บทที่ 1446 ไม่เอามาใช้ก็ไม่เป็นไร

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

บทที่ 1446 ไม่เอามาใช้ก็ไม่เป็นไร Ink Stone_Fantasy

ออกจากวังหลังที่มีกลุ่มตำหนักทอดยาวเหยียด พอมาถึงวังหน้าแล้ว เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ที่ทำเหมือนเดินเล่นก็หยิบระฆังดาราออกมาติดต่อเซี่ยโห้วท่า เรื่องบางเรื่องถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเซี่ยโห้วท่า นางก็ไม่กล้าลงมือเองโดยพลการเช่นกัน ดังนั้นจึงออกมาจากวังหลังแล้วค่อยติดต่อ เป็นเพราะวังหลังวางค่ายกลปิดกั้นเอาไว้ ตอนอยู่ที่วังหลังไม่สามารถใช้ระฆังดาราติดต่อกับภายนอกได้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่ากลุ่มผู้หญิงว่างงานในวังหลังจะก่อเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นมา ส่วนเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก็เป็นคนที่สามารถเข้าออกวังหลังได้ตามอำเภอใจ ไม่เหมือนสนมคนอื่นที่ออกจากวังหลังโดยพลการไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากติดต่อกับเซี่ยโห้วท่าได้แล้ว เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก็ถามว่า : ท่านปู่ หลานสาวของอิ๋งจิ่วกวงถูกฝ่าบาทแต่งตั้งให้เป็น ‘สนมสวรรค์หรูอี้’ สวัสดิการต่างๆ เกือบจะสูงเทียบหลานสาวคนนี้แล้ว

เซี่ยโห้วท่า : ข้ารู้แล้ว

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ : ยังมีอีกนะ หนิวโหย่วเต๋อนั่นกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะด่าอิ๋งจิ่วกวงว่าขายผู้หญิงแลกเกียรติยศต่อหน้าฝูงชน จะให้ฝ่าบาทที่รับนางสนมทนความรู้สึกนี้ได้ยังไง เกรงว่าฝ่าบาทคงไม่ปล่อยเขาไปหรอก

เซี่ยโห้วท่า : ข้าก็รู้แล้วเหมือนกัน ทำไมล่ะ? บอกว่า ‘ขายผู้หญิงแลกเกียรติยศ’ มันยั่วโมโหเจ้าเหรอ?

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ : หลานไม่เป็นไรหรอก เพียงแต่จ้านหรูอี้นั่นที่เข้าวังมาคงจะไม่ได้มาดี เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่ข้า ท่านปู่มีแผนรับมืออะไรหรือเปล่าคะ?

เซี่ยโห้วท่า : อีกฝ่ายเพิ่งจะเข้าวัง ถ้าเจ้ารีบร้อนลงมือ จะเป็นการไม่ไว้หน้าฝ่าบาทหรือเปล่า ในภายหลังค่อยว่ากัน ไม่ต้องรีบทำตอนนี้

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ : เมื่อครู่นี้หลานเพิ่งคิดออกถึงวิธีการดีๆ ที่จะรับมือกับจ้านหรูอี้นั่น

เซี่ยโห้วท่า : พูดให้ฟังหน่อย

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ : คาดว่าท่านปู่คงเคยได้ยินเรื่องที่จ้านหรูอี้โดนหนิวโหย่วเต๋อจับแขวนไว้บนธงให้ได้รับความอับอาย เรื่องนี้รู้กันทั้งใต้หล้า คนที่ชื่อเสียงเกียรติยศเสียหายรุนแรงขนาดนี้จะมาเป็นสนมสวรรค์ได้ยังไง? หลานเตรียมจะลงมือจากจุดนี้ ท่านปู่คิดว่ายังไงคะ?

เซี่ยโห้วท่า : จากนั้นก็สามารถเพิ่มโทษให้หนิวโหย่วเต๋อได้ด้วยใช่มั้ย? นางหนู อย่าลืมสิ่งที่ปู่เตือนก่อนหน้านี้ พยายามปกป้องหนิวโหย่วเต๋อเอาไว้

เมื่อโดนท่านปู่พูดเปิดโปงความคิดของคน เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก็อับอายนิดหน่อย แบบนี้เท่ากับไม่เห็นด้วยที่จะให้ตนทำแบบนี้แล้ว จึงถามอย่างไม่พอใจนิดหน่อยว่า : อย่าบอกนะว่าจะให้ปล่อยจ้านหรูอี้ไปแบบนี้?

