

 

“แต่หากผู้ใดสามารถสังหารฟางหยวน พวกเขาจะได้รับกำไรมหาศาล”

 

“นั่นเป็นเรื่องจริง ฟางหยวนมีมรดกของผู้อมตะระดับเก้ามากมาย เขามีทรัพยกรนับไม่ถ้วน เขามีวิญญาณกาลเวลา วิญญาณท่องแดนอมตะ และวิญญาณอมตะดวงอื่นๆ เขายังมีแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ เขาสามารถเปรียบเทียบกับกองกำลังใหญ่ด้วยตัวเขาเอง”

 

โลกผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคตกสู่ความโกลาหล ฟางหยวนกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุด

 

ผู้อมตะทั้งหมดต่างมีความรู้สึกที่ซับซ้อน

 

ฟางหยวนสามารถสังหารสองผู้อมตะระดับแปดและจับผู้อมตะจำนวนมาก ทำให้โลกตกตะ

 

ตอนนี้แม้แต่ผู้อมตะระดับแปดยังไม่กล้าดูถูกฟางหยวน

 

ฟางหยวนได้รับฉายาใหม่จากสาธารณชนว่าเทพปีศาจน้อย

 

ชื่อนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและนิสัยของฟางหยวนที่สามารถเป็นเทพปีศาจในอนาคต

 

นี่เป็นการประเมินที่สูงมาก

 

หลังจากทั้งหมดในประวัติศาสตร์มีผู้อมตะระดับเก้าเพียงสิบคน

 

ตอนนี้โลกของผู้อมตะตระหนักว่าฟางหยวนมีโอกาสที่จะกลายเป็นเทพปีศาจ

 

แน่นอนว่านอกเหนือจากบทสนทนาเกี่ยวกับฟางหยวน วังสวรรค์ก็เป็นเป้าหมายของการสนทนาเช่นกัน

 

ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราของวังสวรรค์ทำให้ผู้อมตะทั้งสี่ภูมิภาคตกใจมาก

 

โดยเฉพาะกองกำลังใหญ่ฝ่ายธรรมะ พวกเขารู้สึกเหมือนยืนอยู่บนปลายเข็ม

 

เมื่อสงครามปะทุขึ้น ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราจะมีความสำคัญมาก มันจะอนุญาตให้ผู้อมตะภาคกลางบุกโจมตีภูมิภาคอื่นได้ทันที

 

ในเวลานั้นผู้อมตะระดับแปดของภูมิภาคจะไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อต่อต้านผู้อมตะของวังสวรรค์ได้ทันท่วงที

 

ภายในวังสวรรค์ การแสดงออกของเทพธิดาจ่อเว่ยกลายเป็นมืดครื้ม

 

แม้นางจะคาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง นางยังรู้สึกโกรธมาก

 

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ยอมปล่อยฟางหยวนไปแต่ฟางหยวนก็ไม่ปล่อยให้วังสวรรค์มีช่วงเวลาที่ง่ายดายเช่นกัน

 

นี่เป็นการต่อสู้ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายพบความสูญเสีย

 

แต่คนที่รู้สึกพ่ายแพ้มากที่สุดคือฟางเลิ้ง

 

เขาพึ่งก้าวเข้าสู่ระดับหก เขาพึ่งได้รับวิญญาณอมตะและกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง แต่ข่าวร้ายนี้กลับปรากฏขึ้น

 

ฟางหยวนสามารถเอาะชนะวังสวรรค์ แม้แต่กองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ก็ไม่สามารถทำสิ่งใด

 

ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

 

“ข้า…” หลังจากได้ยินข่าวนี้ มีหลายสิ่งที่ฟางเฉิงต้องการกล่าวแต่เขากลับพูดไม่ออก

 

หลังจากไม่นานเขาก็พึมพำกับตนเองด้วยใบหน้าซีดขาว “ข้า…ไร้เดียงสาจริงๆ” เขาเผยรอยยิ้มขมขึ้น “ฟางหยวน…ความแตกต่างระหว่างเราใหญ่โตเช่นนี้เลยงั้นหรือ?”

 

แน่นอนว่าน้องชายที่น่าสงสารของฟางหยวนผู้นี้ยังไม่รู้ว่าพี่ชายของเขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปดไปแล้ว

 

ความจริงเรื่องนี้ถูกซ่อนไว้จากโลก

 

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะกระทั่งเทพธิดาจื่อเว่ยก็ยังไม่รู้ความลับของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ตามตรรกะทั่วไป หากฟางหยวนต้องการก้าวเข้าสู่ระดับแปด เขาต้องก้าวข้ามภัย พิบัติใหญ่โดยไม่คำนึงถึงความสำเร็จหรือล้มเหลว เขาจะทิ้งเบาะแสสำคัญเอาไว้เบื้องหลัง

 

ฟางหยวนไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้เมื่อได้ยินบทสนทนาของผู้คน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับข้าจะร้อนแรงกว่าวังสวรรค์”

 

แม้โลกของผู้อมตะจะให้ความสนใจกับเขามากว่าวังสวรรค์ แต่เขาไม่รู้สึกผิดหวัง

 

เพราะฟางหยวนรู้ว่ากองกำลังใหญ่ของทั้งสี่ภูมิภาคกำลังลอบหารือเกี่ยวกับวิธีจัดการวังสวรรค์

 

“การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม วังสวรรค์ รอดูให้ดี!”

