ตอนที่ 1,997 : เซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยน…เปลี่ยนพลังเซียนต้นกำเนิด!
ไม่นานหลังจากที่อาวุโสเพลิงทองแดงประกาศปิดรับเดิมพัน มันก็เริ่มคำนวน ‘อัตรา’ ต่อรองสุดท้าย ของการประลองเป็นตายระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหยางเหวิน…และในที่สุดอัตราต่อรองของวิหารเป็นตายวันนี้ก็คลอดออกมา!
“อัตตราต่อรองของหยางเหวินเป็น 7 : 1”
“อัตตราต่อรองของต้วนหลิงเทียนเป็น 1 : 7”
อาวุโสเพลิงทองแดงของวิหารเป็นตายก็ประกาศออกมาเสียงดังกึกก้อง! เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวิหารเป็นตาย หากไม่ใช่คนหูหนวกแต่กำเนิดเกรงว่าคงไม่มีใครไม่ได้ยิน!!
กล่าวได้ว่า…
สุดท้ายแล้วหากคนที่รอดชีวิตในวันนี้คือหยางเหวิน…ทุกๆ 7 คะแนนสะสมที่ลงเดิมพันข้างมัน จะทำให้ได้รับคะแนนสะสม 1 คะแนน!
กลับกันผู้ใดก็ตามที่แทงข้างต้วนหลิงเทียน และผลลัพธ์ของการประลองเป็นตายออกมาว่าต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายรอดล่ะก็…ทุกๆ 1 คะแนนสะสมที่ลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียน ท่านจะได้คะแนนสะสมถึง 7 คะแนน!
“ทั้งๆที่ฝ่ายต้วนหลิงเทียนมีคนลงเดิมพันกว่า 300,000 คะแนนสะสม แต่อัตราเดิมพันยังมากถึงเพียงนี้! นั่นหมายความว่าคะแนนสะสมที่ลงข้างศิษย์พี่หยางเหวินเกินกว่า 2,100,000 คะแนนอีกงั้นสิ!”
หลังได้รับทราบอัตราเดิมพันจากปากของอาวุโสเพลิงทอง ศิษย์ชั้นยอดอดไม่ได้ที่จะอื้ออึงอยู่บ้าง!
“นี่จักไม่มากไปหน่อยหรือ?”
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะตีค่าศิษย์พี่หยางเหวินไว้สูงนัก…ตอนนี้ข้ารู้สึกเสียใจไม่น้อย ที่ลงเดิมพันข้างศิษย์พี่หยางเหวินไปแค่ 2,000 คะแนน”
“ข้าว่าอาวุโสเพลิงทองแดงของวิหารเป็นตาย สมควรแทงข้างศิษย์พี่หยางเหวินไม่น้อย”
“นั่นย่อมแน่นอนอยู่แล้ว! หาไม่แล้วคะแนนสะสมฝั่งศิษย์พี่หยางเหวินจะสูงกว่า 2,100,000 ได้อย่างไร!”
……
แม้ปากจะพร่ำบ่น แต่อย่างไรก็ตาม อัตราเดิมพันของหยางเหวิน ก็เป็นอะไรที่เหล่าศิษย์ชั้นยอดพึงพอใจ
“ต้วนหลิงเทียนเจ้าคิดใช้เกาทัณฑ์คันนี้ในการประลองเป็นตายกับหยางเหวินหรือไม่? หากเจ้าคิดใช้มันข้าก็ยินดีให้เจ้าหยิบยืมใช้ชั่วคราว หากเจ้าชนะก็รับมันกลับไปเลย…แต่หากเจ้าแพ้ข้าก็แค่ไปเก็บมันกลับมาจากศพเจ้าเท่านั้น”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกลับขึ้นสังเวียนเป็นตาย เนี่ยสุ้ยก็กล่าวถามออกมาหลังเหินร่างขึ้นไปประจำแท่นผู้คุมสังเวียนที่ตั้งอยู่ข้างๆสังเวียนเป็นตาย
ได้ยินคำถามนี้ของเนี่ยสุ้ย เหล่าศิษย์ชั้นยอดก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนบนสังเวียนเป็นสายตาเดียวกัน
“สมแล้วที่เป็นถึงอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของลัทธิบูชาไฟเรา! ท่านผู้อาวุโสเนี่ยสุ้ยช่างใจกว้างนัก! น่าชื่นชมยิ่ง!!”