เซี่ยโห้วท่า : นางหนู เจ้าต้องเข้าใจเรื่องเรื่องหนึ่งเอาไว้นะ การที่จ้านหรูอี้เขาวังนั้นเป็นประสงค์ของฝ่าบาท ไม่อย่างนั้นนางคงเข้ามาไม่ได้ ในเมื่อฝ่าบาทตัดสินใจแล้วว่าจะให้บทเรียนตระกูลเซี่ยโห้ว ต่อให้ตอนนี้เจ้าถอดจ้านหรูอี้ลงตำแหน่งได้ แต่ตอนหลังก็จะมีจ้านหรูอี้คนที่สอง คนที่สามเข้าวังอีกอยู่ดี หลานสาวของตระกูลสี่อ๋องสวรรค์มีไม่น้อยเลย และตอนนี้จ้านหรูอี้ก็เพิ่งจะเข้าวัง ฝ่าบาทจะเข้าข้างนาง ขอเพียงจ้านหรูอี้ไม่ได้ประพฤติผิดคุณธรรมของสตรี ไม่ได้ทำความผิดร้ายแรง เรื่องเล็กน้อยก็ไม่สามารถทำให้จ้านหรูอี้ลงจากตำแหน่งได้หรอก เจ้าทำแบบนี้มีแต่จะทำให้เจ้าลำบากเอง เรื่องบางเรื่องในเมื่อไม่มีทางแก้ไขได้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องรีบลงมือ ต้องเรียนรู้ที่จะอดกลั้นไว้ในใจ สังเกตการณ์คู่ต่อสู้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ดูก่อนว่าจ้านหรูอี้คนนี้รับมือด้วยง่ายหรือเปล่า ถ้ารับมือง่ายก็เก็บนางไว้ ไม่จำเป็นต้องทำให้วุ่นวายจนฝ่าบาทหาคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจมาเปลี่ยนให้เพื่อสั่งสอนเจ้า เข้าใจมั้ย?

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ค่อนข้างไม่ยอม แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง : หลานเข้าใจแล้วค่ะ

เซี่ยโห้วท่า : อย่าปล่อยให้ประโยคที่ไม่รื่นหูประโยคเดียวมาทำให้เจ้ารู้สึกว่าหนิวโหย่วเต๋อเป็นศัตรู ปู่จะเตือนเจ้าอีกครั้ง ถ้าอยู่ในขอบเขตความสามารถของเจ้า ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องผลกระทบต่อเจ้า พยายามปกป้องหนิวโหย่วเต๋อเอาไว้อย่างสุดความสามารถ!

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ : ทราบแล้วค่ะ

สวนกลางเขียวขจี ท่ามกลางทะเลสีเขียวขจี บนถนนสายเล็กๆ ใต้ต้นไม้โบราณสูงระฟ้า เฟยหงก้มหน้าเงียบๆ ตามหลังแม่เฒ่าลวี่ที่กำลังเดินถือไม้เท้า

“นางหนูเอ๊ย! เจ้าเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองเป็นยังไง ที่จริงแล้วเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันเลย ยายแก่คนนี้แค่ถูกหน่วยตรวจการฝ่ายซ้ายดึงเข้าไปประกอบฉากชั่วคราว และแน่นอน ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้ข้านิ่งดูดายไม่ช่วยเหลือ เมื่ออยู่ได้กันหลายครั้งยายแก่คนนี้ก็ชอบเจ้ามาก ข้าเห็นว่าเด็กสาวอย่างเจ้าน่าสงสารมาก อยากจะช่วยเจ้าเหมือนกัน แต่ข้าก็ไม่มีความสามารถน่ะสิ! สิ่งที่เจ้าเวรนั่นทำมันใช่เรื่องเสียที่ไหน? อะไรคือขายผู้หญิงแลกเกียรติยศ? มีแค่เขาคนเดียวที่ดูออกรึไง คนอื่นโง่กันหมดเลยเหรอ? แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย แต่ที่สำคัญคือต้องดูกาลเทศะด้วย นั่นเป็นงานรับสนมของราชันสวรรค์เชียวนะ มันใช่เรื่องเหรอที่เขาจะมาทำแบบนั้น? ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อย ยายแก่คนนี้ก็ยังหน้าด้านไปวางมาดข่มได้ แต่ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้เจ้าจะให้ข้าออกหน้าได้ยังไง? ข้าไม่ได้หน้าใหญ่ขนาดนั้นเลยจริงๆ ไปแล้วก็เปล่าประโยชน์ ถ้าข้าหน้าใหญ่ขนาดนั้นจริง ยังจะต้องมาเฝ้าสวนอยู่ที่นี่อีกเหรอ?” แม่เฒ่าลวี่ส่ายหน้าถอนหายใจ

