บทที่ 1639 ต้นตอเภทภัย / บทที่ 1640 แย่งคนของผู้นำพันธมิตร

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1639 ต้นตอเภทภัย

กลางคืน

เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนเป็นชุดคล่องตัวก่อนมุ่งหน้าไปตามนัดหมาย

ชั่วครู่ผ่านไปเยี่ยหวันหวั่นก็หยุดที่ซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง

ที่ปลายทางของซอยคือประตูเหล็กเก่าเยินไม่เตะตา ข้างบนเขียนตัวอักษร ‘LD’ สีดำอย่างไก่เขี่ยตามใจ เป็นตัวย่อของ lose-demon ปีศาจที่สูญหาย

นี่คือไนต์คลับที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัฐอิสระ

เยี่ยหวันหวั่นผลักประตูเหล็กเก่าเยินดังเอี๊ยด คลื่นเสียงแหลมเสียดหูดังปะทะใบหน้า แสงไฟพร่างตาทำให้คนตาลาย ข้างในเป็นสถานที่สวยงามราวกับเป็นโลกอีกใบหนึ่ง

เวลานี้คือช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดแล้ว ทุกคนสนุกสุดเหวี่ยง เยี่ยหวันหวั่นหาที่นั่งสักมุมหนึ่ง จากนั้นก็นั่งลงเริ่มรอคนอย่างเบื่อหน่าย

เธอมาล่วงเวลานิดหน่อย ตอนนี้ยังห่างจากเวลานัดครึ่งชั่วโมง

ไม่ว่าซือเยี่ยหานหรือว่าผู้นำอาชูร่า เยี่ยหวันหวั่นจินตนาการสถานการณ์ที่เขามาสถานที่อย่างนี้ ไม่ว่าคิดยังไงก็ดูขัดกันจริงๆ

แต่โชคดีที่วิธีของเธอแม้จะไร้ยางอายสักหน่อยแต่ก็ได้ผล แต่ในฐานะผู้นำอาชูร่าก็ไม่น่าพูดแล้วคืนคำ

อย่างที่คาดเพิ่งถึงเวลานัดหมาย เยี่ยหวันหวั่นก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยที่ประตูทางเข้า

ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตเรียบกริบสไตล์อังกฤษกับเสื้อกั๊กสีขนอูฐ ด้านนอกสวมโค้ตกันลมสีดำ กลิ่นอายเหินห่างสูงส่ง เมื่ออยู่ในผับที่ผู้คนเต้นพล่านก็ดูไม่เข้ากันอย่างยิ่ง แล้วก็ดู….เตะตามาก

สายตาของเยี่ยหวันหวั่นอดจ้องพิจารณาชายหนุ่มขึ้นลงแล้วเดาะลิ้นไม่ได้

ขณะที่ลุกขึ้นเตรียมจะบอกตำแหน่งของตัวเองให้อีกฝ่าย นึกไม่ถึงว่ากลับมีสาวสวยรูปร่างเร่าร้อนคนหนึ่งขวางทางของเขาไว้…

“พี่ชาย ดื่มด้วยกันสักแก้วไหม” สาวสวยเสยเส้นผมลอนใหญ่สวยงามนั้นพลางเข้าไปแนบชิดอย่างคลุมเครือ

ชายหนุ่มจ้องหญิงสาวที่โผล่ออกมาฉับพลันตรงหน้า ดวงตาฉายแววเย็นชาราวกับมองสิ่งไม่มีชีวิต

สาวสวยถูกสายตาเช่นนี้ทำตัวสั่นเล็กน้อย แต่ก็พลันยิ่งสนใจขึ้นมาแล้ว…

เยี่ยหวันหวั่นมองอยู่ไกลๆ หมดคำพูดอยู่บ้าง “จิ๊…”

นี่เพิ่งเดินเข้ามาได้สองก้าวก็ถูกเล็งแล้ว หน้าตานี้ ต้นตอเภทภัยจริงๆ นะ…

คนที่รู้จักหน้าตาของผู้นำอาชูร่ามีอยู่ไม่มาก ผู้หญิงคนนั้นย่อมไม่รู้จักเขา เห็นของชั้นเยี่ยมอย่างนั้นย่อมอยากตกสักหน่อย

เยี่ยหวันหวั่นเพ่งมองหนึ่งทีก็ค้นพบอย่างคาดไม่ถึงว่าสาวสวยคนนั้นกลับเป็นคนคุ้นหน้า เหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าเครือหนึ่งของเครือย่อยพันธมิตรอู๋เว่ย

เห็นแค่ว่าเจียงเหยียนที่ตามอยู่ด้านหลังผู้นำอาชูร่าขวางผู้หญิงคนนั้นเสมือนเทพประตู

“บังอาจ!” ดวงตาเจียงเหยียนเต็มไปด้วยอายสังหารอย่างไร้ซึ่งแววรักหยกถนอมบุบฝา “ไสหัวไป!”