“ถูกแล้ว แม้เดิมทีเกาทัณฑ์คันนี้จักเป็นของต้วนหลิงเทียน ทว่าในเมื่อต้วนหลิงเทียนนำไปจำนำ เช่นนั้นก่อนจะไถ่ถอนคืนกลับ มันก็ถือเป็นสมบัติของอาวุโสเนี่ยสุ้ย! ต่อให้ต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายออกปากขอยืม ถึงท่านจะปฏิเสธก็ไม่ถือว่าผิดอันใด…ทว่ากลับเป็นท่านที่เป็นฝ่ายเสนอให้มันหยิบยืมเสียเอง!!”
“เกาทัณฑ์นั่นเป็นศาสตราเซียนที่มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บเหลือทิ้งไว้…หากต้วนหลิงเทียนใช้มันในการประลองกับศิษย์พี่หยางเหวิน ไม่แน่ว่าอาจจะรับมือศิษย์พี่หยางเหวินได้นานหน่อยก่อนที่จะถูกศิษย์พี่หยางเหวินฆ่าทิ้ง!”
…
เหล่าศิษย์ชั้นยอดยังคงกระซิบกระซาบกันระงม ฟังจากความที่พวกมันกล่าวแล้ว เห็นได้ชัดว่าแม้ต้วนหลิงเทียนจะใช้เกาทัณฑ์ดับตะวัน สุดท้ายก็ยังไม่ใช่คู่มือหยางเหวิน
แน่นอนว่ายังมีศิษย์ชั้นยอดมากมายที่ใจเต้นระส่ำไปไม่เป็นจังหวะ…ล้วนเป็นคนที่แทงเดิมพันข้างหยางเหวินไปหมดตัวทั้งสิ้น!
ตอนนี้ใจพวกมันไม่อาจไม่กังวล…
หากปล่อยให้ต้วนหลิงเทียนยืมใช้เกาทัณฑ์ที่มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บเหลือทิ้งไว้เป็นมรดกนั่น…มิใช่ว่าจะทำให้ต้วนหลิงเทียนร้ายกาจขึ้นหรอกหรือ?
หากเป็นแบบนั้นจริงๆ ใช่ศิษย์พี่หยางเหวินจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เหล่าผู้ที่ทุ่มแทงข้างหยางเหวินหมดตัวก็อดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนออกมาทันที “เฮ่ย ต้วนหลิงเทียน! ในเมื่อเจ้าเอาเกาทัณฑ์อันเป็นมรดกของมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บนั่นไปจำนำแล้วเจ้าก็มิอาจเอามันมาใช้ได้! นี่เป็นเจ้าเลือกจะจำนำกับผู้อื่นเองมิมีผู้ใดบังคับเจ้า!!”
“ถูกแล้ว! ของที่จำนำไปแล้วก็เหมือนเป็นของผู้อื่น! หากเจ้าแน่จริงก็อย่าได้หยิบยืมของผู้อื่นมาใช้สู้!!”
“ต้วนหลิงเทียน อย่าได้ทำให้พวกเราต้องดูแคลนเจ้าเสียเล่า!…”
….