เฟยหงกล่าวอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านแม่บุญธรรม ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเขาข้าก็ไม่มีทางปฏิบัติภารกิจต่อได้แล้ว”

“นางหนู เจ้าต้อเข้าใจเรื่องหนึ่งให้ชัดเจนนะ ถ้าจะทำเพื่อภารกิจ เช่นนั่นเจ้าก็มาหาผิดคนแล้ว เจ้าควรจะไปหาผู้บังคับบัญชาของเจ้าโน่น ให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าแก้ปัญหา” แม่เฒ่าลวี่กล่าว

เฟยหงกล่าวอย่างจนใจว่า “ถ้าเขาทำให้ฝ่าบาทโมโห ถ้าฝ่าบาทจะลงโทษเขา เช่นนั้นเขาก็ไม่มีความหมายใดๆ ต่อหน่วยตรวจการฝ่ายซ้ายแล้ว หน่วยตรวจการซ้ายจะไม่สิ้นเปลืองความคิดอะไรกับเขาอีก ไม่มีทางออกหน้าช่วยเขา”

แม่เฒ่าลวี่ส่ายหน้า “เช่นนั้นก็ปล่อยเขาไปเถอะ ยายแก่คนนี้ไร้ความสามารถจริงๆ”

เฟยหงทำสีหน้าหดหู่ทันที ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือสับสนในใจ นางมอบร่างกายให้เหมียวอี้ไปแล้ว ถ้าเหมียวอี้ตาย นางก็จะไม่มีทางไป สำหรับหน่วยตรวจการฝ่ายซ้าย ประโยชน์ของนางก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากความสวย จะส่งนางไปให้เป้าหมายต่อไปเชียวเหรอ?

แม่เฒ่าลวี่พลันหยุดฝีเท้าและครุ่นคิดเงียบๆ ทันที ก่อนจะค้ำไม้เท้าหันตัวมาอย่างช้าๆ แล้วกล่าวอย่างเนิบนาบว่า “ถึงยังไงเจ้าก็เรียกยายแก่คนนี้ว่าท่านแม่บุญธรรมมานาน ถ้าเกิดเรื่องกับเจ้าหนุ่มนั่นจริงๆ ข้าจะไปหาซือหม่าเวิ่นเทียนก็แล้วกัน เขาติดหนี้น้ำใจข้าหนึ่งครั้งเพราะเรื่องของพวกเจ้า ข้าจะดูว่าจะสามารถย้ายเจ้ามาเป็นลูกน้องข้าที่สวนกลางเขียวขจีได้รึเปล่า”

“น้ำใจของท่านแม่บุญธรรมข้าซาบซึ้งแล้ว กลัวก็แต่ทูตซ้ายจะไม่ให้คนที่มีพื้นเพชาติกำเนิดอย่างข้ามาอยู่ที่อุทยานหลวง”

“เจ้ามีพื้นเพแบบนี้แล้วจะทำไม? ที่เจ้าต้องไปอยู่ในสถานบันเทิงแบบนั้นก็เป็นเพราะพวกเขาจัดให้ไม่ใช่เหรอ?”

เฟยหงส่ายหน้าอย่างขื่นขม “ท่านแม่บุญธรรม ไม่ต้องถามแล้ว ข้าพูดไม่ได้ ถ้าพูดแล้วก็ตายสถานเดียว ทั้งยังจะทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย”

“ทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย…” แม่เฒ่าลวี่ตาเป็นประกาย พอจะเข้าใจแล้วว่าคำว่าพื้นเพชาติกำเนิดที่นางพูดถึงหมายถึงอะไร จึงแสยะยิ้มแล้วบอกว่า “ได้ยินมานานแล้วว่าหน่วยตรวจการฝ่ายซ้ายทำงานโดยไม่สนใจวิธีการ นับว่าข้าได้บทเรียนแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ลงจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะบังคับให้เด็กสาวที่สวยขนาดนี้ต้องทำเรื่องแบบนี้ ก่อกรรมทำเข็ญชัดๆ! ไม่แปลกใจที่ยายแก่อย่างข้าทำได้แค่หลบอยู่ในสวนแบบนี้ เพราะทำเรื่องโหดเหี้ยมทารุณแบบพวกเขาไม่ได้ไงล่ะ ช่างเถอะ มันไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะไปถามได้ ข้าบอกได้เพียงว่าจะพยายามลองให้เต็มทีก็แล้วกัน ถ้าย้ายเจ้ามาได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ เจ้าก็อย่าโทษข้านะ”

“ขอบคุณในความหวังดีของท่านแม่บุญธรรมค่ะ”

เงาคนสองคนเหาะลงมาจากท้องฟ้า เหยียบลงนอกเรือนพักของอ๋องสวรรค์โค่ว ผู้ที่มาไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นโค่วหลิงซวีกับผู้เฒ่าถังที่เป็นบ่าวรับใช้นั่นเอง

ทหารยามที่ได้รับข่าวล่วงหน้ารีบเข้ามาคารวะ “ยินดีต้อนรับอ๋องสวรรค์”

โค่วหลิงซวีขานรับ แล้วหันกลับไปเหล่ตามองเรือนพักตรงข้ามที่ประดับประดาโคมไฟและผ้าหลากสี จากนั้นหัวเราะหึหึแล้วบอกว่า “ตระกูลอิ๋งนี่ตกแต่งได้เหมือนจริงๆ มีสนมสวรรค์คนแรกตั้งแต่ก่อตั้งตำหนักสวรรค์ขึ้นมา ถ้าไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็คงจะเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ตอนนี้กลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะไปแล้ว อิ๋งจิ่วกวงคงจะควบคุมอารมณ์ตัวเองและทำใจกว้างเพียงฉากหน้า ในใจคงอยากจะฉีกหนิวโหย่วเต๋อทั้งเป็นๆ ด้วยมือตัวเองแล้ว เหอะๆ…” พูดจบก็หันตัวเอามือไขว้หลังเดินเข้าลานบ้านไป

ประมุขชิงก็จนใจพอสมควร ไม่ใช่เพราะเหมียวอี้ ตอนนี้เขายังไม่รู้เรื่องที่เหมียวอี้ก่อขึ้น ตรงนี้เพิ่งจะจัดการงานเสร็จและเดินออกจากตำหนักดาราจักร ขณะกำลังจะไปเอาใจคนใหม่ที่วังหลัง แต่กลับโดนเกาก้วนมาขวางประตูไว้

เขาไม่เชื่อว่าเกาก้วนจะไม่รู้ว่าที่นี่มีสนมใหม่เข้ามา ดึงดันจะมารายงานเขาในเวลานี้ให้ได้

แต่เขาเองก็รู้ว่าแต่ไหนแต่ไรมาเกาก้วนเป็นคนที่มีงานก็พูดถึงงาน ไม่ถ่อมาคุยเล่นกับเขาแน่นอน และเรื่องจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เรื่องที่เกาก้วนมารายงานเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตลาดผีครั้งก่อน ในบรรดาคนที่คิดกับดัก นอกจากส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายในของตำหนักสวรรค์ ยังเกี่ยวข้องกับอำนาจฝ่ายอื่นๆ ด้วย สถานการณ์การสืบสวนของหน่วยตรวจการฝ่ายขวาไม่สู้ดีเท่าไรนัก เพราะลงมือที่ตลาดผีอย่างครึกโครมเกินไป ข่าวแพร่ออกไปตั้งนานแล้ว อำนาจที่เกี่ยวข้องไม่มีทางนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ พอได้ยินข่าวก็หนีไปแล้ว

ประสิทธิภาพในการจับชัดเจนมาก ประมุขชิงสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไร ความคิดที่จะไปหาสนมใหม่ที่วังหลังถูกเบี่ยงเบนไปแล้ว “ขั้นต่อไปเจ้าเตรียมจะทำยังไง?”