“เฮ้ โอเวอร์จังนะ…นี่ผับ LD นะ ยังไม่มีใครกล้าพูดจาแบบนี้กับมารดามาก่อน…” สีหน้าแย้มยิ้มน้อยๆ ของหญิงสาวพลันทะมึนลง ก่อนจะชักแส้ที่เอวออกมา

เมื่อเห็นแส้กระดูกมังกรอันเป็นเอกลักษณ์นั้น แขกเหรื่อที่อยู่ใกล้เคียงก็พลันเผยสีหน้าหวั่นผวา

หัวหน้าเครือย่อยพันธมิตรอู๋เว่ย…เจ้าแม่ลั่วหลินน่า!

ผู้ชายคนนี้คงไม่อยากมีชีวิตแล้วมั้ง แม้แต่เจ้าแม่ลั่วหลินน่าก็กล้ายั่วยุ!

เจียงเหยียนอดกลั้นความโกรธนานแล้ว เวลานี้ไม่มีความอดทนใดๆ ทั้งสิ้นจึงเข้าไปโจมตีโดยตรง

แขกด้านข้างที่สังเกตเห็นทางนี้พลันมองละครสนุกอย่างตื่นเต้น

“พนันกัน คืนนี้เจ้าแม่จะได้อุ้มคนงามกลับบ้านไหม”

“นี่ยังต้องถามเหรอ ยังมีผู้ชายที่เจ้าแม่เอามาไม่ได้อีกเหรอ”

เสียง ‘สวบ’ แหวกอากาศดังขึ้น แส้ของลั่วหลินน่าฟาดใส่เจียงเหยียนเร็วปานสายฟ้าแลบ

เจียงเหยียนหลบร่างก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่เส้นชีวิตของหญิงสาว

————————————————————————————————

บทที่ 1640 แย่งคนของผู้นำพันธมิตร

บอดี้การ์ดส่วนตัวของผู้นำอาชูร่าจะธรรมดาได้ยังไง ผู้หญิงคนนั้นประมาทครู่เดียวก็ถูกโจมตีที่หน้าอกโดยตรง

ถึงหลบได้ทันก็เกรงว่าบาดเจ็บไม่เบา

หญิงสาวนึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับหลบได้แบบนี้ เธอพลันไม่ประมาทอีก ทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือด

“โอ้ๆๆ —”

เวลานี้บนเก้าอี้บูธแถวที่ใหญ่ที่สุดตรงกลาง คนกลุ่มหนึ่งกำลังมองละครสนุกอย่างโห่ร้องครื้นเครง

วันนี้เบื้องบนและสมาชิกแกนนำของพันธมิตรอู๋เว่ยมาสังสรรค์ดื่มเหล้าอยู่ที่ไนต์คลับ

เมื่อครู่นี้ลั่วหลินน่าบอกว่าเห็นหนุ่มหล่อชั้นดีจึงไปเกี้ยวพาราสีอีกฝ่าย

คนกลุ่มนั้นกำลังพนันกันว่าครั้งนี้ลั่วหลินน่าจะเอาชนะคนได้ในกี่วินาที

“ฮ่าๆๆ …ครั้งนี้หัวหน้าลั่วเจอตอแข็งเข้าแล้ว!”

“ถูกเผง! ยังไงที่ผ่านมาหัวหน้าลั่วอาศัยแค่หน้าตาก็ตกคนได้แล้วนี่นะ!”

“ผู้ชายคนนั้นคือใครน่ะ ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน มาไนต์คลับแถมยังพาบอดี้การ์ดส่วนตัวมาด้วย เป็นคุณชายใหญ่ตระกูลไหนกัน”

“ไม่ว่าเป็นตระกูลไหน คืนนี้ก็ต้องกลายเป็นคนของหัวหน้าลั่วชัวร์ป้าบ ฮ่าๆๆ …”

“พวกนาย เล่นอะไรกัน สนุกขนาดนั้นเชียว? ” เวลานี้เองเป่ยโต่วกับชีซิงก็เดินเข้ามาจากทางเข้าอีกด้านที่ทิศฝั่งตรงข้าม

