ในอาณาจักรบน ยกเว้นท่านผู้นั้น คนที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดก็คือลั่วชิงเฉิง แต่ลั่วชิงเฉิงใช้เวลาเกือบร้อยปีจากพลังวิญญาณสีทองกว่าจะไปถึงขั้นควบแน่นแหวนวิญญาณได้ ต้องรู้ว่าการควบแน่นแหวนวิญญาณออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน อักขระแต่ละตัวที่ประกอบเป็นแหวนวิญญาณนั้นต้องการพลังวิญญาณจำนวนมาก สามารถพูดได้เลยว่าไม่เคยมีคนเช่นนี้มาก่อนในอาณาจักรบน
สุดท้ายแล้ว……
ก็เป็นอาณาจักรกลางที่มีคนที่สามารถทำลายสถิติการควบแน่นแหวนวิญญาณของลั่วชิงเฉิง นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ถ้าหนานกงเล่ยไม่ได้รับคำตอบเดียวกันจากปากของศิษย์หลายคนของเก้าอาราม เขาคงคิดว่าซูจิ่งเหยียนหลอกเขาแล้ว
“นางแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆหรือ? ข้าไม่เชื่อหรอก ใครจะรู้ว่านังจวินอู๋เสียอะไรนี่มันใช้กลอุบายแบบไหน ข้าไม่เชื่อว่าคนที่อยู่จุดสูงสุดของพลังวิญญาณสีเงินจะควบแน่นแหวนวิญญาณได้ภายใน 5 ปี! ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลแล้วมันจะเป็นอะไร!” ชายร่างสูงคนนั้นพูดด้วยความดูถูกอย่างไม่มีปิดบัง เขาไม่เชื่อคำพูดของซูจิ่งเหยียนเลยสักนิด และคิดว่าซูจิ่งเหยียนเป็นพวกกระต่ายตื่นตูมเท่านั้น ถ้ามีคนน่ากลัวเช่นนั้นในอาณาจักรกลางจริงๆ พวกเขาจะไม่กลายเป็นตัวตลกในสามอาณาจักรหรอกหรือ?
แหวนวิญญาณกลายเป็นของไร้ค่าขนาดนั้นเมื่อไรกัน!
ซูจิ่งเหยียนหน้าซีด เขาเหลือบมองชายคนนั้นแต่ไม่กล้าพูดอะไร แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้อาวุโสของเก้าอาราม แต่ต่อหน้าอาณาจักรบน พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะผายลม
ต้าฮั่นไม่มองซูจิ่งเหยียนอีก แต่มองไปที่หนานกงเล่ย และพูดว่า “ท่านหนานกง จวินอู๋เสียนั่นเป็นแค่เด็กสาวตัวเล็กๆอายุ 20 ต้นๆนางจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว? นางคงไม่คิดว่าตัวเองเป็นท่านชิงเฉิงคนที่สองหรอกใช่ไหม? นางต้องใช้วิธีการบางอย่างหลอกตาพวกโง่เก้าอารามพวกนี้ ตอนนี้เก้าอารามเสริมการป้องกันให้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว ข้าอยากจะเห็นนักว่านางจะเก่งกาจขนาดนั้นจริงๆรึเปล่า นางจะทำได้อย่างที่พูดไว้ว่าจะล้างเก้าอารามด้วยเลือดจริงๆหรือ!”
หนานกงเล่ยไม่พูดอะไรและใคร่ครวญอย่างเงียบๆ
ถ้าสิ่งที่ซูจิ่งเหยียนพูดเป็นความจริง นางก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ
“ไอ้พวกขยะไร้ประโยชน์ รู้ไว้ซะว่าพวกเจ้ามันเป็นไอ้โง่ที่ใช้การอะไรไม่ได้เลยสักนิด” เมื่อต้าฮั่นเห็นหนานกงเล่ยไม่พูดอะไร เขาก็คิดว่าหนานกงเล่ยเห็นด้วยกับตน และเริ่มด่าทอเหล่าผู้อาวุโสของเก้าอารามทันที
“คอยดูเถอะ ตอนนี้การป้องกันของเก้าอารามถูกส่งต่อให้อาณาจักรบนแล้ว ข้าอยากเห็นนักว่าหนูพวกนี้จะต่อต้านเรายังไง!” ต้าฮั่นพูดยังไม่ทันขาดเสียง ก็มีคนรีบวิ่งเข้ามาในห้องโถง คนๆนั้นเป็นคนของอาณาจักรบน ปกติเขาเป็นคนที่เย่อหยิ่งอวดดีมาก แต่วันนี้ใบหน้าของเขากลับซีดเผือด
“เรียนท่านหนานกง! อารามหมาป่าสวรรค์ถูกทำลายแล้ว!” ชายคนนั้นคุกเข่ารายงาน
“อะไรนะ!” ต้าฮั่นผู้หยิ่งยโสมองชายคนนั้นด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
หนานกงเล่ยลุกขึ้นทันที และมองชายที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ
“อารามหมาป่าสวรรค์ถูกทำลาย? หมายความว่ายังไง! พูดมาให้ชัดๆสิ!” ต้าฮั่นก้าวเข้าไปตะโกนใส่ชายคนนั้น
ชายคนนั้นตัวสั่นและร้องออกมาว่า “ข่าวจากอารามหมาป่าสวรรค์เพิ่งมาถึง กองทัพราตรีบุกเข้าไปในอารามหมาป่าสวรรค์ และ……คนของเราตายหมดแล้ว!”