เกาก้วนตอบว่า “การจับกุมอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ถ้าอาศัยแค่หน่วยตรวจการฝ่ายขวาก็มีคนไม่พอใช้ ต้องให้กำลังพลจากที่อื่นให้ความร่วมมือด้วย ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นผู้ควบคุมแต่ละพื้นที่ ฝ่าบาทได้โปรดบอกเรื่องนี้ให้ขุนนางใหญ่ในราชสำนักทุกท่านทราบด้วยขอรับ”

ประมุขชิงพยักหน้าเบาๆ ขณะกำลังครุ่นคิด ผู้การใหญ่ซ่างก่วนชิงกลับเข้ามาหาในเวลานี้

“เรื่องนี้รอปรึกษากับพวกขุนนางใหญ่ให้เสร็จแล้วค่อยว่ากัน” ประมุขชิงหันกลับมาบอกเกาก้วน พอหาซ่างก่วนชิงมาแล้ว บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มอย่างควบคุมไม่ได้

ในหัวปรากฏเงาร่างอันองอาจห้าวหาญของจ้านหรูอี้ เขารู้สึกดีกับจ้านหรูอี้เป็นพิเศษ เป็นเรื่องแปลกมาก จ้านหรูอี้ไม่ได้สวยเลิศล้ำ แต่เขากลับรู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เดิมทีเขาคิดว่าจะแต่งตั้งจ้านหรูอี้เป็น ‘สนมสวรรค์หรูอี้’ ก่อนเฉยๆ ส่วนเรื่องอื่นก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไม่สะดวกจะทำให้ครบในขั้นเดียว เพราะแบบนั้นจะชัดเจนเกินไป อยากจะดูความสามารถของจ้านหรูอี้ในการงัดข้อกับเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน แต่หลังจากได้เห็นจ้านหรูอี้ตัวจริงที่สวนท้อ เขาก็เปลี่ยนความคิดทันที ทั้งยังประทานเกี้ยวหงส์เดี่ยวให้ มอบพู่หยกประจำตัวให้ มีเจตนาจะเอาใจจ้านหรูอี้ เพราเขาเข้าใจดี ว่าไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะชอบเข้าวังมาเป็นสนม และจากนิสัยของจ้านหรูอี้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นแบบนั้น แต่เขาชอบนางแล้วจริงๆ

ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาคงไม่เอาแต่คิดว่าจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วไปพบหน้าสักครั้ง

หลังจากซ่างก่วนชิงทำความเคารพแล้ว ประมุขชิงก็ถามว่า “ท่านสนมสวรรค์ราบรื่นดีมั้ย?”

ซ่างก่วนชิงตอบว่า “จัดที่พักที่วังหลังให้เรียบร้อยแล้วขอรับ เพียงแต่เมื่อครู่นี้เพิ่งได้รับข่าวมา ว่าตอนที่เพิ่งรับตัวสนมสวรรค์มา ทางอ๋องสวรรค์อิ๋งก็เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย”

ประมุขชิงขมวดคิ้ว “เกิดเรื่องอะไร?”

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแม่ทัพภาคหนิวโหย่วเต๋อของอุทยานหลวงขอรับ…” ซ่างก่วนชิงยิ้มเจื่อนพลางเล่าเรื่องที่เหมียวอี้ก่อให้ฟังรอบหนึ่ง

เกาก้วนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม แต่ประมุขชิงกลับสีหน้าบึ้งตึงแล้ว “ขายผู้หญิงแลกเกียรติยศ! เขากล้ามากนะ! ขนาดวันมงคลของข้า เขายังกล้าก่อกวนอีก ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาเลยเหรอ? ก่อเรื่องทีตลาดสวรรค์ก็พอแล้ว ขนาดอยู่ที่นี่ยังกล้าไม่หวาดกลัวสิ่งใด เห็นสวนของข้าเป็นอะไรไปแล้ว? ไม่แปลกใจที่ราชินีสวรรค์เห็นเขาแล้วสั่งสอนทันที สิ่งที่ไร้ประโยชน์เหมือนโคลนเหลวที่ใช้ก่อกำแพงไม่ได้ ไม่เอามาใช้ก็ไม่เป็นไร! เกาก้วน เจ้าไปด้วยตัวเองสักรอบ ถามให้ชัดเจนว่าเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ถลกหนังเขาออกมาทั้งเป็นๆ แล้วแขวนหน้าประตูจวนอุทยานหลวงแม่ทัพภาคเพื่อไม่ให้คนเอาเยี่ยงอย่าง!”

…………………………