บทที่ 685 เรื่องราวยากจะคาดเดา

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 685 เรื่องราวยากจะคาดเดา
หลังจากนั้นก็เดินออกไปแล้ว

แสงดาวถูกจับตัว เขาไม่มีทางที่จะไม่สนใจ ถ้าเธอเพราะว่าเรื่องนี้แล้วตายด้วยเงื้อมมือของคนพวกนั้น เขายิ่งไม่รู้จะบอกกับแสนรักที่ยังสลบอยู่ว่ายังไง

ม็อกโกตัดสินใจว่าลองไปคุยกับท่านนายดูก่อน ว่าสามารถให้เขายืมคนมาใช้ก่อนได้หรือเปล่า-

ภาดเหนือ สวนแมกโนเลีย

จูเน่ในตอนที่ได้รับข้อความนี้แล้ว ดีใจขึ้นมาอย่างมาก

“คุณดูสิ ฉันบอกแล้วว่าแผนนี้จะใช้ได้ผล เขาเริ่มออกตัวแล้วใชไหมล่ะ”

เธอมองไปที่ม็อกกี้แล้งพูดออกมาอย่างได้ใจ

แน่นอนว่าม็อกกี้ยิ่งดีใจขึ้นมา

ถ้ามาแล้ว เพียงแค่ม็อกโกพาอาชญากรลักลอบขนอาวุธมาจริงๆ งั้นพวกเขาก็จะใช้โอกาสนี้ฆ่าเขาซะ อีกทั้งม็อกโกเองก็คงคิดไม่ถึง เดิมทีพวกเขาอยากจะแลกเปลี่ยนอาชญากร“แก๊งนี้” สุดท้ายแล้วที่แท้ต้องการชีวิตของเขา!

เมื่อชีวิตของอาชญากรสิ้นลมหายใจ ถึงตอนนั้น แม้ว่าม็อกโกจะมีไชยันต์คอยหนุนหลัง ทางการทหารก็คงไม่ปล่อยเขาไป

ม็อกกี้มองไปยังผู้หญิงคนนี้ แล้วอุทานออกมาด้วยความจริงใจว่า:“พี่สาว ไม่พูดไม่ได้ว่า สมองของคุณฉลาดจริงๆ”

จูเน่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา:“คุณคิดว่าใครๆก็เหมือนคนในครอบครัวของคุณอย่างนั้นหรือไง”

ม็อกกี้:“……”

พวกผู้หญิงช่างชั่วร้าย!

“ใช่แล้ว ฉันได้ยินว่าหญิงสาวตระกูลหิรัญชาคนนี้ ในตอนแรกได้จัดการคนของคุณไปไม่น้อยนี่”

ทันใดนั้น หญิงสาวคนนี้ก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา

ม็อกกี้ได้ยินแล้ว ทันใดสีหน้าก็รู้สึกอับอายขึ้นมา:“นั่นเพราะว่าพวกเราประมาทเกินไป ผู้หญิงคนนี้เหมือนคุณเลย ไม่ได้จัดการได้ง่ายๆ”

“คุณพูดอะไรนะ เหมือนฉันงั้นเหรอ”ทันใดนั้นจูเน่เหมือนถูกทำให้อับอายเป็นอย่างมาก

เหมือนกับเธอ?

ผู้หญิงคนนั้นมีคุณสมบัติอะไร?

เธอเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเทวเทพ ในเมืองหลวงแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นกุหลาบที่มีหนาม กล้าดียังไงเอาเธอมาเปรียบเทียบ?

จูเน่ตัดสินใจไปดูแสงดาวสักหน่อย

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง

อพาร์ทเมนท์ตึกหนึ่งที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง

แสงดาวถูกปิดตาแล้วมัดเอาไว้กับเก้าอี้มาหนึ่งคืนเต็ม ในที่สุดในหูของเธอก็ได้ยินเสียงของรองเท้าส้นสูง ทันใดนั้น เธอจึงขยับตัวดิ้นไปมา

“อืออือ……”

เธอถูกปิดปากเอาไว้ ส่งเสียงร้องอือๆออกมาไม่หยุด แสดงออกมาว่าเมื่อคนคนนี้มาถึงแล้วให้รีบปล่อยเธอไป

ประมาณสิบกว่าวินาที ถือว่า เสียงรองเท้าส้นสูงนี้ก็ได้มาอยู่เบื้องหน้าของเธอ

“ผรืด——”เทปที่ปิดปากเอาไว้ถูกเธอดึงออกแล้ว

“เชี้ยเอ๊ย!”

แสงดาวเหมือนปลาที่ถูกปล่อยลงน้ำ หายใจเข้าเฮือกใหญ่ แม้แต่ความเจ็บที่ปากที่ถูกดึงเทปออก เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ

นี่เป็นไอ้คนชั่วคนไหน?

ถึงได้กล้ามาลักพาตัวเธอ?!