เรียกว่าเมื่อมีคนเปิด เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่ลงเดิมพันข้างหยางเหวินไปเต็มพิกัดก็เร่งกล่าววาจาสนับสนุนตามทันที
อย่างไรก็ตามไมนานพวกมันก็พบว่า…
พวกมันแม้จะกล่าวจนน้ำลายแตกฟอง ทว่าต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่บนสังเวียนคล้ายจะไม่ได้สนใจอะไรพวกมันแม้แต่น้อย พาลให้พวกมันมีโมโหจนเลือดขึ้นหน้า! ยังแทบจะกระอักออกมาเพราะจุกอก!!
ส่วนด้านหยางเหวินเองก็นิ่งเฉยไม่ได้แยแสอะไรกับวาจาของเหล่าศิษย์ชั้นยอดพวกนี้แม้แต่น้อยเช่นกัน กระทั่งตอนที่อาวุโสเนี่ยสุ่ยยื่นข้อเสนอให้ต้วนหลิงเทียนหยิบยืมเกาทัณฑ์ไปใช้ ตามันก็ไม่แม้แต่จะกระพริบ!
เพราะนอกจากตัวต้วนหลิงเทียนเองแล้ว…กล่าวได้ว่าในที่นี้มันสมควรรู้เรื่องของต้วนหลิงเทียนมากกว่าใคร!!
ทำให้มันรู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนนับเป็นมือกระบี่คนหนึ่ง หาใช่มือเกาทัณฑ์ไม่!
ถึงแม้ความสามารถด้านเกาทัณฑ์ของต้วนหลิงเทียนอาจจะดี แต่หากฝีมือเกาทัณฑ์ดีที่สุดจริงไฉนยามประลองกับศิษย์ยอดฝีมืออย่างหงชวีที่แท่นบูชาเต่าทมิฬ ถึงได้เลือกใช้กระบี่?
นอกจากนั้นมันยังรู้อีกด้วยว่าเวทย์พลังสายโจมตีขั้นสูงของต้วนหลิงเทียนนั้น เป็นเวทย์พลังสายจู่โจมประเภทกระบี่!
เช่นนั้นมันแทบจะมั่นใจได้เต็ม 10 ส่วน!
ถึงแม้เกาทัณฑ์นั่นของต้วนหลิงเทียนจะเป็นยอดศาสตราที่มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บเหลือทิ้งไว้เป็นมรดก แต่ก็ไม่ควรช่วยเหลืออะไรต้วนหลิงเทียนได้มากนัก เพราะต้วนหลิงเทียนสมควรไม่เชี่ยวชาญเกาทัณฑ์!
และเรื่องราวก็เป็นอย่างที่หยางเหวินคาดไว้ไม่มีผิด
“อาวุโสเนี่ยสุ้ย น้ำใจนี้ของท่านข้าต้วนหลิงเทียนซาบซึ้งยิ่ง…แต่ความสามารถด้านเกาทัณฑ์ของข้าไม่ค่อยจะดีนัก”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวปฏิเสธความหวังดีของเนี่ยสุ้ยออกมาอย่างสุภาพ อันที่จริงเขาตระหนักได้แต่แรกแล้วว่าเกาทัณฑ์ไม่ใช่ฝีมือหลักของอาวุโสเนี่ยสุ้ยเช่นกัน เพราะก่อนหน้าตั้งแต่ที่เห็นท่วงท่าการจับธนูของเนี่ยสุ้ย ก็ไม่คล้ายยอดฝีมือด้านเกาทัณฑ์แม้แต่น้อย
แต่ถึงแม้เนี่ยสุ้ยจะไม่ใช่มือเกาทัณฑ์อย่างที่ต้วนหลิงเทียนมองออก ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ถูกเกาทัณฑ์ดับตะวันล่อลวง!
ยิ่งเพราะเนี่ยสุ้ยไม่ใช่มือเกาทัณฑ์พร้อมด้วยความที่มันเป็นถึงอาวุโสเพลิงเงินของลัทธิบูชาไฟ มันย่อมยึดถือหน้าตา ไหนเลยจะเผยความโลภต่อเกาทัณฑ์ของศิษย์คนหนึ่งออกมาได้ต่อหน้าผู้คนมากมาย!
