เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1049
พอเสือขาวได้ยินคำพูดของหยางเฟิง เลือดในตัวก็พลุกพล่านขึ้น
เชี่ยเอ้ย!
ดีว่ะ!
คราวนี้มีเรื่องให้ชกต่อยกันแล้ว!
พอเสือขาวกลับมา ก็ได้ยินเรื่องสำนักหงยกพวกมาโจมตีตงไห่
เขารู้สึกเสียดายมาก ถ้าเขาอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ต้องฆ่าสำนักหงเรียบไม่เหลือแน่!
เฉินตงอดคิ้วขมวดไม่ได้
ที่หยางเฟิงพูดหมายความว่าอะไร?
หรือเขาจะบุกโจมตีสำนักหงหรือ?
บอกตามตรง พละกำลังของหยางเฟิงแกร่งจนคนต้องสิ้นหวัง
แม้แต่อุบายของหยางเฟิง คนทั่วไปก็เข้าไม่ถึง
ถ้าหยางเฟิงจะลงมือกับสำนักหงจริง ๆ สำนักไม่มีกำลังตอบโต้อย่างแน่นอน
เพียงแต่เมื่อก่อนตัวเองเป็นเจ้าสำนักหง
หยางเฟิงลงมือขึ้นมาจริง ๆ……
ตัวเองควรเลือกอย่างไร?
พอคิดถึงตรงนี้
เฉินตงก็อดขมวดคิ้วถามไม่ได้ว่า: “เจ้าพันธมิตรหยาง ท่านเตรียมตัวจะทำยังไง?หรือท่านจะไปโพ้นทะเลด้วยกวาดล้างสำนักหงให้สิ้นซากด้วยเองหรือ?ข้าน้อยไม่เตือนท่านไม่ได้ อิทธิพลสำนักหงในโพ้นทะเลมีฐานะซับซ้อนยิ่งใหญ่มาก!”
“ถ้าพวกเราไปโพ้นทะเล เห็นจะไปกระตุ้นให้สำนักหงเกิดการล้างแค้นอย่างรุนแรง เมื่อถึงเวลานั้น เกรงว่าจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี……”
คำพูดข้างท้าย เฉินตงไม่ได้พูดออกมา
ในฐานะอดีตเจ้าสำนักหง เฉินตงรู้พละกำลังของสำนักหงเป็นอย่างดี
สำนักหงในเกาะดาวโพ้นทะเลนับว่าทรงอิทธิพลสูงสุด
อีกทั้งสำนักหงยังมีสิบเจ้าแก๊งใหญ่
ซึ่งจะดูถูกศักยภาพของแต่ละเจ้าแก๊งไม่ได้
แต่ละเจ้าแก๊ง ต่างมีศักยภาพแห่งตระกูลอันดับของต้าเซี่ย!
แม้ว่าก่อนหน้า เย่หรงนำพาชนชั้นนำแปดพันนายมาพบกับความพ่ายแพ้ในตงไห่
แต่สำนักหงก็ยังคงความยิ่งใหญ่อยู่
ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนจะไปก่อกวนได้!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างหยางเฟิงที่ข้ามทะเลออกไปทำสงคราม!
“หึ!”
ได้ยินแค่เสียงแสยะของหยางเฟิง: “สำนักหงข่มเหงกันเกินไปเช่นนี้ ถ้าฉันไม่กำจัดมันล่ะก็ ไม่เท่ากับฉันถูกข่มเหงได้ง่าย ๆ เหรอ?”
“ฆ่า!ฆ่า!ฆ่า!”
“ฆ่ามันให้เลือดไหลเป็นสายน้ำ!”
“ฆ่ามันให้สิ้นซากไม่เหลือ!”
เพิ่งจะสิ้นเสียงวาจาของหยางเฟิง
เสือขาวก็คำรามขึ้นมาในทันที
เดิมเขาก็เป็นนักรบที่ดีคนหนึ่งอยู่แล้ว
พอได้ยินว่าหยางเฟิงจะไปกำจัดสำนักหงที่โพ้นทะเล เลือดในตัวเขาก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในทันที
พอได้ยิน
เฉินตงก็เข้าใจในทันที
สำนักหงครั้งนี้ซวยเข้าให้แล้ว!
แต่เขาก็ไม่พูดอะไรมาก
อย่างไรเสียเขายังต้องพึ่งหยางเฟิงชิงสำนักหงกลับมา
ถ้าหยางเฟิงกำจัดตระกูลเย่ในโพ้นทะเลได้
ถือเป็นเรื่องดีใหญ่โตสำหรับเฉินตง!
ไม่นาน
วาจาที่หยางเฟิงลั่นไว้ว่า
เขาจะไปเกาะดาวกำจัดสำนักหงให้สิ้นซาก!
ก็แพร่ข่าวไปยังเกาะดาว
เย่หรงโมโหจนแทบระเบิด
เขาไม่ไปหาเรื่องหยางเฟิง แต่หยางเฟิงกลับมาหาเรื่องเขา?
จะข่มเหงกันเกินไปแล้ว!
หยางเฟิงสบประมาทเขาเช่นนี้
อย่างนี้จะให้เย่หรงทนได้อย่างไร?
แต่เย่หรงไม่มีปัญญา
เพราะเขาไม่สามารถไปฆ่าหยางเฟิงที่ตงไห่ได้
คราวก่อน เขานำพาชนชั้นนำสำนักหงแปดพันนายไปตงไห่ก็แพ้ไม่เหลือ
แล้วยังจะมีหน้าอะไรไปตงไห่อีก?
ถ้าแพ้อีกครั้ง เกรงว่าสำนักหงต้องพังลงทั้งสำนัก!
เพราะหยางเฟิงมองจุดนี้ออก
จึงกล้าลั่นวาจาเด็ดเดี่ยวออกไป
นี่เรียกว่าเป็นการเหยีบหน้าเย่หรงและสำนักหงทั้งสำนักแล้วเอามือลูบอย่างรุนแรง!
เย่หรงนั่งอยู่บนเก้าอี้สีหน้าขมึงทึง
ไม่มีใครกล้ารบกวนเขา
ตอนนี้เย่หรงไม่ทำอะไรแล้วทั้งสิ้น
เขาไม่มีปัญยาไปตงไห่
ต่อให้ไปตงไห่ ก็เกรงว่าจะเสียหายยับเยิน!
แต่ในฐานะที่เขาเป็นถึงอาวุโสสำนักหง ถ้าไม่ทำอะไรเลย สิบเจ้าแก๊งใหญ่ต้องวิจารณ์แน่