เธอนึกคิดอยู่ตั้งนาน ถึงได้เงยหน้าขึ้นมา ค่อยๆหันไปทางเขาตามลมหายใจที่รู้สึกได้

“แกเป็นใครกันแน่ ทำไมแกถึงได้ลักพาตัวฉัน”

“……”

ไม่มีเสียงใด

คนคนนี้ยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ กำลังมองไปที่เธออย่างเปรียบเทียบ

จนในที่สุด แสงดาวก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว เธอจึงยื่นมือเข้ามา บีบคางของเธอเอาไว้:“ได้ยินมาว่าคุณยโสโอหังมากนี่”

ปรากฏว่าเป็นผู้หญิง!

แต่ว่า น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการยั่วยุและดูถูกเหยียดหยาม

แสงดาวโมโหขึ้นมาแล้ว:“ใช่ ฉันก็ยโสโอหังแบบนี้แหละ แกมันเป็นอีชั่วคนไหน กล้ามาลักพาตัวฉัน แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ”

คุณหนูใหญ่ตระกูลหิรัญชา ก็ยโสโอหังแบบนี้มาโดยตลอด!

แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้ เหมือนกับว่าไม่ได้เก็บเธอเอามาใส่ใจสักนิด

ได้ยินเธอถามว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ เธอกลับหัวเราะออกมา:“ใช่น่ะสิ ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ คุณกล้าฆ่าฉันไหมล่ะ”

หลังจากนั้น มือเรียวก็ตบลงที่ใบหน้าหนึ่งฉาด

“เพี๊ยะ——!”

ทันใดนั้น ไม่ได้มีการป้องกันใดๆ แม้แต่ดวงตายังเบิกกว้างออกมา หลังจากนั้นแสงดาวรู้สึกถึงเพียงความเจ็บปวดบนแก้ม ใบหน้าของเธอทั้งใบ ถูกฟาดลงมาอย่างรุนแรงจนหันไปด้านข้าง

นังคนชั่วคนนี้!

แสงดาวโมโหจนอยากจะระเบิดออกมา

“เป็นยังไงล่ะ อยากฆ่าไหม”

“……”

“หรือว่า ฉันยังสามารถโหดเหี้ยมได้มากกว่านี้อีกนะ!”จูเน่พูดจบ มืออีกข้างก็ตบลงมาอีกฉาดหนึ่ง

เธอเกลียดใบหน้าอันนี้

เพราะว่า เธอพบว่า ทั้งๆที่ดวงตาของหญิงสาวยังเบิกกว้าง แต่ว่า รูปลักษณ์ใบหน้าของเธอนั้นงามกว่าเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปร่างลักษณะของเธอไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าเธอเลย

ในมือของจูเน่ที่ใส่ไปเต็มเหนี่ยว ตั้งใจอยากจะทำให้ใบหน้านี้เสียหาย

แต่ในเวลานี้ หญิงสาวที่ถูกมัดเอาไว้กับเก้าอี้คนนี้ ทันใดนั้นก็คิดได้ขึ้นมา ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ ด้วยพลังใจและร่างกายที่แข็งแกร่ง ลุกยืนขึ้นมาพร้อมกับเก้าอี้ที่ถูกมัดเอาไว้

หลังจากนั้นก็กระแทกเข้าไปที่เธออย่างรุนแรง!

“ตึง——”

เจ็บปวดอย่างมาก จูเน่รู้สึกได้จากจมูกของตัวเอง เธอถูกกระแทกจนสะดุดล้มไปหลายก้าว

ถ้าไม่ใช่ว่าในตอนท้ายลูกน้องของเธอพยุงขึ้นมา เกรงว่าคงจะล้มลงกับพื้นเสียแล้ว

“ไปตายซะ แกนังคนชั่ว!!”

แสงดาวได้ยินเสียงนี้แล้ว รู้แล้วว่าตัวเองทำได้แล้ว ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

นี่ก็คือเธอ

ยอมแตกหักแต่ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี ทั้งๆที่ตัวเองตกอยู่ในกรงขังของคนอื่น ยังคิดจะทำให้เธอรู้สึกอับอาย นั่นเป็นการฝันกลางวันชัดๆ

จูเน่โมโหอย่างหยุดไม่อยู่แล้ว!

เธอมองดูเลือดกำเดาที่อยู่บนหลังมือของตัวเองอย่างเคียดแค้น ทั้งร่างโมโหออกมาจนบูดเบี้ยว:“จัดการมัน !ตีให้ตายไปเลย นังคนชั่วคนนี้ ถ้าวันนี้ฉันยังให้แกมีชีวิตออกไปจากที่นี่ละก็ ฉันจะไม่ใช้นามสกุลเทวเทพอีกต่อไป!!”

เธอคำรามออกมา

นามสกุลเทวเทพ

แสงดาวถูกยกขึ้นมาแล้วถูกโยนลงมากระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง สุดท้ายในหูของเธอได้ยินแล้ว เหมือนจับได้ว่าจะเป็นคำนี้