ด้วยเหตุผลนี้ต้วนหลิงเทียนจึงมั่นใจฝากเกาทัณฑ์ดับตะวันไว้ในมือของเนี่ยสุ้ย และไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะบังเกิดจิตคิดแย่งชิงอะไร
หากอีกฝ่ายไม่ใช่เนี่ยสุ้ยแต่เป็นอาวุโสคนอื่นที่ไม่มีชื่อเสียง เขาอาจไม่กล้าทำแบบนี้
“มิน่าแปลกใจเลยว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงได้เอาเกาทัณฑ์ที่เป็นถึงมรดกตกทอดของมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บออกมาจำนำ…ที่แท้มันไม่ได้เชี่ยวชาญการใช้เกาทัณฑ์!”
ขณะเดียวกัน ด้านศิษย์ชั้นยอดก็ตระหนักเรื่องราวได้ทันที
ยังทำให้เหล่าศิษย์ชั้นยอดมากมายที่ได้ทุ่มแทงเดิมพันข้างหยางเหวิน อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก!
อย่างไรก็ตาม แต่เดิมพวกมันล้วนเห็นเกาทัณฑ์ดับตะวันเป็นเกาทัณฑ์ร้ายๆบ้าง เส็งเคร็งบ้าง บุโรทั่งบ้าง! ทว่าตอนนี้พวกมันล้วนแล้วแต่เห็นเกาทัณฑ์ดับตะวันเป็นสิ่งล้ำค่า! ถึงขั้นหวาดกลัวไม่อยากให้ต้วนหลิงเทียนใช้งาน! การเปลี่ยนแปลงของพวกมันให้กล่าวจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ไม่เกินเลย!
และทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากทีท่าให้ความยอมรับต่อเกาทัณฑ์ดับตะวันของอาวุโสเนี่ยสุ้ยทั้งสิ้น
แน่นอนว่านอกจากต้วนหลิงเทียนแล้ว ในที่นี้ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าเกาทัณฑ์ในมือของอาวุโสเนี่ยสุ้ยตอนนี้ ที่แท้เป็นถึงเกาทัณฑ์ดับตะวัน อดีตยอดศาสตราสวรรค์ขั้นสูงสุดที่ทรงอิทธิฤทธิ์ร้ายกาจเลิศภพจบแดน!!
แต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนไม่คิดกล่าวอิบายใดๆทั้งสิ้น
เหตุผลที่เขาไม่คิดกล่าวแนะนำออกมากระทั่งชื่อเกาทัณฑ์ก็ไม่บอก นอกจากเขาจะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญและไม่มีความจำเป็นแล้ว เขายังคิดว่าอีกไม่นานอย่างไรเกาทัณฑ์คันนี้ก็ต้องกลับมาเป็นของเขาอยู่ดี เพียงฝากให้เนี่ยสุ้ยถือไว้ชั่วคราวเท่านั้น!!
บนสังเวียนเป็นตาย ต้วนหลิงเทียนกับหยางเหวินตอนนี้ก็มาหยุดยืนเผชิญหน้ากันกลางสังเวียนอีกครั้ง
ต้วนหลิงเทียนเป็นศิษย์ชั้นยอดคนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลัทธิบูชาไฟ และด้วยความที่พึ่งมาอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่นาน เช่นนั้นจะเรียกว่าศิษย์ใหม่ก็ไม่แปลก…
ส่วนหยางเหวินนั้นเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงของดินแดนศักดิสิทธิ์ลัทธิบูชาไฟ ถือได้ว่าเป็นมือเก๋าอันเจนจัดคนหนึ่ง!
ทว่าสองคนที่นับว่ามีฐานะต่างกันสุดโก่ง กลับต้องมาเผชิญหน้ากันบนสังเวียนเป็นตาย เพื่อเข่นฆ่าหาผู้อยู่รอดเป็นคนสุดท้ายที่นี่วันนี้!