 

ฟางหยวนให้ความสนใจกับผลกระทบหยดหมึกเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าหลายสิ่งจะเปลี่ยนไป

 

“นึกถึงการกระทำของข้าหลังจากกำเนิดใหม่ การกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุดที่ข้าทำ”

 

“นำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ นี่เป็นข้อได้เปรียบของข้า”

 

“แน่นอนว่าสถานะปีศาจต่างโลกก็เป็นประโยชน์ต่อข้าเช่นกัน”

 

“สิ่งสำคัญที่สุด ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเทพปีศาจบัวแดงที่สร้างความเสียหายให้กับวิญญาณชะตากรรม!”

 

เมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า เขาได้รับกำไรมากขึ้น แต่ผลกระทบหยดหมึกจะทำให้ความได้เปรียบของเขาลดน้อยลงเรื่อยๆ

 

ประการแรก ปาชื่อปาถูกฟางหยวนจับตัว นี้หมายความว่ากองกำลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้ที่บุกภาคกลางจะสูญเสียผู้อมตะระดับแปดที่มีอิทธิพลไปหนึ่งคน

 

ระหว่างการต่อสู้ในชีวิตก่อนหน้า ปาชื่อปาเป็นเสาหลักในการต่อต้านชิงเต่ของวังสวรค์

 

ประการที่สอง ฟางหยวนฉกชิงมรดกห้าภูมิภาคของเต๋จูและทำลายเทือกเขาห้าภูมิภาค ดังนั้นการซุ่มโจมตีบนเทือกเขาห้าภูมิภาคจะไม่เกิดขึ้น

 

จวินเฉินกวงของวังสวรรค์ที่เคยถูกฟางหยวนจับกุมจะได้รับอิสระในครั้งนี้

 

นอกจากนั้นวังสวรรค์ยังมีผู้อมตะระดับแปดอีกคน นั่นคือองค์ชายฟงเซี่ยน

 

“ตอนนี้ธุรกิจปลามังกรของข้ากำลังถูกปราบปรามอย่างหนัก กำไรของมันเกือบเป็นศูนย์”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยถูกฟางหยวนยั่วยุ นั่นทำให้นางตอบโต้รุนแรงกว่าชีวิตก่อนหน้านับสิบเท่า

 

“โชคดีที่ข้ากลืนกินมิติช่องว่างจำนวนมาก ข้ายังมีแหล่งรายได้อื่น”

 

“แต่ในชีวิตก่อนหน้าเทพธิดาจื่อเว่ยทำงานร่วมกับฝ่ายธรรมะของภาคใต้เพื่อปราบปรามธุรกิจของข้า”

 

“ข้าสงสัยว่ามันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่? พวกเขาจะร่วมมือกันปราบปรามธุรกิจอื่นของข้าเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับธุรกิจปลามังกรหรือไม่?”

 

ฟางหยวนคิดและรู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้สูง

 

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบในแง่ร้ายอีกประการหนึ่ง มันเกี่ยวกับถ้ำสวรรค์นิรันดร

 

ชีวิตก่อนหน้า ถ้ำสวรรค์นิรันดรสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา นั่นทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นและสามารถรวบรวมผู้อมตะของภาคเหนือ

 

แต่ครั้งนี้ถ้ำสวรรค์นิรันดรไม่ได้รับสิ่งใดเลย ขณะที่องค์ชายฟงเชี่ยนกลับไปยังวังสวรรค์ ด้วยการทรยศครั้งใหญ่ขององค์ชายฟงเชี่ยน มันไม่เพียงทำให้สมาชิกตระกูลฮวงจินเสียหน้าแต่ถ้ำสวรรค์นิรันดรก็สูญเสียชื่อเสียงเช่นกัน

 

โลกภายนอกกำลังวุ่นวายแต่ฟางหยวนไม่ได้รับผลกระทบ

 

เขายังเติบโตขึ้นอยู่ในมุมหนึ่งของโลกโดยไม่มีผู้ใดค้นพบ

 

การบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วแต่มันยังห่างไกลจากการแยกดวงวิญญาณ

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนมุ่งเน้นที่การอนุมานขณะที่ร่างหลักของเขาฝึกฝนท่าไม้ตายอย่างต่อเนื่อง

 

ปัจจุบันฟางหยวนกำลังทำความเข้าใจมรดกที่แท้จริงของเต่าจู

 

ท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาค!

 

ฟางหยวนพึ่งเรียนรู้มันและสามารถปล่อยปราณแสงได้เพียงสีเดียว

 

สำหรับค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค เขายังไม่สามารถใช้งานมันเพราะเขาไม่มีวิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพี

 

ตามความทรงจำของเขา วิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพียังไม่ปรากฏขึ้นในช่วงเวลานี้

 

นอกจากวิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพี ฟางหยวนยังต้องดัดแปลงค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคและเก็บมันไว้ในวิญญาณอมตะธงค่ายกล