“ฮ่าๆ หัวหน้าลั่วเห็นหนุ่มหล่อคนหนึ่งเลยเข้าไปจีบแต่ล้มเหลวแล้วก็สู้กับบอดี้การ์ดส่วนตัวของคนเขาขึ้นมา กำลังดุเดือดเลย!” หนึ่งในนั้นพูดอธิบาย

“ว้าว สุดยอดขนาดนั้น! เร็วๆๆ เอาเมล็ดแตงมาให้ฉันกำ!” เป่ยโต่วไม่รอช้าคว้าเมล็ดแตงหนึ่งกำก็เริ่มดูละครสนุกทันที

ส่วนชีซิงที่อยู่ด้านข้างเมื่อเห็นชัดว่าคนที่ลั่วหลินยั่วยุคือใครก็หน้าเปลี่ยนสี เผยท่าทีปวดหัวสุดแสนทันที “แย่แล้ว”

“ละครใหญ่น่าดูขนาดนี้จะแย่ได้ยังไง” เป่ยโต่วกลอกตาใส่ชีซิงหนึ่งทีจากนั้นก็ดูต่อ

ในเวลานี้เอง แสงไฟสายหนึ่งกวาดผ่านทิศทางนั้น สะท้อนใบหน้าของผู้นำอาชูร่ารวมถึงเจียงเหยียนที่กำลังต่อสู้ด้วยกันกับลั่วหลินน่า

“พรวด—แค่กๆๆๆ…” หลังเห็นสองคนนั้นชัด เป่ยโต่วก็ตกใจกลัวจนแทบฉี่ราด ไอจนฟ้าดินสั่นสะเทือน

ชีซิงตบหลังเป่ยโต่วอย่างรังเกียจ

“แม่เจ้า…หลินน่านี่มันรนหาที่ตายนะ…” ในที่สุดเป่ยโต่วก็ไปเมล็ดแตงที่ติดอยู่ในลำคอออกมาแล้วเอ่ยปากอย่างยากลำบาก

“หัวหน้าหลิน! ไปเลย!”

“เอาหมอนั่นเลย!”

เป่ยโต่วมองคนพวกนั้นอย่างเห็นใจ จุดเทียนให้พวกเขาทีละคน

วันนี้เดิมทีเขาล่วงรู้ว่าพี่เฟิงจะเดตกับผู้นำอาชูร่าจึงได้มาคุ้มครอง (มาดูเรื่องซุบซิบ) ไม่นึกว่าหลังมาแล้วจะกลับเห็นว่าพี่น้องกลุ่มหนึ่งของพันธมิตรอู๋เว่ยคืนนี้มีนัดกินดื่มกันที่นี่ เขาจึงเลยมานั่งสักหน่อย

นึกไม่ถึงแม้แต่น้อยว่า…เจ้าพวกนี้กลับก่อเรื่องอย่างนี้ออกมาได้…

“ทะ…ทำยังไงดี พี่เฟิงมาแล้วหรือยัง” เป่ยโต่วถาม

ชีซิงกวาดตามองหนึ่งรอบ สายตาก็หยุดอยู่ตรงที่หนึ่ง “มาแล้ว”

เป่ยโต่วเอ่ย “จบเห่แล้ว…เสี่ยวน่าน่า เชงเม้งหลังจากนี้…ฉันจะจุดธูปให้เธอ…”

เวลานี้พลันมีเสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น ภายใต้การต่อสู้รุนแรง ปลายแส้ของลั่วหลินน่าก็บังเอิญม้วนไปทางผู้นำอาชูร่า

“ผู้นำ—” เจียงเหยียนร้องเสียงตกใจอย่างโมโหเดือด

ส่วนชายหนุ่มยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับสักเสี้ยว แม้แต่ตาก็ไม่กะพริบ

วินาทีถัดมา ไม่รอให้เจียงเหยียนเข้าไปกันไว้ ข้อมือผอมเพรียวข้างหนึ่งจู่ๆ ก็คว้าจับปลายแส้ที่ราวกับทรงพลังทำลายล้างนั้นไว้อย่างมั่นคง

เยี่ยหวันหวั่นกำแส้ไปพลางสบตาสายตากับผู้นำอาชูร่าไปพลาง และไม่ลืมทักทายอย่างยิ้มแย้ม “ไฮ~”

ผู้นำอาชูร่านิ่งเงียบ

ราวกับการไม่ได้รับปฏิกิริยาของชายหนุ่มก็อยู่ในความคาดหมาย เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ถือสาแม้แต่น้อย