เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1056

หลังจากที่แลกชิปเสร็จ

หยางเฟิงยิ้มและพูดว่า: “ไปกันเถอะ! วันนี้เราจะฆ่าทุกทิศทุกทาง!และเอาเงินทั้งหมดในกาสิโนชนะให้เกลี้ยง!”

เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ แก๊งร้อยบุปผาจะใช้กลยุทธ์แบบรุ้นแรง

หยางเฟิงเตรียมที่เล่นให้สนุกๆ อยู่ที่แก๊งมังกรทองสักตั้ง

เขาไม่เชื่อว่า ถ้าตนชนะเงินทั้งหมดในกาสิโนจนหมดเกลี้ยง

เจ้าแก๊งมังกรจะยังสามารถสงบสติอารมณ์ไว้ได้อีก?

เสือขาวถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นว่า:”ท่านแม่ทัพ แล้วเราจะเล่นยังไงหรือ?”

พูดตามจริง

เสือขาวเองก็พึ่งติดตามหยางเฟิงมากาสิโนเป็นครั้งแรกเช่นกัน

ยิ่งกว่านั้นพอพนันก็พนันหลายร้อยล้านดอลลาร์

แม่งเอ๊ย นี่ถ้าแลกเป็นเงินหยวนของต้าเซี่ยมันได้ตั้งหลายพันล้านเชียว!

เฉินตงที่อยู่ข้างๆ ยืนงงเป็นไก่ตาแตกไปหมดแล้ว

หยางเฟิงนี่บ้าไปแล้วหรือไง?

ที่นำเงินหลายพันล้านไปเล่นการพนัน!

เฉินตงมีลางสังหรณ์ในใจ เกรงว่านี่จะเป็นความโชคร้ายของแก๊งมังกรเสียแล้ว

“พวกเราเล่นลูกเต๋ากันเลยดีกว่า”

หยางเฟิงคิดไปคิดมาแล้วจึงพูดขึ้น

อย่างอื่นอย่างโป๊กเกอร์ สตั๊ดโป๊กเกอร์อะไรพวกนั้นมันซับซ้อนเกินไป

เกรงว่าการเล่นลูกเต๋าจะง่ายที่สุดแล้ว

เพราะไม่ว่านอย่างไรมันเป็นเพียงการเปรียบเทียบมากน้อยอย่างเดียว โดยไม่ต้องใช้ทักษะอะไร

เมื่อพนักงานของกาสิโนเห็นว่าหยางเฟิงแลกชิปมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ จึงรีบหยิบวิทยุสื่อสารออกมา และแอบแจ้งให้กับคอนโซล

“วันนี้มีเจ้ามือใหญ่มาแล้ว!”

ที่กาสิโนใช่ว่าจะไม่เคยเห็นคนอย่างหยางเฟิง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของต้าเซี่ยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

มีเศรษฐีใหม่หลายคนมาที่เกาะดาว และกลัวว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนรวย

พอลงมือ ก็ใช้จ่ายกันอย่างฟุ่มเฟือย

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พนักงานได้เห็น คนที่แข็งกร้าวและหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างหยางเฟิง

พนักงานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างเย็นช้า

ในสายตาของเขา หยางเฟยก็เหมือนกับถังข้าวสาร ซึ่งเป็นแค่เศรษฐีใหม่คนหนึ่งเท่านั้น

เมื่อหยางเฟยและคนอื่นๆ มาถึงที่โต๊ะพนันตัวหนึ่ง โดยในมือถือถุงชิปใหญ่ ซึ่งทั่วทั้งตัวเปล่งรัศมีของเศรษฐีใหม่ออกมา

คนที่เห็นจำนวนไม่น้อยอดไม่ได้ที่จะขบขำ

ในสายตาของพวกเขา หยางเฟิงก็เหมือนคนโง่ที่มีเงินมากมาย!

เมื่อเจ้ามือเห็นหยางเฟิง ก็ถามขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า:”พนันใหญ่หรือเล็ก?”

หยางเฟิงพลางหยิบชิบหนึ่งกำออกมา และโยนไปบนโต๊ะอย่างจัง

“อัวต้องพนันใหญ่อยู่แล้ว!”

รัสมีของหยางเฟิงตอนนี้ช่างน่าถึงนัก เพราะดูแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นคนวย

” 1 2 3 6แต้ม เล็ก!”

เมื่อที่เจ้ามือเปิดไพ่ออก หยางเฟิงได้แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ถึงอย่างนั้นหยางเฟิงก็ไม่ได้สนใจ โดยเขาก็ยังพนันใหญ่อย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าเจ้ามือจะเปิดไพ่อะไรมา เขาล้วนพนันใหญ่ทั้งหมด

สิบนาทีผ่านไป

หยางเฟิงแพ้พนันไปเป็นสิบล้านเหรียญสหรัฐ

แต่บนใบหน้าของหยางเฟิงก็ไม่ได้เกิดโทสะแต่อย่างใด ใบหน้ายังคงเต็มไปรอยยิ้ม

ราวกับว่าที่เขาแพ้ไปไม่ใช่เงิน แต่เป็นเพียงเศษกระดาษเท่านั้น

นักพนันที่อยู่รอบๆ เบิกตากว้างในชั่วขณะ

พวกเขาไม่เคยเจอคนที่ใจกล้าได้กล้าเสียแบบนี้มาก่อน

เงินหลายสิบล้านดอลลาร์เสียไปอย่างง่ายดาย ยิ่งกว่านั้นไม่มีการกะพริบตาแม้แต่น้อย

หลายคนต่างคาดเดาว่า หยางเฟิงมาจากที่ไหนกันแน่?

หรือว่าจะเป็นคนรวยรุ่น 2ของตระกูลใหญ่ตระกูลใดตระกูลหนึ่งอย่างนั้นหรือ?

ต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน!

มีเพียงคนรวยรุ่น 2เท่านั้นที่ไม่มองเงินเป็นเงิน!

หยางเฟิงหันหน้ามา มองไปยังเสือขาวและถามว่า:”เสือขาว ไม่งั้นนายมาเล่นสักเกมสองเกมไหม?”

“ได้ครับ ท่านแม่ทัพ!”

สีหน้าของเสือขาวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

วิธีการเล่นของเขาเป็นเหมือนกับหยางเฟิง

ควักชิปออกมาหนึ่งกำมือ จากนั้นก็โยนไปบนโต๊ะ

เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนี้

ใบหน้าของเจ้ามือก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

สำหรับเจ้ามือแล้ว เขาต้องการลูกค้าอย่างหยางเฟิงที่สุด

กล้าได้กล้าเสียและใจกว้าง จ่ายเงินอย่างไม่เสียดาย

พูดอีกทีก็คือ คนโง่เขลาที่มีเงินมากมาย

ผ่านไปอีกสิบนาทีแล้ว

หยางเฟิงมองไปยังเสือขาวและถามว่า:”เสียไปเท่าไหร่?”