“เริ่มได้!”
สิ้นเสียงให้สัญญาณเริ่มการประลองของเนี่ยสุ้ย บรรยากาศในวิหารเป็นตายเรียกว่าถูกจุดชนวนให้ระอุขึ้นมาโดยพลัน ความสนใจของทุกชีวิตใต้ชายคาวิหาร ล้วนทุ่มไปยังร่างสองร่างบนสังเวียนเป็นตายหมดสิ้น!
“ในที่สุดก็เริ่มเสียที!”
เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่เฝ้ารอมานานเผยความตื่นเต้นไม่น้อย รอชมเรื่องราวด้วยใจวาดหวัง!
“ศิษย์พี่หยางเหวินลุย! ฆ่าต้วนหลิงเทียนเสียให้สิ้น!!”
“ศิษย์พี่หยางเหวินฆ่ามัน! ข้าแทงข้างท่านหมดตัวถึง 5,000 คะแนน! ถ้าท่านแพ้ข้าจะไปเผาบ้านท่าน!!”
“ฆ่ามัน! ศิษย์พี่หยางเหวินฆ่ามัน!!”
………………
เหล่าศิษย์ชั้นยอดบนอัฒจรรย์ที่ทุ่มแทงคะแนนสะสมไปหมดตัว ล้วนถูกสภาวะและบรรยากาศที่ร้อนระอุของสังเวียนเป็นตายครอบงำหมดสิ้น! ทั้งหมดเลือดลมพุ่งพล่าน ลุกขึ้นยืนกู่ร้องออกมาเสียงดังลั่น!!
เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่เลือกจะทุ่มความหวังว่าจะร่ำรวยทั้งหมดไปกับการเดิมพันข้างหยางเหวินตอนนี้…เรียกว่าคึกคักไม่ต่างอะไรจากถูกฉีดเลือดไก่!!
เพราะเมื่อหยางเหวินฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ นั่นหมายถึงคะแนนสะสมจำนวนมากที่จะเข้ากระเป๋าพวกมัน! ด้วยเหตุผลนี้ทำให้พวกมันมีอารมณ์ร่วมกับการประลองเกินร้อย!!
“ศิษย์น้องหลิงเทียน…”
ซุนเต๋อที่นั่งอยู่ในมุมหนึ่งของอัฒจรรย์ในวิหารเป็นตายได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยังแทบไม่อาจทนดูเรื่องราวบนสังเวียนได้ไหว
เพราะในสายตาของมัน ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คู่มือของศิษย์ที่แท้จริงอย่างหยางเหวินแม้แต่น้อย
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนสู้เขา! ท่านชนะแน่!!”
กลับกันกวนซิ่วที่นั่งอยู่บนอัฒจรรย์ถึงกับลุกขึ้นชูมือชูไม้ กู่ร้องให้กำลังใจต้วนหลิงเทียนสุดใจขาดดิ้น!!
อนิจจาแม้เสียงร้องให้กำลังใจของมันจะดังไม่น้อย แต่ไหนเลยจะดังสู้เหล่าศิษย์ที่ร้องตะโกนให้กำลังใจหยางเหวินได้ แทบไม่ต่างหนึ่งหยาดฝนหล่นลงธาราเชี่ยว ไม่อาจสร้างผลกระทบใดๆได้ทั้งสิ้น
“น้องมู่ ข้าไม่เห็นว่าจะมีใครดูดีเจ้าต้วนหลิงเทียนคนนี้เลย…แต่ไฉนเจ้าถึงตีค่ามันไว้สูงนักเล่า ถึงกับให้ข้าวางเดิมพันข้างมันสูงขนาดนี้?”
บนอัฒจรรย์ที่นั่งชั้นดี มีคนหนึ่งอดไม่ไหวพลันกล่าวถามคนที่นั่งข้างๆออกมา
และผู้ที่กล่าวถามออกมานี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นศิษย์ที่แท้จริงหลิวอวิ๋น ผู้ที่ติดอันดับที่ 27 ในทำเนียบยอดฝีมือของเหล่าศิษย์ที่แท้จริงลัทธิบูชาไฟ!
สำหรับคนที่มันกล่าวถามนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหลิวมู่ลูกพี่ลูกน้องของมัน ที่พึ่งออกจากแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวและเข้าเป็นศิษย์ชั้นยอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่นาน!
“ข้าเชื่อในตัวมัน!”
หลิวมู่ตอบคำถามของหลิวอวิ๋นด้วยวาจาเรียบงายเพียงเท่านี้ และคำตอบของหลิวมู่ก็อดทำให้หลิวอวิ๋นหน้าเบี้ยวไปไม่ได้!
กระทั่งตอนนี้ในใจของหลิวอวิ๋นยังอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความรู้สึกเสียใจขึ้นมา ที่ดันไปบ้าจี้ตามหลิวมู่ ทะลึ่งลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียนไปถึง 100,000 คะแนนสะสม! ในใจรู้สึกคล้ายคะแนนสะสมทั้งแสนมีปีกงอกเงย เหินลับหายไปต่อหน้าต่อตา…
“ต้วนหลิงเทียน ข้าไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าเจ้าจะกล้าลงนามในสัญญาประลองเป็นตายและประลองเป็นตายกับข้าแบบนี้…ความกล้าหาญนี้ของเจ้าบอกเลยกระทั่งข้ายังนับถือไม่น้อย! แต่อย่างไรข้าก็ต้องขอบคุณเจ้านัก ที่เจ้าเปิดโอกาสให้ข้าได้ฆ่าเจ้าเพื่อล้างแค้นให้น้องชายของข้า!!”
แทบจะสิ้นคำให้สัญญาณเริ่มประลองของเนี่ยสุ้ย หยางเหวินก็แสยะยิ้มอำมหิต มองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ
ทันทีที่มันกล่าวจบคำ มวลพลังเซียนต้นกำเนิดพลันปะทุออกมาท่วมร่าง! ไอพลังกล้าแกร่งลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ แผ่ซ่านกลิ่นอายอันร้ายกาจออกมากดดันในบรรยากาศ!!
ซู่มม!! ครืน! ครืน!!
…………
ยามเมื่อมวลพลังปะทุออกขึ้นมาท่วมร่างหยางเหวิน บรรยากาศรอบกายของมันก็สะท้านสะเทือนในฉับพลัน บังเกิดคลื่นลมอันรุนแรงปานมหาพายุกวาดซัดออกไปปานจะถล่มโลกหล้า!
มวลพลังมหาศาลแผ่กลิ่นอายร้ายกาจที่ลุกโชนท่วมร่างหยางเหวินยามนี้หาใช่ ‘พลังเซียน’ อีกต่อไป หากแต่เป็น ‘พลังเซียนต้นกำเนิด’!
เมื่อบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ หากคิดบรรลุถึงจุดสูงสุดขอบเขตพลัง ผู้ฝึกตนจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น 9 ครั้ง! จึงเรียกว่า 9 เปลี่ยน!!
และการเปลี่ยนครั้งแรกของขอบเขตเซียนสวรรค์สำหรับผู้ที่พึ่งบรรลุถึงขอบเขตสวรรค์ จนเรียกว่า เซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนก็คือ…การเปลี่ยนแปลงของพลังเซียน! เปลี่ยนพลังเซียนให้กลับกลายเป็นพลังเซียนต้นกำเนิด!!
กล่าวได้ว่าทันทีที่ท่านบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ ท่านก็เสมือนบรรลุการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 1 เปลี่ยนพลังเซียนต้นกำเนิดทันที!
และเมื่อเทียบกับพลังเซียนแล้ว…
พลังเซียนต้นกำเนิดเป็นขุมพลังที่ทรงพลังเหนือชั้นกว่า!